xs
xsm
sm
md
lg

ต้องปฏิรูปที่ดิน...ปัญหาท้าทาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

โบราณว่า “น้ำลด ตอผุด” และคราวนี้เป็นยุค “มดกินปลา” อีกด้วย คณะรักษาความสงบยังกวาดล้างข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรรัฐวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งเป็นขี้ข้ารับใช้ระบอบบักเหลี่ยมอย่างต่อเนื่อง บางคนยังแกล้งทำเซ่อ อ้างว่าถ้าลาออกช่วงนี้จะทำให้ตัวเองดูไม่ดี

เป็นวิกฤติทางอาชีพว่างั้นเถอะ! เมื่อตีขลุมเอาว่าการยื้ออยู่ในตำแหน่งหมายถึงความพร้อมเผชิญการพิสูจน์ ที่แท้เป็นท่าทีของการทำใจดีสู้เสือ นึกว่าสิ่งที่ตัวเองได้รับไช้ระบอบบักเหลี่ยมนั้นยังไม่รุนแรงเด่นชัดพอที่จะให้ คสช. เห็นความจำเป็นต้องโยกย้าย

ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องโดนย้าย แม้คนใน คสช. จะไม่รู้ คนอื่นที่ติดตามพฤติกรรมก็จะกระซิบบอก คสช. อันที่จริง ถ้าขี้ข้าบักเหลี่ยมยอมตัดใจขอลาออกยังดูดี มีศักดิ์ศรีเหลือติดตัวบ้าง และแสดงให้บักเหลี่ยมเห็นว่ายังเป็นข้าเก่า จงรักภักดี ไม่สยบให้อำนาจใหม่

รอวันที่ขบวนการบักเหลี่ยมจะหวนคืนสู่อำนาจ แต่ถ้ายังมีท่าทีกำกวม แกล้งเซ่อรอให้ถูกโยกออก จะเป็นตราประทับรับรองสถานภาพ “ขี้ข้าบักเหลี่ยม” แท้จริง ตัวฉาวโฉ่บางคนอาจต้องใช้เวลาเก็บกวาดปฏิกูลเน่าเฟะจากพฤติกรรมตามน้ำ ทวนน้ำ หักดิบ

คณะ คสช. พยายามทำเป็นเปลาะ บั้ง ขั้นตอน ขณะที่ชาวบ้านยังลุ้นให้เดินหน้าต่อเนื่องในการขจัดกลุ่มอิทธิพล อำนาจมืด เช่นขบวนการมาเฟียแท็กซี่สนามบิน เป็นปัญหาเรื้อรัง สร้างความอัปยศให้กิจการสนามบินของประเทศไทยมาหลายสิบปี

ทำให้สนามบินนานาชาติดอนเมือง และสุวรรณภูมิ เป็นความพิสดารของโลก เมื่อไม่มีคิวแท็กซี่สาธารณะเหมือนประเทศอื่นๆ เช่นสิงคโปร์และฮ่องกง เป็นประเทศเดียวที่ “ห้าม” แท็กซี่ไม่มีผู้โดยสารเข้าไปในสนามบิน ทำกันอย่างไม่อายสุนัข ฟ้าดิน

ประเทศไทยจึงมีมาเฟีย ขาใหญ่ทุกวงการ แม้กระทั่งการจับจองพื้นที่ขอทาน!

เอาเหอะ! นี่เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยเมื่อเทียบกับงานใหญ่เช่นการปฏิรูปโครงสร้างของธุรกิจพลังงาน การขุดเจาะ ผลิต กลั่น จำหน่ายผลิตภันฑ์ปิโตรเลียม ซึ่ง คสช. กำลังตั้งท่าจัดการ จะไปได้ไกลแค่ไหน ชาวบ้านได้ประโยชน์แท้จริงหรือไม่ คสช.ต้องใจถึงจริงๆ

เอาแค่ข่าวการลักลอบขุดน้ำมันดิบที่เพชรบูรณ์ยาวนาน 5 ปี ทุกวันมีรถบรรทุกน้ำมันดิบขนเอาไปเข้าโรงกลั่นโดยเจ้าหน้าที่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ผู้ถือสัมปทานขุดเจาะ ผลิตไม่เคยจ่ายเงินภาษีทำให้รัฐเสียประโยชน์เป็นหมื่นๆ ล้านบาท ถือเป็นความพิสดารสุดๆ

ลักลอบตัดไม้ในป่ายังพอทำเนา การขุดเจาะน้ำมันเป็นงานระบบ มีอุปกรณ์ พาหนะสารพัด แต่กลับไม่มีใครรู้เรื่อง แบบนี้กระทรวงพลังงาน องค์กร บริษัทที่รับซื้อน้ำมันเถื่อนต้องถูกสั่งให้มาเล่านิทานให้ คสช. ฟังหน่อย ว่าจะเคลิ้มคล้อยตามได้มั้ย

ไล่ย้อนหลัง ใครเป็นผู้ถือสัมปทาน ใครตรวจสอบการขุดเจาะ สำรวจ มีรายงานหรือไม่ ยิ่งมีการผลิตยาวนาน น้ำมันดิบหลายร้อยล้านลิตร คนที่เกี่ยวข้อง รับผิดชอบตั้งแต่หัวแถวยังหางแถวต้องร่วมมือกันรับผิดชอบ หลังจากได้รับอะไรๆ ไปแล้วเต็มอิ่ม

ก็ว่ากันไป แต่สิ่งที่ท้าทายความใจถึง เจตนารมณ์ของ คสช. คือคำถาม “จะมีการปฏิรูปที่ดิน” หรือไม่ ด้วยการวางโครงสร้างใหม่ การสำรวจกรรมสิทธิที่ดินทั่วประเทศ การถือครองกรรมสิทธิโดยคนไทย คนต่างด้าว ตัวแทนบุคคล และนิติบุคคล

ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยรายข้อมูลน่าตกใจว่าที่ดิน 1 ใน 3 ของประเทศไทยถูกถือกรรมสิทธิครอบครองโดยคนต่างด้าว โดยเฉพาะการผ่านตัวแทนหรือนอมินี มีเสียงร่ำลือถึง “ที่นาอาหรับผืนใหญ่” ในจังหวัดภาคกลาง เช่นสุพรรณบุรี และจังหวัดอื่นๆ

นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่มือเศรษฐกิจใน คสช. ต้องเร่งจัดการ ด้วยความรอบคอบ เด็ดขาด ไล่หาตัวแทนถือกรรมสิทธิ วางโทษหนัก ยึดทรัพย์สิน ด้วยการให้เจ้าของที่ดินรายงานการถือครองที่ดินประเภทต่างๆ เช่นที่อยู่อาศัย การค้า การเกษตร อุตสาหกรรม

ผลสุดท้าย สิ่งที่ประชาชนอยากให้ คสช. ทำให้สำเร็จคือการปฏิรูป เพราะปัจจุบันการถือครองโดยบุคคลและนิติบุคคลอยู่ในรูปแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา ใครมีเงินมากก็กว้านซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไร หวังผลจากเกษตรกรรมขนาดใหญ่ ครอบครองตลาด

มีพวกเจ้าสัว เจ้าของธุรกิจเกษตรขนาดใหญ่ครอบครองที่ดินเป็นหมื่นๆ แสนๆ ไร่ จากการรวบรวมโฉนดโดยธนาคาร และเครือข่ายอิทธิพลในท้องถิ่น ทั้งการติดต่อซื้อขายตามปกติ การบีบบังคับโดยใช้อำนาจมืด ความกดดันทางการเงิน มีหนี้สินเกินตัว

การจำกัดการถือครองโดยบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อการอยู่อาศัย การพาณิชย์ ต่างๆ แต่การเก็งกำไร การถือครองแทนคนต่างด้าว การเป็นเจ้าของที่ดินผืนใหญ่โดยอ้างระบบเศรษฐกิจเสรีเท่ากับสร้างภัยความมั่นคง ปัญหาสังคมรุนแรง

การช่วยเหลือชาวนาจึงไม่ควรจำกัดอยู่ที่การอุดหนุนด้วยเงินในต้นทุนการผลิต การรับซื้อเท่านั้น แต่ต้องให้ชาวนามีกรรมสิทธิในที่ดินแทนการเป็นเพียง “ชาวนาเช่า” ต้นทุนสูง ผลตอบแทนต่ำ ทำให้ชีวิตชาวนา คนในภาคเกษตรจมอยู่ในความทุกข์สาหัส

ถ้าจะให้ประเทศไทยมีฐานอยู่บนเศรษฐกิจพอเพียง ต้องหยุดกระแสทุนนิยมสามานย์ คือเศรษฐกิจเสรีไร้ขอบเขต เหมือบระบบโชวห่วยซึ่งกำลังล่มสลายด้วยอำนาจทุนและข้ออ้างของการพัฒนาโครงสร้างการจำหน่ายสินค้าเพื่อผู้บริโภคในยุคทันสมัย

การจำกัดการถือครองที่ดิน ภายไต้การปฏิรูป จำเป็นต้องใช้อำนาจเด็ดขาด ความตั้งใจอย่างจริงจัง ความกล้าเผชิญแรงต้านโดยอำนาจทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ การไม่เห็นแก่หน้าใคร วงศ์วานว่านเครือ จะมีปัญหาน่าหวั่นสารพัดท้าทายพลังคณะ คสช.

เราดิ้นรนจะเป็นสังคมอาเซียน ทั้งๆ ที่เราล้ำหน้าไปไกลในมิติของความเป็นสากล ดินแดนไทยเป็นพื้นที่ทำกินอย่างสะดวกง่ายดาย ชาวต่างชาติแห่กันเข้ามาอาศัย คนไทยเจ้าของประเทศแท้ๆ กำลังกลายเป็นพลเมืองชั้นสองบนแผ่นดินเกิดของตัวเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น