นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันจะดำเนินการพิจารณาไต่สวน 308 ส.ส. - ส.ว. ปมแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราให้แล้วเสร็จว่า แม้รัฐธรรมนูญจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญของ ป.ป.ช. ยังอยู่ จึงถือว่าเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ที่ ป.ป.ช.ต้องทำให้แล้วเสร็จ ส่วน ส.ส.และส.ว.บางคนที่โดนชี้มูลไปแล้วตาม มาตรา 270 อาทิ ตน เพื่อน ส.ว.อีก 38 คน และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภานั้น ก็ต้องดูอีกว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 ถูกยกเลิกไปแล้ว
นายนิคม กล่าวว่า เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วเสร็จ กระบวนการถอดถอนก็อาจจะให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะตั้งขึ้นตามโรดแมประยะที่ 2 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นฝ่ายดำเนินการก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องดูว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่จะกำกับการทำหน้าที่ จะให้อำนาจ สนช. ในการถอดถอนด้วยหรือไม่ หรือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ อาจจะโละคดีทั้งหมดทิ้งเลยก็เป็นไปได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตนเคารพการดำเนินงานของทุกฝ่ายที่ทำไปตามอำนาจหน้าที่ที่มี หากจะต้องถูกดำเนินคดีต่อก็ไม่ใช่เรื่องน่าห่วงกังวลแต่อย่างใด เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถชี้แจงได้อยู่แล้วว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของส.ส. และ ส.ว.
นายนิคม กล่าวว่า เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วเสร็จ กระบวนการถอดถอนก็อาจจะให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะตั้งขึ้นตามโรดแมประยะที่ 2 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นฝ่ายดำเนินการก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องดูว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่จะกำกับการทำหน้าที่ จะให้อำนาจ สนช. ในการถอดถอนด้วยหรือไม่ หรือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ อาจจะโละคดีทั้งหมดทิ้งเลยก็เป็นไปได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตนเคารพการดำเนินงานของทุกฝ่ายที่ทำไปตามอำนาจหน้าที่ที่มี หากจะต้องถูกดำเนินคดีต่อก็ไม่ใช่เรื่องน่าห่วงกังวลแต่อย่างใด เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถชี้แจงได้อยู่แล้วว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของส.ส. และ ส.ว.