ASTVผู้จัดการรายวัน-สลด! ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังน้ำขาวชนูปถัมภ์ เกิดลมชักขณะขับรถ พุ่งชนนักเรียนป.4 โรงเรียนหนองบัววิทยายน เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 10 ราย ขณะคณะครูนำเข้าชมกิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์ ที่โรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร จ.หนองบัวลำภู สพป.เขต 1 เผยมีเงินประกันกรณีเสียชีวิตรายละ 3 แสนบาท พร้อมเร่งเยียวยาเพิ่มเติม
เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วานนี้ (11 มิ.ย.) พ.ต.ต.กิตติพล สมสิทธิ์ ร้อยเวรสอบสวนสภ.เมือง จ.หนองบัวลำภู รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โรงเรียนหนองบัวพิทยาคารว่า เกิดเหตุรถมิตซูมิซิ ปาเจโร สีดำ ทะเบียน กข 9422 หนองบัวลำภู ขับชนนักเรียนที่กำลังเดินไปชมกิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์ ที่หอประชุมโรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 มิ.ย.2557 จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลหนองบัวลำภู กู้ภัยนเรศวร และกู้ภัยคุณธรรม
ที่เกิดเหตุพบคราบเลือดกองเป็นหย่อมๆ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ตรวจสอบพบว่ารถเป็นของนายบัวลำ โง๊ะบุดดา อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 2 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ (ระดับ 9) โรงเรียนบ้านวังน้ำขาวชนูปถัมภ์ อ.เมือง ซึ่งเป็นคนขับและนั่งไม่รู้สึกตัวอยู่ในรถที่พุ่งชนต้นไม้เกาะกลางถนน หน่วยกู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล
สำหรับนักเรียนที่นำส่งโรงพยาบาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล พยามช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่บาด โดยมีนพ.ศราวุธ สันตินันตรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมอำนวยความสะดวก ซึ่งปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 4 คน คือ ด.ช.ไกรศร จันทอุตสาห์ ด.ญ.ขวัญชีวา ยิ่งวงษ์ ด.ญ.วิลาวรรณ อุประ และด.ญ.สุจิตรา อภิชัย โดยมีนักเรียนบาดเจ็บ 10 ราย อาการสาหัส 1 ราย ทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้น ป. 4 โรงเรียนหนองบัววิทยายน
สอบสวนทราบว่า นายบัวลำทราบว่ามีโรคประจำตัว คือ ลมชัก (ลมบ้าหมู) บ่อยครั้งที่เกิดอาการทั้งที่บ้านและโรงเรียน ครูต้องช่วยกันนวดคลายอาการชักและเกร็ง โดยเคยขับรถตกถนนและเกิดอุบัติเหตุแล้วหลายครั้ง ซึ่งก่อนนี้ จะมีคนขับรถให้ แต่วันเกิดเหตุขับรถมาเพียงคนเดียว โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้น ขณะนายบัวลำพร้อมคณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านวังน้ำขาวชนูปถัมภ์ ได้ตั้งแถวเดินมาชมกิจกรรม
โดยนายบัวลำขับรถยนต์จากบริเวณจัดนิทรรศการภายในโรงเรียนหนองบัวพิทยาคารมาตามถนนในโรงเรียน ซึ่งในขณะนั้นมีนักเรียนและประชาชนทั่วไปกำลังเดินไปชมนิทรรศการ แต่คาดว่านายบัวลำอาจเกิดอาการชักและเกร็ง ไม่สามารถบังคับรถได้ จึงพุ่งชนเด็กนักเรียน ก่อนจะไปชนเฉียวชนรถยนต์เชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน กค 3826 หนองบัวลำภู แล้วพุ่งออกไปชนต้นไม้จนรถหยุดรถตรงเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน
นายสุพจน์ กุหลาบมอญ ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองบัววิทยายน กล่าวว่า การนำนักเรียนไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ได้มอบหมายให้ครูประจำชั้นควบคุมไป และโรงเรียนประกันอุบัติเหตุไว้ทุกคน ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นกำลังเร่งดำเนินการตามระเบียบต่อไป
นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการกพฐ. กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)หนองบัวลำภู เขต 1 ไปช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ส่วงนรายที่เสียชีวิตจะได้รับเงินประกันชีวิตรายละ 300,000 บาท สำหรับนายบัวลำอยู่ระหว่างรักษาตัว ซึ่งคงต้องรับโทษอาญาต่อไป
เย็นวันเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 5 บ.ดอนน้อย ต.หนองภัยศูนย์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นางลำดวน อภิชัย มารดาของด.ญ.สุจิตรา นำศพบุตรสาวมาตั้งบำเพ็ญกุศล โดยกล่าวว่า จะตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้านเพื่อรอสามีที่ไปทำงานต่างจังหวัดกลับมาก่อน จึงจะกำหนดวันฌาปนกิจ ซึ่งไม่คาดคิดว่าลูกจะเสียชีวิตเร็วขนาดนี้ อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ยุติธรรมด้วย ตนไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก เพราะสิ่งที่เสียไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้
นพ.สมชาย โตวณะบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิอายุรกรรม สาขาประสาทวิทยา สถาบันประสาทวิทยา ในฐานะนายกสมาคมโรคลมชักแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคลมชักเกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองบริเวณผิวสมอง ซึ่งจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ซึ่งหากเซลล์สมองเกิดความผิดปกติบริเวณส่วนของการควบคุมกล้ามเนื้อ ก็จะเกิดอาการเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต เกร็ง และกระตุก ซึ่งรายนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากส่วนนี้
"โรคลมชักต้องรักษาด้วยการกินยาอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อหยุดเซลล์ที่ผิดปกติไม่ให้ปล่อยกระแสไฟฟ้า โดยต้องกินต่อเนื่อง สำหรับรายนี้ไม่แน่ใจว่ารู้ตัวมาก่อนหรือไม่ว่าเป็นโรคลมชัก หากรู้ตัวแล้วไม่กินยาอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นความประมาท แต่ถ้าไม่รู้ตัวมาก่อนก็ถือเป็นอุบัติเหตุ"
นพ.สมชาย กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคลมชักไม่ควรขับรถ เพราะหากอาการกำเริบไม่เพียงตัวเองที่จะบาดเจ็บ ยังอาจเกิดอุบัติเหตุเช่นกรณีนี้ ที่น่าห่วง คือ ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายห้ามคนเป็นโรคลมชักขับรถ หากเป็นยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา จะมีกฎหมายระบุไว้ชัดเจน เว้นแต่มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าผู้ป่วยกินยาอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยเกิดอาการชักอย่างต่ำ 6 เดือนถึง 1 ปี จึงจะขับรถได้
เย็นวันเดียวกัน เกิดเหตุระทึกขวัญที่โรงเรียนอนุบาลเมืองเชียงราย(สันทรายราษฎร์นุเคราะห์) หมู่ 9 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อมีรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บพ 4673 เชียงราย พุ่งชนแผงลอยขายขนมหน้าโรงเรียน ทะลุเข้าประตูรั้วโรงเรียนไปชนกับกระถางดอกไม้ และเสาอาคารโรงเรียน รถได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งช่วงเกิดเหตุมีครู ผู้ปกครอง นักเรียน พ่อค้าแม่ค้าอยู่ในบริเวณดังกล่าวหลายคน
อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เป็นแม่ค้าขายขนมหน้าโรงเรียนอายุ 71 ปีคนหนึ่ง ถึงขั้นขาหัก และผู้ปกครองนักเรียน 2 คน โชคดีที่คนอื่นพากันหลบได้ทัน
ต่อมา ตำรวจสภ.เมือง เข้าตรวจสอบ พบว่าคนขับยังอยู่ในรถ คือ นายจรินทร์ วรรณรักษ์ อายุ 43 ปี เป็นครูอาสาสมัครพื้นที่สูง การศึกษานอกโรงเรียน อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล และยังไม่สามารถให้การได้
เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วานนี้ (11 มิ.ย.) พ.ต.ต.กิตติพล สมสิทธิ์ ร้อยเวรสอบสวนสภ.เมือง จ.หนองบัวลำภู รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โรงเรียนหนองบัวพิทยาคารว่า เกิดเหตุรถมิตซูมิซิ ปาเจโร สีดำ ทะเบียน กข 9422 หนองบัวลำภู ขับชนนักเรียนที่กำลังเดินไปชมกิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์ ที่หอประชุมโรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 มิ.ย.2557 จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลหนองบัวลำภู กู้ภัยนเรศวร และกู้ภัยคุณธรรม
ที่เกิดเหตุพบคราบเลือดกองเป็นหย่อมๆ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ตรวจสอบพบว่ารถเป็นของนายบัวลำ โง๊ะบุดดา อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 2 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ (ระดับ 9) โรงเรียนบ้านวังน้ำขาวชนูปถัมภ์ อ.เมือง ซึ่งเป็นคนขับและนั่งไม่รู้สึกตัวอยู่ในรถที่พุ่งชนต้นไม้เกาะกลางถนน หน่วยกู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล
สำหรับนักเรียนที่นำส่งโรงพยาบาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล พยามช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่บาด โดยมีนพ.ศราวุธ สันตินันตรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมอำนวยความสะดวก ซึ่งปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 4 คน คือ ด.ช.ไกรศร จันทอุตสาห์ ด.ญ.ขวัญชีวา ยิ่งวงษ์ ด.ญ.วิลาวรรณ อุประ และด.ญ.สุจิตรา อภิชัย โดยมีนักเรียนบาดเจ็บ 10 ราย อาการสาหัส 1 ราย ทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้น ป. 4 โรงเรียนหนองบัววิทยายน
สอบสวนทราบว่า นายบัวลำทราบว่ามีโรคประจำตัว คือ ลมชัก (ลมบ้าหมู) บ่อยครั้งที่เกิดอาการทั้งที่บ้านและโรงเรียน ครูต้องช่วยกันนวดคลายอาการชักและเกร็ง โดยเคยขับรถตกถนนและเกิดอุบัติเหตุแล้วหลายครั้ง ซึ่งก่อนนี้ จะมีคนขับรถให้ แต่วันเกิดเหตุขับรถมาเพียงคนเดียว โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้น ขณะนายบัวลำพร้อมคณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านวังน้ำขาวชนูปถัมภ์ ได้ตั้งแถวเดินมาชมกิจกรรม
โดยนายบัวลำขับรถยนต์จากบริเวณจัดนิทรรศการภายในโรงเรียนหนองบัวพิทยาคารมาตามถนนในโรงเรียน ซึ่งในขณะนั้นมีนักเรียนและประชาชนทั่วไปกำลังเดินไปชมนิทรรศการ แต่คาดว่านายบัวลำอาจเกิดอาการชักและเกร็ง ไม่สามารถบังคับรถได้ จึงพุ่งชนเด็กนักเรียน ก่อนจะไปชนเฉียวชนรถยนต์เชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน กค 3826 หนองบัวลำภู แล้วพุ่งออกไปชนต้นไม้จนรถหยุดรถตรงเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน
นายสุพจน์ กุหลาบมอญ ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองบัววิทยายน กล่าวว่า การนำนักเรียนไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ได้มอบหมายให้ครูประจำชั้นควบคุมไป และโรงเรียนประกันอุบัติเหตุไว้ทุกคน ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นกำลังเร่งดำเนินการตามระเบียบต่อไป
นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการกพฐ. กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)หนองบัวลำภู เขต 1 ไปช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ส่วงนรายที่เสียชีวิตจะได้รับเงินประกันชีวิตรายละ 300,000 บาท สำหรับนายบัวลำอยู่ระหว่างรักษาตัว ซึ่งคงต้องรับโทษอาญาต่อไป
เย็นวันเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 5 บ.ดอนน้อย ต.หนองภัยศูนย์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นางลำดวน อภิชัย มารดาของด.ญ.สุจิตรา นำศพบุตรสาวมาตั้งบำเพ็ญกุศล โดยกล่าวว่า จะตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้านเพื่อรอสามีที่ไปทำงานต่างจังหวัดกลับมาก่อน จึงจะกำหนดวันฌาปนกิจ ซึ่งไม่คาดคิดว่าลูกจะเสียชีวิตเร็วขนาดนี้ อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ยุติธรรมด้วย ตนไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก เพราะสิ่งที่เสียไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้
นพ.สมชาย โตวณะบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิอายุรกรรม สาขาประสาทวิทยา สถาบันประสาทวิทยา ในฐานะนายกสมาคมโรคลมชักแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคลมชักเกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองบริเวณผิวสมอง ซึ่งจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ซึ่งหากเซลล์สมองเกิดความผิดปกติบริเวณส่วนของการควบคุมกล้ามเนื้อ ก็จะเกิดอาการเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต เกร็ง และกระตุก ซึ่งรายนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากส่วนนี้
"โรคลมชักต้องรักษาด้วยการกินยาอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อหยุดเซลล์ที่ผิดปกติไม่ให้ปล่อยกระแสไฟฟ้า โดยต้องกินต่อเนื่อง สำหรับรายนี้ไม่แน่ใจว่ารู้ตัวมาก่อนหรือไม่ว่าเป็นโรคลมชัก หากรู้ตัวแล้วไม่กินยาอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นความประมาท แต่ถ้าไม่รู้ตัวมาก่อนก็ถือเป็นอุบัติเหตุ"
นพ.สมชาย กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคลมชักไม่ควรขับรถ เพราะหากอาการกำเริบไม่เพียงตัวเองที่จะบาดเจ็บ ยังอาจเกิดอุบัติเหตุเช่นกรณีนี้ ที่น่าห่วง คือ ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายห้ามคนเป็นโรคลมชักขับรถ หากเป็นยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา จะมีกฎหมายระบุไว้ชัดเจน เว้นแต่มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าผู้ป่วยกินยาอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยเกิดอาการชักอย่างต่ำ 6 เดือนถึง 1 ปี จึงจะขับรถได้
เย็นวันเดียวกัน เกิดเหตุระทึกขวัญที่โรงเรียนอนุบาลเมืองเชียงราย(สันทรายราษฎร์นุเคราะห์) หมู่ 9 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อมีรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บพ 4673 เชียงราย พุ่งชนแผงลอยขายขนมหน้าโรงเรียน ทะลุเข้าประตูรั้วโรงเรียนไปชนกับกระถางดอกไม้ และเสาอาคารโรงเรียน รถได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งช่วงเกิดเหตุมีครู ผู้ปกครอง นักเรียน พ่อค้าแม่ค้าอยู่ในบริเวณดังกล่าวหลายคน
อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เป็นแม่ค้าขายขนมหน้าโรงเรียนอายุ 71 ปีคนหนึ่ง ถึงขั้นขาหัก และผู้ปกครองนักเรียน 2 คน โชคดีที่คนอื่นพากันหลบได้ทัน
ต่อมา ตำรวจสภ.เมือง เข้าตรวจสอบ พบว่าคนขับยังอยู่ในรถ คือ นายจรินทร์ วรรณรักษ์ อายุ 43 ปี เป็นครูอาสาสมัครพื้นที่สูง การศึกษานอกโรงเรียน อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล และยังไม่สามารถให้การได้