ระยอง - พบคราบน้ำมันสีดำเป็นทางยาวเกลื่อนชายหาดแม่รำพึงกว่า 2 กม.ส่งกลิ่นเหม็นฉุนจนแสบจมูก นายก อบต.ตะพง พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ เก็บคราบน้ำมันไปตรวจสอบ และประกาศสั่งห้ามประชาชน นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ 7 วัน หวั่นได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อน
วานนี้ (10 มิ.ย.57) ว่าที่ ร.ต.วิษณุพงศ์ วิเชียรรัตนกุล หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมอนุรักษ์ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จังหวัดระยอง พร้อมนายทวีป แสงกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะพง นางอุรณีย์ วัฒนากร นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษจังหวัดระยอง นายธีรยุทธ ตันธีระพลชัย นักวิชาการป่าไม้ ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ทหารพัน ร.6 ค่ายมหาสุรสิงหนาท และเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคราบน้ำมันที่บริเวณชายหาดแม่รำพึง หมู่ 5 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง หลังได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการร้านอาหารชายหาดแม่รำพึงว่า พบคราบน้ำมันคล้ายยางมะตอยเกลื่อนชายหาด
เมื่อไปถึงบริเวณชายหาดพบมีคราบน้ำมันสีดำคล้ายยางมะตอยจำนวนมาก ซึ่งมีกลิ่นเหม็นฉุน จนแสบจมูกอยู่เกลื่อนชายหาดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และจากการตรวจวัดค่าอากาศของเจ้าหน้าที่พบว่า เกินมาตรฐาน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการเก็บคราบน้ำมันตัวอย่างไปตรวจสอบที่สำนักงานพลังงานจังหวัดระยอง พร้อมปิดประกาศสั่งห้ามประชาชนและนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดแม่รำพึง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพราะหวั่นว่าจะได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อนที่มากับคราบน้ำมัน
ว่าที่ ร.ต.วิษณุพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คราบน้ำมันดังกล่าวมีลักษณะคล้ายน้ำมันเตา หรือยางมะตอย ซึ่งเป็นคราบใหม่ ลักษณะเหนียว มีกลิ่นเหม็นน้ำมัน ไม่ปนเปื้อนขยะ หรือทราย ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออกเข้าตรวจสอบว่าเป็นคราบน้ำมันชนิดใด
ด้านนายทวีป กล่าวว่า สังเกตดูแล้วเป็นก้อนยางมะตอยสภาพใหม่ ส่งกลิ่นเหม็นฉุน ขณะนี้ได้ทำการเก็บคราบน้ำมันตัวอย่างไปตรวจสอบที่สำนักงานพลังงานจังหวัดระยองแล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าคราบน้ำมันบริเวณชายหาดแม่รำพึง ได้หายไปนานแล้ว แต่จู่ๆ ก็เกิดเขึ้นอีก ทำให้ส่งผลกระทบต่อร้านค้าและการท่องเที่ยว
"ครั้งนี้ดูแล้วก้อนยางมะตอยอยู่ในสภาพใหม่ จะไปประจวบเหมาะกับเหตุโรงงานไออาร์พีซี ระเบิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะจุดเกิดเหตุเกี่ยวข้องกับน้ำมันเตา อาจมีการปล่อยออกหรือไม่ ซึ่งยังไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร จะได้ดำเนินคดีต่อผู้ที่ลักลอบทิ้งต่อไป"
นายทวีป กล่าวอีกว่า หากเป็นคราบน้ำมันรั่วจากเหตุท่อส่งน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รั่วไหลลงทะเลเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ก็ไม่น่าจะใช่ ซึ่งน้ำมันที่พบในวันนี้เป็นน้ำมันที่ยังใหม่ ถ้าเป็นของเก่าน้ำมันจะเป็นก้อน และจะแข็ง ถูกแดดจะละลาย แต่ที่พบครั้งนี้เป็นของใหม่ยังไม่ทราบว่ามาจากไหน โดยนักวิชาการที่มาตรวจสอบระบุว่า ลอยมาไม่ไกลประมาณ 4 -5 กิโลเมตร จากจุดที่มีน้ำมันรั่วออกมา แต่ไม่ได้ระบุว่ามาจากใคร คือ เหตุการณ์ลักษณะนี้ยังไม่เคยเกิด แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นไวมาก
เบื้องต้นได้ระดมหน่วยงานจากภาครัฐ ทหารพัน ร.6 ค่ายมหาสุรสิงหนาท ช่วยระดมเก็บคราบน้ำมัน และเมื่อช่วงเช้าที่มีคราบน้ำมันเป็นแบบน้ำมันเตาไหลเป็นจุด ก้อนไม่ใหญ่้มากนัก ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ได้เก็บไปแล้ว แต่ขณะนี้คราบน้ำมันดำเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร ซึ่งต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากในการเก็บ ซึ่งนักวิชาการมาตรวจค่าสารเบนซินแล้วพบเกินค่ามาตรฐาน ถ้ามีมากก็ต้องอพยพประชาชน
"ขณะนี้อยู่ในเกณฑ์อันตราย ต้องประกาศไม่ให้นักท่องเที่ยวนั้นลงเล่นน้ำและปิดประกาศไปยังโรงแรมต่างๆ เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำช่วงนี้ รอจนกว่าจะกู้สถานการณ์กลับมาดีขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยต้องตรวจค่าน้ำในทะเลว่าไม่มีสารปนเปื้อนแล้ว จึงจะประกาศให้ลงเล่นน้ำได้ แต่เบื้องต้นต้องเก็บคราบน้ำมันที่ลอยอยู่เต็มหน้าหาดออกไปเสียก่อน เพราะส่งกลิ่นเหม็นมาก"
นายทวีป กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ หรือพนักงานบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เข้ามาตรวจสอบด้วยว่าคราบน้ำมันดังกล่าวเกิดจากสาเหตุของการระเบิดของหน่วยผลิตภายในเขตประกอบการไออาร์พีซีหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ทางบริษัทยังไม่ได้ชี้แจงคราบน้ำมันที่รั่วไหลลงมาตามริมชายหาด ซึ่งต้องรอการชี้แจงอีกครั้ง
วานนี้ (10 มิ.ย.57) ว่าที่ ร.ต.วิษณุพงศ์ วิเชียรรัตนกุล หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมอนุรักษ์ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จังหวัดระยอง พร้อมนายทวีป แสงกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะพง นางอุรณีย์ วัฒนากร นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษจังหวัดระยอง นายธีรยุทธ ตันธีระพลชัย นักวิชาการป่าไม้ ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ทหารพัน ร.6 ค่ายมหาสุรสิงหนาท และเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคราบน้ำมันที่บริเวณชายหาดแม่รำพึง หมู่ 5 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง หลังได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการร้านอาหารชายหาดแม่รำพึงว่า พบคราบน้ำมันคล้ายยางมะตอยเกลื่อนชายหาด
เมื่อไปถึงบริเวณชายหาดพบมีคราบน้ำมันสีดำคล้ายยางมะตอยจำนวนมาก ซึ่งมีกลิ่นเหม็นฉุน จนแสบจมูกอยู่เกลื่อนชายหาดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และจากการตรวจวัดค่าอากาศของเจ้าหน้าที่พบว่า เกินมาตรฐาน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการเก็บคราบน้ำมันตัวอย่างไปตรวจสอบที่สำนักงานพลังงานจังหวัดระยอง พร้อมปิดประกาศสั่งห้ามประชาชนและนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดแม่รำพึง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพราะหวั่นว่าจะได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อนที่มากับคราบน้ำมัน
ว่าที่ ร.ต.วิษณุพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คราบน้ำมันดังกล่าวมีลักษณะคล้ายน้ำมันเตา หรือยางมะตอย ซึ่งเป็นคราบใหม่ ลักษณะเหนียว มีกลิ่นเหม็นน้ำมัน ไม่ปนเปื้อนขยะ หรือทราย ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออกเข้าตรวจสอบว่าเป็นคราบน้ำมันชนิดใด
ด้านนายทวีป กล่าวว่า สังเกตดูแล้วเป็นก้อนยางมะตอยสภาพใหม่ ส่งกลิ่นเหม็นฉุน ขณะนี้ได้ทำการเก็บคราบน้ำมันตัวอย่างไปตรวจสอบที่สำนักงานพลังงานจังหวัดระยองแล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าคราบน้ำมันบริเวณชายหาดแม่รำพึง ได้หายไปนานแล้ว แต่จู่ๆ ก็เกิดเขึ้นอีก ทำให้ส่งผลกระทบต่อร้านค้าและการท่องเที่ยว
"ครั้งนี้ดูแล้วก้อนยางมะตอยอยู่ในสภาพใหม่ จะไปประจวบเหมาะกับเหตุโรงงานไออาร์พีซี ระเบิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะจุดเกิดเหตุเกี่ยวข้องกับน้ำมันเตา อาจมีการปล่อยออกหรือไม่ ซึ่งยังไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร จะได้ดำเนินคดีต่อผู้ที่ลักลอบทิ้งต่อไป"
นายทวีป กล่าวอีกว่า หากเป็นคราบน้ำมันรั่วจากเหตุท่อส่งน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รั่วไหลลงทะเลเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ก็ไม่น่าจะใช่ ซึ่งน้ำมันที่พบในวันนี้เป็นน้ำมันที่ยังใหม่ ถ้าเป็นของเก่าน้ำมันจะเป็นก้อน และจะแข็ง ถูกแดดจะละลาย แต่ที่พบครั้งนี้เป็นของใหม่ยังไม่ทราบว่ามาจากไหน โดยนักวิชาการที่มาตรวจสอบระบุว่า ลอยมาไม่ไกลประมาณ 4 -5 กิโลเมตร จากจุดที่มีน้ำมันรั่วออกมา แต่ไม่ได้ระบุว่ามาจากใคร คือ เหตุการณ์ลักษณะนี้ยังไม่เคยเกิด แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นไวมาก
เบื้องต้นได้ระดมหน่วยงานจากภาครัฐ ทหารพัน ร.6 ค่ายมหาสุรสิงหนาท ช่วยระดมเก็บคราบน้ำมัน และเมื่อช่วงเช้าที่มีคราบน้ำมันเป็นแบบน้ำมันเตาไหลเป็นจุด ก้อนไม่ใหญ่้มากนัก ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ได้เก็บไปแล้ว แต่ขณะนี้คราบน้ำมันดำเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร ซึ่งต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากในการเก็บ ซึ่งนักวิชาการมาตรวจค่าสารเบนซินแล้วพบเกินค่ามาตรฐาน ถ้ามีมากก็ต้องอพยพประชาชน
"ขณะนี้อยู่ในเกณฑ์อันตราย ต้องประกาศไม่ให้นักท่องเที่ยวนั้นลงเล่นน้ำและปิดประกาศไปยังโรงแรมต่างๆ เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำช่วงนี้ รอจนกว่าจะกู้สถานการณ์กลับมาดีขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยต้องตรวจค่าน้ำในทะเลว่าไม่มีสารปนเปื้อนแล้ว จึงจะประกาศให้ลงเล่นน้ำได้ แต่เบื้องต้นต้องเก็บคราบน้ำมันที่ลอยอยู่เต็มหน้าหาดออกไปเสียก่อน เพราะส่งกลิ่นเหม็นมาก"
นายทวีป กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ หรือพนักงานบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เข้ามาตรวจสอบด้วยว่าคราบน้ำมันดังกล่าวเกิดจากสาเหตุของการระเบิดของหน่วยผลิตภายในเขตประกอบการไออาร์พีซีหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ทางบริษัทยังไม่ได้ชี้แจงคราบน้ำมันที่รั่วไหลลงมาตามริมชายหาด ซึ่งต้องรอการชี้แจงอีกครั้ง