00 หากนับจากวันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยาฯ ก็เหลือเวลาอีกประมาณ 3 เดือนกว่า ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญ นั่นคือเป็นของสิ้นปีงบประมาณ วันที่ข้าราชการต้องเกษียณอายุราชการ และที่สำคัญในจำนวนนั้นก็มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องเกษียณฯ ด้วย รวมไปถึงบรรดา รอง คสช. ท่านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ผบ.สส. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทอ. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง และ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย เป็นต้น และนี่อาจเป็นโรดแมปขั้นตอนที่สอง ของหัวหน้าคสช. ที่กำหนดเวลาในเรื่องการมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และรัฐบาลใหม่ในอีกสามเดือนข้างหน้า หรือเปล่า !!
00 เพราะหากพิจารณาจากช่วงเวลา มันก็มาบรรจบกันพอดีในเรื่องการเกษียณฯ ของ บรรดา คสช. และตามขั้นตอนเมื่อมีการเกษียณฯ ก็ต้องมีการแต่งตั้งคนใหม่ขึ้นมาแทน โดยเฉพาะคนที่จะมานั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. คนใหม่ ว่าจะเป็นใคร ซึ่งคงมีการวางตัวคนที่ไว้ใจได้เรียบร้อยแล้ว แต่ที่น่าจับตาก็คือ เส้นทางหลังจากพ้นจากราชการทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะเดินไปทางไหน แม้ว่าตำแหน่งหัวหน้าคสช. ยังอยู่ แต่อีกสามเดือนข้างหน้าจะมีนายกฯใหม่ มีธรรมนูญการปกครอง มีสภานิติบัญญัติ มีสภาปฏิรูป แล้วรูปแบบโครงสร้าง จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือเปล่า
00 เริ่มมีเสียงสนับสนุนมากขึ้นให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเองเสียเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เพราะรับรู้กันอยู่แล้วในสถานการณ์ "พิเศษ" แบบนี้ ทุกอย่างต้องใช้อำนาจเด็ดขาด รวดเร็ว สำหรับการผ่าตัดแทบทุกเรื่อง หรือตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ เช่นเดียวกับปัญหาของบ้านเมืองที่เข้าขั้นวิกฤติ ต้องมีการสั่งการที่เฉียบขาดฉับไว ปล่อยไว้นาน หรือมีขั้นตอนมากมาย ย่อมไม่ทันการณ์ เยิ่นเย้อ ขอเพียงแต่คนที่เป็นผู้นำมีใจสุจริต ทำเพื่อบ้านเมืองส่วนรวม แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะเชื่อว่าแต่ละปัญหาหลักๆ ต้องมีการรวบรวมเอาไว้หมดแล้ว ลงมือทำ โชะ โชะ มันก็เห็นผลทันตาอยู่แล้ว
00 นาทีนี้ คนก็รับรู้แล้วว่า ตำแหน่งหัวหน้า คสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นยิ่งกว่านายกฯ เพราะรวมศุนย์ทุกอย่าง ทั้งบริหาร นิติบัญญัติ หรือแม้แต่ตุลาการด้วย ดังนั้นกะอีแค่นั่งนายกฯเสียเองจะเป็นไรไป ไม่ต้องไปกระมิดกระเมี้ยน เกรงว่าต่างชาติจะตำหนิ มีภาพลักษณ์ของทหารเข้ามาควบคุม ก็มันใช่อยู่แล้ว ปิดบังไม่ได้ แต่ในเมื่อยืนยันว่า "เข้ามาควบคุมชั่วคราว" มีภารกิจปฏิรูปทุกภาคส่วนในระยะกำหนดไว้ชัดเจนว่าใช้เวลาประมาณ 1 ปีถึงปีครึ่ง จากนั้นก็ปล่อยมือเข้าสู่ช่วงประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ก็ลุยเลย ไม่ต้องไปสนใจ จะได้รู้กันไป สำเร็จทำจริงตามสัญญา เอาไปเลย "ช่อดอกไม้วีระบุรุษ" ซึ่งในช่วงเวลา 3 เดือนนับจากนี้ "ต้องเห็นน้าเห็นหลัง" แต่ในทางตรงข้าม ถ้าไม่จริงใจ หรือทำแบบ "สมบัติผลัดกันชม" ถึงตอนนั้นก็ต้องโดนแน่ และจะโดนเต็มๆ เช่นเดียวกัน อย่าลืมว่าตอนนี้ชาวบ้านเขาให้โอกาส มีความศรัทธา ดังนั้นอย่าต้ม อย่าทำลายความศรัทธาเป็นอันขาด !!
00 ปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งแก้ปัญหาให้ตกก็คือ เรื่องปัญหาปากท้อง เรื่องราคาสินค้า ราคาพืชผลทางการเกษตรหลักๆ ต้องขจัดปัดเป่าให้ได้โดยเร็ว เรื่องแรกที่เริ่มทำไปบ้างแล้วก็คือ การตรึงราคาสินค้าไปถึงปลายปี ซึ่งก็น่าจะได้รับความร่วมมือดีจากบรรดาพ่อค้า ต่อมาก็คือเรื่องราคาสินค้าเกษตร ที่เฉพาะหน้าตอนนี้ก็คือ ราคาผลไม้ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาด ต้องรีบกระจายให้เร็วที่สุด ลดตลาดส่วนเกิน เช่น ผลไม้จากตะวันออกไปเหนือ อีสาน หรือจากเหนือลงใต้ เป็นต้น หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องร่วมมือกันให้เร็ว เพราะปัญหาแบบนี้มันเกิดขึ้นทุกปี ซึ่งจะว่าไปแล้ว การขนผลผลิตเหล่านี้ใช้งบประมาณไม่มาก แต่ถ้าทำเร็วมันก็ไม่เสียหาย ได้ผลคุ้มค่า ถัดมาก็เรื่องข้าวที่กำลังจะออกมา เรื่องยางพารา ที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ จะแก้ปัญหาให้ราคากระเตื้องขึ้นมาอย่างไร เพราะเรื่องเหล่านี้คือ "ความมั่นคง" ซึ่งแก้ปัญหาได้ ถ้าจริงใจ ไม่ทุจริต !!
00 สิ่งที่ชาวบ้านทั่วไปอยากเห็นก็คือ องคาพยพในรัฐบาลใหม่ ต้องปลอดจากนักการเมืองทั้งหลายทั้งปวง เพราะเชื่อว่าคนพวกนี้ใช้ไม่ได้ และโกงทุกคน ขณะเดียวกันเรื่องการปฏิรูป ก็ไม่ต่างกันต้องไม่ให้นักการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว ต้องให้คนอื่นที่ไม่มีส่วนได้เสียเป็นคนกำหนดกติกาให้เข้มงวด รัดกุม จากนั้นค่อยเปิดทางให้เข้ามา ส่วนคนที่ร่างกติกา หากจะลงสู่สนามการเมืองก็ต้อง "เว้นวรรค" ไปสักระยะหนึ่งก่อน ที่สำคัญกระบวนการตรวจสอบ จะต้องเข้มงวดและมีที่มาโปร่งใสจริงๆ เนื่องจากเรื่องนี้แหละสำคัญที่สุดต่อประชาธิปไตยในระยะยาว เมื่อมีการปล่อยมือไปสู่พรรคการเมืองและ นักการเมืองแล้ว !!
00 เพราะหากพิจารณาจากช่วงเวลา มันก็มาบรรจบกันพอดีในเรื่องการเกษียณฯ ของ บรรดา คสช. และตามขั้นตอนเมื่อมีการเกษียณฯ ก็ต้องมีการแต่งตั้งคนใหม่ขึ้นมาแทน โดยเฉพาะคนที่จะมานั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. คนใหม่ ว่าจะเป็นใคร ซึ่งคงมีการวางตัวคนที่ไว้ใจได้เรียบร้อยแล้ว แต่ที่น่าจับตาก็คือ เส้นทางหลังจากพ้นจากราชการทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะเดินไปทางไหน แม้ว่าตำแหน่งหัวหน้าคสช. ยังอยู่ แต่อีกสามเดือนข้างหน้าจะมีนายกฯใหม่ มีธรรมนูญการปกครอง มีสภานิติบัญญัติ มีสภาปฏิรูป แล้วรูปแบบโครงสร้าง จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือเปล่า
00 เริ่มมีเสียงสนับสนุนมากขึ้นให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเองเสียเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เพราะรับรู้กันอยู่แล้วในสถานการณ์ "พิเศษ" แบบนี้ ทุกอย่างต้องใช้อำนาจเด็ดขาด รวดเร็ว สำหรับการผ่าตัดแทบทุกเรื่อง หรือตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ เช่นเดียวกับปัญหาของบ้านเมืองที่เข้าขั้นวิกฤติ ต้องมีการสั่งการที่เฉียบขาดฉับไว ปล่อยไว้นาน หรือมีขั้นตอนมากมาย ย่อมไม่ทันการณ์ เยิ่นเย้อ ขอเพียงแต่คนที่เป็นผู้นำมีใจสุจริต ทำเพื่อบ้านเมืองส่วนรวม แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะเชื่อว่าแต่ละปัญหาหลักๆ ต้องมีการรวบรวมเอาไว้หมดแล้ว ลงมือทำ โชะ โชะ มันก็เห็นผลทันตาอยู่แล้ว
00 นาทีนี้ คนก็รับรู้แล้วว่า ตำแหน่งหัวหน้า คสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นยิ่งกว่านายกฯ เพราะรวมศุนย์ทุกอย่าง ทั้งบริหาร นิติบัญญัติ หรือแม้แต่ตุลาการด้วย ดังนั้นกะอีแค่นั่งนายกฯเสียเองจะเป็นไรไป ไม่ต้องไปกระมิดกระเมี้ยน เกรงว่าต่างชาติจะตำหนิ มีภาพลักษณ์ของทหารเข้ามาควบคุม ก็มันใช่อยู่แล้ว ปิดบังไม่ได้ แต่ในเมื่อยืนยันว่า "เข้ามาควบคุมชั่วคราว" มีภารกิจปฏิรูปทุกภาคส่วนในระยะกำหนดไว้ชัดเจนว่าใช้เวลาประมาณ 1 ปีถึงปีครึ่ง จากนั้นก็ปล่อยมือเข้าสู่ช่วงประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ก็ลุยเลย ไม่ต้องไปสนใจ จะได้รู้กันไป สำเร็จทำจริงตามสัญญา เอาไปเลย "ช่อดอกไม้วีระบุรุษ" ซึ่งในช่วงเวลา 3 เดือนนับจากนี้ "ต้องเห็นน้าเห็นหลัง" แต่ในทางตรงข้าม ถ้าไม่จริงใจ หรือทำแบบ "สมบัติผลัดกันชม" ถึงตอนนั้นก็ต้องโดนแน่ และจะโดนเต็มๆ เช่นเดียวกัน อย่าลืมว่าตอนนี้ชาวบ้านเขาให้โอกาส มีความศรัทธา ดังนั้นอย่าต้ม อย่าทำลายความศรัทธาเป็นอันขาด !!
00 ปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งแก้ปัญหาให้ตกก็คือ เรื่องปัญหาปากท้อง เรื่องราคาสินค้า ราคาพืชผลทางการเกษตรหลักๆ ต้องขจัดปัดเป่าให้ได้โดยเร็ว เรื่องแรกที่เริ่มทำไปบ้างแล้วก็คือ การตรึงราคาสินค้าไปถึงปลายปี ซึ่งก็น่าจะได้รับความร่วมมือดีจากบรรดาพ่อค้า ต่อมาก็คือเรื่องราคาสินค้าเกษตร ที่เฉพาะหน้าตอนนี้ก็คือ ราคาผลไม้ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาด ต้องรีบกระจายให้เร็วที่สุด ลดตลาดส่วนเกิน เช่น ผลไม้จากตะวันออกไปเหนือ อีสาน หรือจากเหนือลงใต้ เป็นต้น หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องร่วมมือกันให้เร็ว เพราะปัญหาแบบนี้มันเกิดขึ้นทุกปี ซึ่งจะว่าไปแล้ว การขนผลผลิตเหล่านี้ใช้งบประมาณไม่มาก แต่ถ้าทำเร็วมันก็ไม่เสียหาย ได้ผลคุ้มค่า ถัดมาก็เรื่องข้าวที่กำลังจะออกมา เรื่องยางพารา ที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ จะแก้ปัญหาให้ราคากระเตื้องขึ้นมาอย่างไร เพราะเรื่องเหล่านี้คือ "ความมั่นคง" ซึ่งแก้ปัญหาได้ ถ้าจริงใจ ไม่ทุจริต !!
00 สิ่งที่ชาวบ้านทั่วไปอยากเห็นก็คือ องคาพยพในรัฐบาลใหม่ ต้องปลอดจากนักการเมืองทั้งหลายทั้งปวง เพราะเชื่อว่าคนพวกนี้ใช้ไม่ได้ และโกงทุกคน ขณะเดียวกันเรื่องการปฏิรูป ก็ไม่ต่างกันต้องไม่ให้นักการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว ต้องให้คนอื่นที่ไม่มีส่วนได้เสียเป็นคนกำหนดกติกาให้เข้มงวด รัดกุม จากนั้นค่อยเปิดทางให้เข้ามา ส่วนคนที่ร่างกติกา หากจะลงสู่สนามการเมืองก็ต้อง "เว้นวรรค" ไปสักระยะหนึ่งก่อน ที่สำคัญกระบวนการตรวจสอบ จะต้องเข้มงวดและมีที่มาโปร่งใสจริงๆ เนื่องจากเรื่องนี้แหละสำคัญที่สุดต่อประชาธิปไตยในระยะยาว เมื่อมีการปล่อยมือไปสู่พรรคการเมืองและ นักการเมืองแล้ว !!