00 ในที่สุดก็เป็นไปตามคำพูดของ พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากที่รัฐประหารยึดอำนาจหมาดๆ ว่า "ผมขอรับผิดชอบเอง" ความหมายก็คือทุกสิ่งทุกอย่างนับจากนี้ไป เขาขอรับผิดชอบผลที่จะตามมาในอนาคตด้วยตัวเอง เมื่อแบกความรับผิดชอบไว้เต็มบ่า ก็ต้องมีอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทุกอย่างจึงต้อง "รวมศูนย์" แม้ว่าในภาพรวมจะเห็นว่า มีการกระจายแบ่งงานกันทำ แต่ผลสุดท้ายก็ต้องมาจบลงที่ "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ"หรือ คสช. และคนที่ชี้ขาดก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
00 แน่นอนว่า เวลานี้ยังไม่มี นายกฯ ไม่มีครม. ไม่มีสภา รวมทั้งไม่มีรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีธรรมนูญการปกครอง ทุกอย่างก็ต้องเป็นคำสั่ง จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์พิเศษและฉุกเฉินแบบนี้ บางครั้งก็ต้องมีความเด็ดขาดแบบพิเศษเหมือนกัน เพื่อที่ขับเคลื่อนสะสางปัญหา และอุปสรรคที่หมักหมมมานานให้เดินหน้าไปได้รวดเร็ว เพราะหากใช้วิธีการแบบปกติ วิพากษ์วิจารณ์ มัวแต่บ้าน้ำลายกัน มันก็สายเกินไป ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้ปั่นป่วนวิกฤติลงไปกว่าเดิมอีก และเมื่อเขาแอ่นอกรับผิดชอบเพียงผู้เดียว นั่นก็หมายความว่า เขาพร้อมรับทุกสภาพ ทั้ง "ดอกไม้และก้อนอิฐ" ทุกอย่างเขาเป็นคนกำหนดเอง
00 ตามคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่า จะมีนายกฯ คนใหม่ และรัฐบาลใหม่ในราว 2-3 เดือนข้างหน้า และมีคำถามเล็กๆ ว่าแล้วใครจะมาเป็นนายกฯ จะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ หรือเปล่า เชื่อว่า นาทีนี้ไม่มีความหมายว่าจะเป็นใคร เพราะถึงอย่างไรคนที่ควบคุม และกำกับดูแลสูงสุดก็ยังเป็น เขา และ คสช. อยู่ดี ดังนั้นถ้าเป็นไปได้พล.อ.ประยุทธ์ นั่นแหละ น่าจะเป็นนายกฯ เสียเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการกลั่นกรองกันหลายขั้นตอน อีกทั้งนาทีนี้ ไม่ต้องแคร์แล้วว่าทั้งในและต่างประเทศ จะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไร ไม่ต้องไปสนใจ "ขี้ปาก" ชาวบ้าน หากเรามีความมุ่งมั่น ก็ลุยให้เต็มเหนี่ยว หากต้องการ "ปฏิรูป ปฏิวัติ" กันอย่างขนานใหญ่ ก็ต้องเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างนี้แหละ เพราะรวมเวลาประมาณ 1ปี ถึงปีครึ่ง มันไม่นานเท่าไหร่หรอก ถึงตอนนั้นถ้ามันไม่เอาอ่าว ไม่สมกับที่ไว้วางใจ ให้โอกาส แค่สองสามเดือน มันก็พอเห็นแนวโน้ม ถึงตอนนั้นก็ต้อง "โดนแน่" สั้นๆ แค่นี้แหละ !!
00 แนวโน้มค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า คสช.ใช้ "เนติบริกร" วิษณุ เครืองาม มาดูแลคุมเกมการร่าง รัฐธรรมนูญ และปฏิรูปกฎหมายทั้งหมด ประเดิมจากการ ร่าง ธรรมนูญการปกครอง ที่จะคลอดออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า มองในภาพรวมถือว่าใช้ได้ ในฐานะมือเก๋า ใช้จริงได้เลย ส่วนฝีมือความแม่นกฎบัตรกฎหมาย รับรองว่าโอเคไม่มีปัญหา แต่ปัญหาก็คือ เขาจะใช้ให้ไปทางไหน ต่างหาก !!
00 ยืนยันให้ชัดเจนอีกครั้งจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป ขณะเดียวกัน เป็นหน้าที่ของ รองหัวหน้า คสช. ฝ่ายเศรษฐกิจ อย่าง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ว่าจะไปวางกรอบต่อไป ผลจะออกมาแบบไหน จะถึงขั้นปรับโครงสร้างขนานใหญ่ หรือเปล่า หรือเพียงแตะๆ ฉาบฉวย แบบลดราคาน้ำมันเอาใจกันแบบ "ประชานิยม" ซื้อใจกับแบบฉาบฉวยอีกหรือเปล่า เวลางวดเข้ามาแล้ว !!
00 ทนแรงบีบ ทนต่อสายตาที่เฝ้าจับตาทุกฝีก้าวไม่ไหว ทำให้เริ่มเห็นบรรดาบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ที่เป็นลิ่วล้อระบอบทักษิณ ต่างทยอยกันลาออกกันเรื่อยๆ เท่าที่เห็นก็มี น.ต.ศิธา ธิวารี ประธานบอร์ด ทอท. เชื่อว่า ยังมีรัฐวิสาหกิจอีกหลายแห่งที่ต้องตามมา เพราะมีการส่งสัญญาณบีบชัดเจนมาแล้ว แต่ปัญหาก็คือ คนที่เสียบเข้าไปแทน จะมาในลักษณะ "สมบัติผลัดกันชม" หรือเปล่า นี่สิน่าเบื่อกว่า และคสช.โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ระวังพวกเหลือบรายใหม่ ที่เริ่มปรากฏตัวให้เห็นตัวตนกันบ้างแล้ว ระวังให้ดีก็แล้วกันว่าจะพังก่อนงานใหญ่สำเร็จ !!
00 แน่นอนว่า เวลานี้ยังไม่มี นายกฯ ไม่มีครม. ไม่มีสภา รวมทั้งไม่มีรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีธรรมนูญการปกครอง ทุกอย่างก็ต้องเป็นคำสั่ง จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์พิเศษและฉุกเฉินแบบนี้ บางครั้งก็ต้องมีความเด็ดขาดแบบพิเศษเหมือนกัน เพื่อที่ขับเคลื่อนสะสางปัญหา และอุปสรรคที่หมักหมมมานานให้เดินหน้าไปได้รวดเร็ว เพราะหากใช้วิธีการแบบปกติ วิพากษ์วิจารณ์ มัวแต่บ้าน้ำลายกัน มันก็สายเกินไป ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้ปั่นป่วนวิกฤติลงไปกว่าเดิมอีก และเมื่อเขาแอ่นอกรับผิดชอบเพียงผู้เดียว นั่นก็หมายความว่า เขาพร้อมรับทุกสภาพ ทั้ง "ดอกไม้และก้อนอิฐ" ทุกอย่างเขาเป็นคนกำหนดเอง
00 ตามคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่า จะมีนายกฯ คนใหม่ และรัฐบาลใหม่ในราว 2-3 เดือนข้างหน้า และมีคำถามเล็กๆ ว่าแล้วใครจะมาเป็นนายกฯ จะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ หรือเปล่า เชื่อว่า นาทีนี้ไม่มีความหมายว่าจะเป็นใคร เพราะถึงอย่างไรคนที่ควบคุม และกำกับดูแลสูงสุดก็ยังเป็น เขา และ คสช. อยู่ดี ดังนั้นถ้าเป็นไปได้พล.อ.ประยุทธ์ นั่นแหละ น่าจะเป็นนายกฯ เสียเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการกลั่นกรองกันหลายขั้นตอน อีกทั้งนาทีนี้ ไม่ต้องแคร์แล้วว่าทั้งในและต่างประเทศ จะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไร ไม่ต้องไปสนใจ "ขี้ปาก" ชาวบ้าน หากเรามีความมุ่งมั่น ก็ลุยให้เต็มเหนี่ยว หากต้องการ "ปฏิรูป ปฏิวัติ" กันอย่างขนานใหญ่ ก็ต้องเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างนี้แหละ เพราะรวมเวลาประมาณ 1ปี ถึงปีครึ่ง มันไม่นานเท่าไหร่หรอก ถึงตอนนั้นถ้ามันไม่เอาอ่าว ไม่สมกับที่ไว้วางใจ ให้โอกาส แค่สองสามเดือน มันก็พอเห็นแนวโน้ม ถึงตอนนั้นก็ต้อง "โดนแน่" สั้นๆ แค่นี้แหละ !!
00 แนวโน้มค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า คสช.ใช้ "เนติบริกร" วิษณุ เครืองาม มาดูแลคุมเกมการร่าง รัฐธรรมนูญ และปฏิรูปกฎหมายทั้งหมด ประเดิมจากการ ร่าง ธรรมนูญการปกครอง ที่จะคลอดออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า มองในภาพรวมถือว่าใช้ได้ ในฐานะมือเก๋า ใช้จริงได้เลย ส่วนฝีมือความแม่นกฎบัตรกฎหมาย รับรองว่าโอเคไม่มีปัญหา แต่ปัญหาก็คือ เขาจะใช้ให้ไปทางไหน ต่างหาก !!
00 ยืนยันให้ชัดเจนอีกครั้งจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป ขณะเดียวกัน เป็นหน้าที่ของ รองหัวหน้า คสช. ฝ่ายเศรษฐกิจ อย่าง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ว่าจะไปวางกรอบต่อไป ผลจะออกมาแบบไหน จะถึงขั้นปรับโครงสร้างขนานใหญ่ หรือเปล่า หรือเพียงแตะๆ ฉาบฉวย แบบลดราคาน้ำมันเอาใจกันแบบ "ประชานิยม" ซื้อใจกับแบบฉาบฉวยอีกหรือเปล่า เวลางวดเข้ามาแล้ว !!
00 ทนแรงบีบ ทนต่อสายตาที่เฝ้าจับตาทุกฝีก้าวไม่ไหว ทำให้เริ่มเห็นบรรดาบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ที่เป็นลิ่วล้อระบอบทักษิณ ต่างทยอยกันลาออกกันเรื่อยๆ เท่าที่เห็นก็มี น.ต.ศิธา ธิวารี ประธานบอร์ด ทอท. เชื่อว่า ยังมีรัฐวิสาหกิจอีกหลายแห่งที่ต้องตามมา เพราะมีการส่งสัญญาณบีบชัดเจนมาแล้ว แต่ปัญหาก็คือ คนที่เสียบเข้าไปแทน จะมาในลักษณะ "สมบัติผลัดกันชม" หรือเปล่า นี่สิน่าเบื่อกว่า และคสช.โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ระวังพวกเหลือบรายใหม่ ที่เริ่มปรากฏตัวให้เห็นตัวตนกันบ้างแล้ว ระวังให้ดีก็แล้วกันว่าจะพังก่อนงานใหญ่สำเร็จ !!