นายจิรชัย มูลทองโร่ย ผู้ตรวจการสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้เร่งดำเนินการตามนโยบายปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ด้วยการลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจแนวทางการปรองดองสมานฉันท์ สลายสีเสื้อ พร้อมกับเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นแนวทางการปฏิรูประบบราชการ โดยจัดเวทีทั้งระดับจังหวัดที่มีเฉพาะส่วนราชการ คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ และเวทีระดับท้องถิ่น โดยมีประชาชน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเทศบาล ร่วมเวทีพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยมีเป้าหมายเก็บข้อมูลสะท้อนปัญหาและความต้องการของท้องถิ่นนำเสนอส่วนกลาง คือคณะรักษาความสงบ(คสช.) เพื่อนำไปจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฎิรูปด้วย
ทั้งนี้ เวทีดังกล่าวจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16 มิ.ย. - 2 ก.ค.นี้ โดยคณะผู้บริหาร สปน. พร้อมคณะจะเดินทางลงพื้นที่ 5 จังหวัดประกอบด้วย สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส โดยช่วงแรกประชุมร่วมกับส่วนราชการเพื่อมอบนโยบายธรรมาภิบาล และการแก้ไขปัญหาการทุจริต คอร์รัปชันตามนโยบาย สปน. และ คสช.ด้วยพร้อมกับตรวจสอบและเร่งรัดการใช้งบประมาณจังหวัดที่แต่ละจังหวัดได้รับปีละ 100 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นการเบิกจ่ายภาครัฐให้ทันปีงบประมาณ 2557 เพื่อเป็นการกำชับการเบิกจ่ายต้องโปร่งใส และตรวจสอบได้ตามนโยบาย คสช. ด้วย
อย่างไรก็ตามในการเปิดเวทีร่วมกับ อบต. อบจ. เทศบาล และประชาชน จะเป็นการให้ข้อมูลและเปิดเวทีให้สะท้อนความต้องการหรือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ หรือแนวทางในการปฏิรูป โดยเฉพาะระบบราชการ ควรจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และโอกาสนี้จะเป็นการขับเคลื่อนนโยบายการสนับสนุนโครงการพระราชดำริตามแนวนโยบายของ คสช. ในระดับพื้นที่โดยเฉพาะโครงการปิดทองหลังพระ เช่น ที่จังหวัดสงขลาจะมีการขยายโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาท ในการแก้ขไปัญหาความยากจน ด้วยปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
**"พุทธิพงษ์"หนุนคสช.เดินหน้าปรองดอง
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หนึ่งในแกนนำของกลุ่ม กปปส.ได้โพสข้อความในเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า วันนี้ไม่ว่าท่านจะสีเสื้ออะไรคิดต่างกันทางการเมืองขนาดไหนคงต้องหยุดพัก และคิดให้ดีกว่า 10 ปีที่ผ่านมา คนไทยแตกแยกไม่ใครได้ประโยชน์ไม่มีใครแพ้ไม่มีใครชนะอย่างถาวรแต่ประเทศไทยบอบช้ำ ไม่ได้คิดว่าการรัฐประหารเป็นสิ่งที่ดีสำหรับระบอบประชาธิประไตยแต่อาจมีความจำเป็นเพื่อยุติความแตกแยกและความขัดแย้งของคนไทย หยุดความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดซ้ำเติมประเทศไทย
จากวันนี้ต้องไม่มีพวกไม่มีฝ่ายจากนี้ไปประเทศไทยจะมีแต่เรา เราคนไทยที่ช่วยกันนำพาประเทศไปด้วยกันไม่มีแบ่งสีเสื้อ เพราะเราแตกแยกกันมากว่า10ปี ไม่มีใครได้ประโยชน์ คนไทยต้องหยุดโทษกันไปโทษกันมา ไม่โทษว่าเป็นความผิดของฝ่ายใดทั้งนั้น ไม่กล่าวหากันให้อีกฝ่ายดูดีกว่าอีกฝ่ายเพราะสุดท้ายก็คนไทยด้วยกัน ถึงเวลาที่จะยุติความแตกแยกของคนไทยจริงๆสักที
การเมือง พรรคการเมือง นักการเมือง...มีทั้งดีและไม่ดีมีทั้งที่เป็นประโยชน์และหาประโยชน์ เอาอดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียนตัวอย่างที่ดีก็ยึดเอาไว้ ที่ไม่ดีก็ช่วยกันกำจัดให้หมดไปซะที...ที่พูดเก่งๆพูดอย่างเดียวต้องหยุดพูดแล้วลงมือทำและทำด้วยกัน...ไม่มีใครพรรคไหนจะทำได้อย่างที่พูดซักคน...เวลาที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้ว คนไทยทุกคนต้องถอยกันคนละก้าวเพื่อช่วยกันลงมือทำ ประเทศจะได้เดินหน้าไม่ถอยหลังเหมือนที่ผ่านมาปัญหาของคนไทยปัญหาของประเทศไทย...ไม่ต้องไปลอกเลียนแบบประเทศไหน...เราคิดกันเองเข้าใจปัญหาของเราดีที่สุด...แก้ปัญหาด้วยมือคนไทยด้วยกัน ต่างประเทศไม่ว่าจะใครก็ตามก็มาหาประโยชน์หรือใช้ประโยชน์จากประเทศไทยและคนไทยทั้งนั้น
เราดูแลประเทศไทยให้เข้มแข็งวันข้างหน้าเค้าก็จะกลับมาเพราะชาวต่างชาติรู้จักคนไทยและประเทศไทยดีว่าเราไม่เหมือนคนอื่นเรามีวัฒนธรรมประเพณีที่ส่งทอดกันมาช้านาน เราผ่านสถานการณ์และเหตุการณ์ต่างๆมาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะคนไทยสามัคคีกันช่วยเหลือกันจากนี้ไปคนไทยคงต้องใช้ช่วงเวลาที่สำคัญครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์กับอนาคตของประเทศไทยให้มากที่สุดไม่ต้องคิดว่ารัฐประหารดีหรือไม่ดี สิ่งต่างๆได้เกิดขึ้นแล้วใช้โอกาสนี้ร่วมมือกันแก้ไขปรับปรุงปัญหาของประเทศเราเพื่ออนาคตที่สดใส เข้มแข็ง มั่นคงของเราทุกคน เพื่ออนาคตของลูกหลานของคนไทยทุกคน ขอบคุณแผ่นดินไทยที่ทำให้เรามาถึงทุกวันนี้ ไม่เคยคิดเสียใจแม้แต่วินาทีเดียวที่ได้อยู่บนแผ่นดินนี้
ทั้งนี้ เวทีดังกล่าวจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16 มิ.ย. - 2 ก.ค.นี้ โดยคณะผู้บริหาร สปน. พร้อมคณะจะเดินทางลงพื้นที่ 5 จังหวัดประกอบด้วย สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส โดยช่วงแรกประชุมร่วมกับส่วนราชการเพื่อมอบนโยบายธรรมาภิบาล และการแก้ไขปัญหาการทุจริต คอร์รัปชันตามนโยบาย สปน. และ คสช.ด้วยพร้อมกับตรวจสอบและเร่งรัดการใช้งบประมาณจังหวัดที่แต่ละจังหวัดได้รับปีละ 100 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นการเบิกจ่ายภาครัฐให้ทันปีงบประมาณ 2557 เพื่อเป็นการกำชับการเบิกจ่ายต้องโปร่งใส และตรวจสอบได้ตามนโยบาย คสช. ด้วย
อย่างไรก็ตามในการเปิดเวทีร่วมกับ อบต. อบจ. เทศบาล และประชาชน จะเป็นการให้ข้อมูลและเปิดเวทีให้สะท้อนความต้องการหรือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ หรือแนวทางในการปฏิรูป โดยเฉพาะระบบราชการ ควรจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และโอกาสนี้จะเป็นการขับเคลื่อนนโยบายการสนับสนุนโครงการพระราชดำริตามแนวนโยบายของ คสช. ในระดับพื้นที่โดยเฉพาะโครงการปิดทองหลังพระ เช่น ที่จังหวัดสงขลาจะมีการขยายโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาท ในการแก้ขไปัญหาความยากจน ด้วยปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
**"พุทธิพงษ์"หนุนคสช.เดินหน้าปรองดอง
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หนึ่งในแกนนำของกลุ่ม กปปส.ได้โพสข้อความในเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า วันนี้ไม่ว่าท่านจะสีเสื้ออะไรคิดต่างกันทางการเมืองขนาดไหนคงต้องหยุดพัก และคิดให้ดีกว่า 10 ปีที่ผ่านมา คนไทยแตกแยกไม่ใครได้ประโยชน์ไม่มีใครแพ้ไม่มีใครชนะอย่างถาวรแต่ประเทศไทยบอบช้ำ ไม่ได้คิดว่าการรัฐประหารเป็นสิ่งที่ดีสำหรับระบอบประชาธิประไตยแต่อาจมีความจำเป็นเพื่อยุติความแตกแยกและความขัดแย้งของคนไทย หยุดความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดซ้ำเติมประเทศไทย
จากวันนี้ต้องไม่มีพวกไม่มีฝ่ายจากนี้ไปประเทศไทยจะมีแต่เรา เราคนไทยที่ช่วยกันนำพาประเทศไปด้วยกันไม่มีแบ่งสีเสื้อ เพราะเราแตกแยกกันมากว่า10ปี ไม่มีใครได้ประโยชน์ คนไทยต้องหยุดโทษกันไปโทษกันมา ไม่โทษว่าเป็นความผิดของฝ่ายใดทั้งนั้น ไม่กล่าวหากันให้อีกฝ่ายดูดีกว่าอีกฝ่ายเพราะสุดท้ายก็คนไทยด้วยกัน ถึงเวลาที่จะยุติความแตกแยกของคนไทยจริงๆสักที
การเมือง พรรคการเมือง นักการเมือง...มีทั้งดีและไม่ดีมีทั้งที่เป็นประโยชน์และหาประโยชน์ เอาอดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียนตัวอย่างที่ดีก็ยึดเอาไว้ ที่ไม่ดีก็ช่วยกันกำจัดให้หมดไปซะที...ที่พูดเก่งๆพูดอย่างเดียวต้องหยุดพูดแล้วลงมือทำและทำด้วยกัน...ไม่มีใครพรรคไหนจะทำได้อย่างที่พูดซักคน...เวลาที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้ว คนไทยทุกคนต้องถอยกันคนละก้าวเพื่อช่วยกันลงมือทำ ประเทศจะได้เดินหน้าไม่ถอยหลังเหมือนที่ผ่านมาปัญหาของคนไทยปัญหาของประเทศไทย...ไม่ต้องไปลอกเลียนแบบประเทศไหน...เราคิดกันเองเข้าใจปัญหาของเราดีที่สุด...แก้ปัญหาด้วยมือคนไทยด้วยกัน ต่างประเทศไม่ว่าจะใครก็ตามก็มาหาประโยชน์หรือใช้ประโยชน์จากประเทศไทยและคนไทยทั้งนั้น
เราดูแลประเทศไทยให้เข้มแข็งวันข้างหน้าเค้าก็จะกลับมาเพราะชาวต่างชาติรู้จักคนไทยและประเทศไทยดีว่าเราไม่เหมือนคนอื่นเรามีวัฒนธรรมประเพณีที่ส่งทอดกันมาช้านาน เราผ่านสถานการณ์และเหตุการณ์ต่างๆมาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะคนไทยสามัคคีกันช่วยเหลือกันจากนี้ไปคนไทยคงต้องใช้ช่วงเวลาที่สำคัญครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์กับอนาคตของประเทศไทยให้มากที่สุดไม่ต้องคิดว่ารัฐประหารดีหรือไม่ดี สิ่งต่างๆได้เกิดขึ้นแล้วใช้โอกาสนี้ร่วมมือกันแก้ไขปรับปรุงปัญหาของประเทศเราเพื่ออนาคตที่สดใส เข้มแข็ง มั่นคงของเราทุกคน เพื่ออนาคตของลูกหลานของคนไทยทุกคน ขอบคุณแผ่นดินไทยที่ทำให้เรามาถึงทุกวันนี้ ไม่เคยคิดเสียใจแม้แต่วินาทีเดียวที่ได้อยู่บนแผ่นดินนี้
