เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (8 มิ.ย.) ที่ศูนย์พัฒนาบุคลากรทางการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจกรรมเยาวชน “ผิน แจ่มวิชาสอน” กทม. นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวระหว่างการบรรยายหลักสูตรผู้บังคับบัญชาลูกเสือวิสามัญช่อสะอาด ในหัวข้อ“ทุจริตคอร์รัปชัน ผลกระทบต่อชาติ”ตอนหนึ่งว่า จุดสำคัญที่โลกนี้เพ่งเล็งคือ ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน ซึ่งองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติเป็นผู้จัดอันดับ ปรากฏว่า ดัชนีดังกล่าวของไทยสอบตกทุกปี ไม่เคยสอบได้ ประเมินมาสิบกว่าปี ไม่เคยได้ถึงครึ่ง ไทยอยู่ในโซนที่ตกต่ำเรื่องคอร์รัปชันอย่างมาก เราไม่ได้รับความเชื่อถือศรัทธาของโลก
นายวิชา กล่าวว่า สิ่งที่ประเทศเราต้องเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้คือ เรื่องการปรับปรุงกฎหมายภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการคอร์รัปชัน (UNCC)ซึ่งทั้งโลกต้องปรับปรุงแก้ไข โดยอนุสัญญาฯฉบับนี้ กำหนดให้ทุกประเทศจะต้องไปรายงานต่อสหประชาชาติว่าได้ปรับปรุงกฎหมายอย่างไร ส่วนประเทศไทยมีข้อที่ต้องปรับปรุง คือ ความเข้าใจเรื่องคอร์รัปชันที่ยังไม่ตรงกันในสังคม สังเกตเห็นได้จากคำว่าคอร์รัปชัน ถ้าเป็นความหมายของโลก หมายถึง การกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชั่วช้า ฉ้อโกง สิ่งเหล่านี้เมื่อผนวกกันถือว่ารุนแรงมาก รวมถึงเรื่องการกระทำที่ขัดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือสิทธิของผู้อื่น การใช้อำนาจหน้าที่ที่ตัวเองมีอยู่เกินขอบเขตด้วย ก็จัดเป็นคอร์รัปชันของโลก เช่น ผู้บังคับบัญชา สั่งการให้ระดับผู้อำนวยการไปทำการที่ขัดต่อตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งในระเบียบบริหารราชการแผ่นดินกำหนดไว้ว่า หากมีการมอบอำนาจไปแล้ว แต่ต้องติดตาม กำกับ ดูแล หากพบว่าลูกน้องใช้อำนาจเกินขอบเขต ต้องเปลี่ยนตัว หรือตั้งแต่คณะกรรมการสอบสวน
นายวิชา กล่าวอีกว่า ลูกเสือช่อสะอาดต้องสามัคคีกัน แต่จะไม่สามัคคีกับคนชั่วร้าย เพราะไม่ใช่ระบบที่เราต้องการ เราต้องสามัคคีผนึกกำลังคนดี ช่วยกันป้องกันคนไม่ดี อย่าให้เข้ามาปกครองประเทศ เฝ้าระวังอย่าให้คนไม่ดีมาทำร้ายประเทศ เอาเงินงบประมาณแผ่นดินของเราไป อย่าปล่อยให้เขาตัดไม้ทำลายป่า แล้วเรานั่งอยู่เฉยๆ การป้องกันจะสำเร็จได้ เราจะต้องผนึกกำลังกัน ตั้งแต่ระดับชุมชนเพื่อให้เข้มแข็ง โดยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ไม่ได้นำเขามาเข้าคุกอย่างเดียว แต่ต้องสร้างคนดีให้เกิดด้วย
สำหรับการพัฒนาสังคมเพื่อป้องกันการทุจริตนั้น เราต้องดูปัญหาก่อนว่า การบังคับใช้กฎหมายเป็นอย่างไร ประเทศไทยมีกฎหมายที่ดี แต่ปรากฏว่า การบังคับกฎหมายเลว ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ รู้ว่าทำผิด แต่ไม่สามารถจับเขามาได้ ดังนั้น เราจะจำเป็นต้องปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ แต่ ป.ป.ช. ดำเนินการฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องมีเครือข่ายเข้ามาช่วยดำเนินการ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งเครือข่ายลูกเสือช่อสะอาด ถือเป็นเครือข่ายที่มีกำลังและมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ สามารถช่วยให้การทำงานของป.ป.ช. เกิดความสำเร็จ โดยทุกคนล้วนเป็นภาคประชาสังคมที่เป็นพลังสำคัญ มีบทบาทในการร่วมมือร่วมใจผนึกกำลังแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
"การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันต้องแก้แบบถอนรากถอนโคน ไม่ใช่แค่เพียงตัดต้นหญ้า แต่ต้องถอนต้นหญ้าออกไปด้วย มันจะได้ไม่ขึ้นมาใหม่ ซึ่งคิดว่าควรเอาระบบสหรัฐอเมริกามาใช้ ที่ต้องทำเรื่องกระบวนการต่อต้านระบบอุปถัมภ์ อย่าให้ระบบอุปถัมภ์ เป็นวิถีชีวิตในการดำเนินชีวิต เราต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก อย่าพึ่งพาคนอื่น และพึงใช้เหตุผล ไม่ใช่หลักไสยศาสตร์" นายวิชา กล่าว
**จี้คสช.สอบคูปองซื้อกล่องทีวีดิจิตัล
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวว่า ขณะที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กำลังกวาดล้างการทุจิตอยู่นั้น พบว่า ขณะนี้ยังมีการกระทำที่ไม่โปร่งใสบางอย่างเกิดขึ้น คือ กรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจกคูปองส่วนลดกล่องแปลงสัญญาณทีวีระบบดิจิตอล (Set Top Box) มูลล่า 2.5 หมื่นล้านบาทให้กับประชาชนนั้น มีข้อครหาว่า โครงการนี้มีเงินทอนหลายพันล้านบาท ซึ่ง กสทช. ต้องรับผิดชอบ แต่ กสทช.กลับไม่ฟังเสียงทักท้วงจากองค์กรประชาชนที่ให้ทบทวนเรื่องนี้ ทั้งที่สถานะของกสทช. หลัง คสช. ยึดอำนาจ เปรียบเสมือนองค์กรขาลอย ดังนั้น คสช. จึงมีอำนาจสั่งให้ทบทวนเรื่องดังกล่าวได้ทันที แล้วให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส
นายวิชา กล่าวว่า สิ่งที่ประเทศเราต้องเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้คือ เรื่องการปรับปรุงกฎหมายภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการคอร์รัปชัน (UNCC)ซึ่งทั้งโลกต้องปรับปรุงแก้ไข โดยอนุสัญญาฯฉบับนี้ กำหนดให้ทุกประเทศจะต้องไปรายงานต่อสหประชาชาติว่าได้ปรับปรุงกฎหมายอย่างไร ส่วนประเทศไทยมีข้อที่ต้องปรับปรุง คือ ความเข้าใจเรื่องคอร์รัปชันที่ยังไม่ตรงกันในสังคม สังเกตเห็นได้จากคำว่าคอร์รัปชัน ถ้าเป็นความหมายของโลก หมายถึง การกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชั่วช้า ฉ้อโกง สิ่งเหล่านี้เมื่อผนวกกันถือว่ารุนแรงมาก รวมถึงเรื่องการกระทำที่ขัดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือสิทธิของผู้อื่น การใช้อำนาจหน้าที่ที่ตัวเองมีอยู่เกินขอบเขตด้วย ก็จัดเป็นคอร์รัปชันของโลก เช่น ผู้บังคับบัญชา สั่งการให้ระดับผู้อำนวยการไปทำการที่ขัดต่อตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งในระเบียบบริหารราชการแผ่นดินกำหนดไว้ว่า หากมีการมอบอำนาจไปแล้ว แต่ต้องติดตาม กำกับ ดูแล หากพบว่าลูกน้องใช้อำนาจเกินขอบเขต ต้องเปลี่ยนตัว หรือตั้งแต่คณะกรรมการสอบสวน
นายวิชา กล่าวอีกว่า ลูกเสือช่อสะอาดต้องสามัคคีกัน แต่จะไม่สามัคคีกับคนชั่วร้าย เพราะไม่ใช่ระบบที่เราต้องการ เราต้องสามัคคีผนึกกำลังคนดี ช่วยกันป้องกันคนไม่ดี อย่าให้เข้ามาปกครองประเทศ เฝ้าระวังอย่าให้คนไม่ดีมาทำร้ายประเทศ เอาเงินงบประมาณแผ่นดินของเราไป อย่าปล่อยให้เขาตัดไม้ทำลายป่า แล้วเรานั่งอยู่เฉยๆ การป้องกันจะสำเร็จได้ เราจะต้องผนึกกำลังกัน ตั้งแต่ระดับชุมชนเพื่อให้เข้มแข็ง โดยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ไม่ได้นำเขามาเข้าคุกอย่างเดียว แต่ต้องสร้างคนดีให้เกิดด้วย
สำหรับการพัฒนาสังคมเพื่อป้องกันการทุจริตนั้น เราต้องดูปัญหาก่อนว่า การบังคับใช้กฎหมายเป็นอย่างไร ประเทศไทยมีกฎหมายที่ดี แต่ปรากฏว่า การบังคับกฎหมายเลว ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ รู้ว่าทำผิด แต่ไม่สามารถจับเขามาได้ ดังนั้น เราจะจำเป็นต้องปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ แต่ ป.ป.ช. ดำเนินการฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องมีเครือข่ายเข้ามาช่วยดำเนินการ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งเครือข่ายลูกเสือช่อสะอาด ถือเป็นเครือข่ายที่มีกำลังและมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ สามารถช่วยให้การทำงานของป.ป.ช. เกิดความสำเร็จ โดยทุกคนล้วนเป็นภาคประชาสังคมที่เป็นพลังสำคัญ มีบทบาทในการร่วมมือร่วมใจผนึกกำลังแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
"การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันต้องแก้แบบถอนรากถอนโคน ไม่ใช่แค่เพียงตัดต้นหญ้า แต่ต้องถอนต้นหญ้าออกไปด้วย มันจะได้ไม่ขึ้นมาใหม่ ซึ่งคิดว่าควรเอาระบบสหรัฐอเมริกามาใช้ ที่ต้องทำเรื่องกระบวนการต่อต้านระบบอุปถัมภ์ อย่าให้ระบบอุปถัมภ์ เป็นวิถีชีวิตในการดำเนินชีวิต เราต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก อย่าพึ่งพาคนอื่น และพึงใช้เหตุผล ไม่ใช่หลักไสยศาสตร์" นายวิชา กล่าว
**จี้คสช.สอบคูปองซื้อกล่องทีวีดิจิตัล
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวว่า ขณะที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กำลังกวาดล้างการทุจิตอยู่นั้น พบว่า ขณะนี้ยังมีการกระทำที่ไม่โปร่งใสบางอย่างเกิดขึ้น คือ กรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจกคูปองส่วนลดกล่องแปลงสัญญาณทีวีระบบดิจิตอล (Set Top Box) มูลล่า 2.5 หมื่นล้านบาทให้กับประชาชนนั้น มีข้อครหาว่า โครงการนี้มีเงินทอนหลายพันล้านบาท ซึ่ง กสทช. ต้องรับผิดชอบ แต่ กสทช.กลับไม่ฟังเสียงทักท้วงจากองค์กรประชาชนที่ให้ทบทวนเรื่องนี้ ทั้งที่สถานะของกสทช. หลัง คสช. ยึดอำนาจ เปรียบเสมือนองค์กรขาลอย ดังนั้น คสช. จึงมีอำนาจสั่งให้ทบทวนเรื่องดังกล่าวได้ทันที แล้วให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส