ASTVผู้จัดการรายวัน-รวบ "แต๋ม หมื่นบาน" คดีข่มขืนฆ่า "น้องเพลง" หลังพบหลักฐานชิ้นสำคัญ กางเกงในที่เกิดเหตุ ตรงกับผลตรวจดีเอ็นเอ แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เจ้าตัวยังปฏิเสธ ผบช.ภ.9 ยันพยานหลักฐานชัด ไม่จับแพะแน่นอน เผยตกเป็นผู้ต้องสงสัยตั้งแต่วันแรกที่พ่อแม่น้องเพลงแจ้งลูกหาย เหตุพบรอยขีดข่วน รอยถลอกหลายแห่ง แถมลูกยังให้การมัด ก่อนถูกรวบ ญาติยังร้องผู้ว่าฯ ขอความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (4 มิ.ย.) ที่สภ.เมือง จ.ตรัง พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิศักดิ์ ผบช.ภ. 9 พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง สั่งให้นำกำลังเข้าจับกุมนายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาน อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ถนนควนขัน เขตเทศบาลนครตรัง ผู้ต้องหาในคดีฆ่าด.ญ.เกตุมาตุ หรือน้องเพลง รำนา อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนดรุโณทัย อย่างโหดเหี้ยม เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 พ.ค. หรือเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ก่อนนำร่างไร้วิญญาณไปยัดท่อระบายน้ำ ทางเข้าวัดพระงาม ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่ออำพรางคดี จนกระทั่งมีผู้ไปพบศพเมื่อเช้าของวันที่ 12 พ.ค.2557
โดยก่อนหน้านี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับ บก.ภ.จว.ตรัง และสภ.เมือง เรียกตัวผู้ต้องสงสัยนับสิบคนมาสอบปากคำและตรวจร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถออกหมายจับใครได้ เนื่องจากผลการตรวจดีเอ็นเอของน้องเพลง และของผู้ต้องสงสัยที่แพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ จ.สงขลา แจ้งมาว่าไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้อย่างชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ลดละความพยายาม จนกระทั่งพบหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คือ กางเกงสีน้ำเงิน และเมื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอ ก็พบว่าเป็นของนายประถมพงษ์ จึงนำมาขออนุมัติศาลออกหมายจับในที่สุด
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายประถมพงษ์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร และซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ จ.177/2557 ลงวันที่ 4 มิ.ย.2557 แต่ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อมั่นในพยานหลักฐานว่านายประถมพงษ์ คือ คนร้ายในคดีนี้ โดยเฉพาะผลตรวจพิสูจน์ยืนยันจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ กล่าวว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อม และพยานบุคคล ทั้งหมดเชื่อได้ว่านายประถมพงษ์เป็นผู้ลงมือฆ่าน้องเพลง โดยแนวทางสืบสวนพบว่านายประถมพงษ์ล่อลวงน้องเพลง ไปยังบ้านเลขที่ 20/7 ถนนนางน้อย ต.ทับเที่ยง อ.เมือ ก่อนจะลงมือกระทำอนาจารแล้วฆ่า แล้วนำศพไปทิ้งในท่อระบายน้ำ เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 9 พ.ค. แต่ตำรวจขอปิดพยานหลักฐานไว้เป็นความลับ เนื่องจากครอบครัวผู้ต้องหาและผู้เสียหายเป็นญาติห่างๆ กัน
"คดีนี้ตำรวจทำงานอย่างหนัก จนมีหลักฐานทำให้ศาลเชื่อและอนุมัติหมายจับ ไม่มีการจับแพะแน่นอน ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับศาลที่จะพิจารณา"
สำหรับคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2557 พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รองผกก.สส.สภ.เมือง ได้รับการร้องทุกข์จากนายสุวัฒน์ รำนา อายุ 36 ปี พยาบาลชำนาญการ โรงพยาบาลนาโยงว่าบุตรสาว คือ ด.ญ.เกตุมาตุหายออกไปจากบ้านตั้งแต่เย็นวันที่ 9 พ.ค. ออกตามหา ก็ไม่พบ สอบถามเพื่อนสนิทของลูก ก็ไม่มีใครเห็น ซึ่งชุดสืบสวนสภ.เมือง ได้ประสานชุดสุนัขสงครามกก.ตชด. 42 ค่ายศรีนครินทรา ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำสุนัขสงครามออกดมกลิ่นตามหา แต่ก็ไม่พบ
จนวันที่ 12 พ.ค.2557 ร.ต.ท.อัทธ์ ไพสาลี ร้อยเวร สภ.เมือง รับแจ้งมีคนพบศพถูกยัดภายในท่อคูน้ำถนน ทางเข้าวัดพระงาม หมู่ 7 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นน้องเพลงจริง เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วันแล้ว ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บหลักฐานจากร่างน้องเพลงไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์
ชุดสืบสวนมุ่งประเด็นฆาตกรเป็นใกล้ชิดหรือคนที่น้องเพลงรู้จักและลงมืออย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากสภาพศพพบว่าถูกบีบจมูกและปาก ทุบศีรษะอย่างทารุณ ก่อนลงมือข่มขืน เชิญตัวผู้ต้องสงสัยหลายคนมาสอบปากคำ โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่มีประวัติเคยกระทำแบบนี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่สู้คดีจนหลุดออกมาได้ สาเหตุเกิดจากคนร้ายแอบชอบน้องเพลงมานาน เพราะมายืมแผ่นซีดีกับลูกสาววัย 3 ขวบของตนเองหลายครั้ง โดยวันเกิดเหตุน้องเพลงเอาแผ่นซีดีมาคืน แต่ผู้ต้องสงสัยอยู่บ้านเพียงลำพัง จึงได้ลงมืออย่างโหดเหี้ยม แต่ลูกชายของผู้ต้องสงสัยกลับมาเห็นเหตุการณ์ และถูกตำรวจนำตัวไปสอบเค้น จึงยอมให้การมัดบิดาตัวเอง
ต่อมา วันที่ 29 พ.ค.2557 ญาติพี่น้องและภรรยานายประถมพงษ์ มาร้องขอความเป็นธรรมจากนายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ขออย่าปิดคดีโดยการจับแพะ และประณามตำรวจที่ข่มขู่เด็ก 7 ขวบ โดยพาไปสอบสวนแล้วให้เงิน 500 บาท ซึ่งนายสมศักดิ์รับปากจะกำชับให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา รวมทั้งเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว โดยทางจังหวัดจะอำนวยความสะดวก และประสานตำรวจให้ต่อไป
ล่าสุด วันที่ 3 มิ.ย.2557 นายสุวัฒน์ และนางพนมวรรณ รำนา บิดาและมารดาน้องเพลง ได้ออกมาเปิดใจว่า แม้ในทางคดีไม่ได้ยืนยันผู้ต้องสงสัยเป็นที่ชัดเจน แต่ทางครอบครัวก็ต้องไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทำงานกันตลอด อีกทั้งผู้ต้องสงสัยทุกคนยังคงให้การปฏิเสธ จึงอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมหลักฐานมาประกอบ เพียงแต่อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของคดีแบบนี้ เพราะไม่น่าจะเกิดขึ้น ชาวชุมชนควนขันต่างก็รู้จักดีทุกคน จึงอยากวิงวอนให้ช่วยกันทำคดีนี้ให้เป็นคดีตัวอย่าง
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (4 มิ.ย.) ที่สภ.เมือง จ.ตรัง พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิศักดิ์ ผบช.ภ. 9 พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง สั่งให้นำกำลังเข้าจับกุมนายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาน อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ถนนควนขัน เขตเทศบาลนครตรัง ผู้ต้องหาในคดีฆ่าด.ญ.เกตุมาตุ หรือน้องเพลง รำนา อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนดรุโณทัย อย่างโหดเหี้ยม เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 พ.ค. หรือเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ก่อนนำร่างไร้วิญญาณไปยัดท่อระบายน้ำ ทางเข้าวัดพระงาม ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่ออำพรางคดี จนกระทั่งมีผู้ไปพบศพเมื่อเช้าของวันที่ 12 พ.ค.2557
โดยก่อนหน้านี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับ บก.ภ.จว.ตรัง และสภ.เมือง เรียกตัวผู้ต้องสงสัยนับสิบคนมาสอบปากคำและตรวจร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถออกหมายจับใครได้ เนื่องจากผลการตรวจดีเอ็นเอของน้องเพลง และของผู้ต้องสงสัยที่แพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ จ.สงขลา แจ้งมาว่าไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้อย่างชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ลดละความพยายาม จนกระทั่งพบหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คือ กางเกงสีน้ำเงิน และเมื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอ ก็พบว่าเป็นของนายประถมพงษ์ จึงนำมาขออนุมัติศาลออกหมายจับในที่สุด
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายประถมพงษ์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร และซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ จ.177/2557 ลงวันที่ 4 มิ.ย.2557 แต่ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อมั่นในพยานหลักฐานว่านายประถมพงษ์ คือ คนร้ายในคดีนี้ โดยเฉพาะผลตรวจพิสูจน์ยืนยันจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ กล่าวว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อม และพยานบุคคล ทั้งหมดเชื่อได้ว่านายประถมพงษ์เป็นผู้ลงมือฆ่าน้องเพลง โดยแนวทางสืบสวนพบว่านายประถมพงษ์ล่อลวงน้องเพลง ไปยังบ้านเลขที่ 20/7 ถนนนางน้อย ต.ทับเที่ยง อ.เมือ ก่อนจะลงมือกระทำอนาจารแล้วฆ่า แล้วนำศพไปทิ้งในท่อระบายน้ำ เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 9 พ.ค. แต่ตำรวจขอปิดพยานหลักฐานไว้เป็นความลับ เนื่องจากครอบครัวผู้ต้องหาและผู้เสียหายเป็นญาติห่างๆ กัน
"คดีนี้ตำรวจทำงานอย่างหนัก จนมีหลักฐานทำให้ศาลเชื่อและอนุมัติหมายจับ ไม่มีการจับแพะแน่นอน ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับศาลที่จะพิจารณา"
สำหรับคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2557 พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รองผกก.สส.สภ.เมือง ได้รับการร้องทุกข์จากนายสุวัฒน์ รำนา อายุ 36 ปี พยาบาลชำนาญการ โรงพยาบาลนาโยงว่าบุตรสาว คือ ด.ญ.เกตุมาตุหายออกไปจากบ้านตั้งแต่เย็นวันที่ 9 พ.ค. ออกตามหา ก็ไม่พบ สอบถามเพื่อนสนิทของลูก ก็ไม่มีใครเห็น ซึ่งชุดสืบสวนสภ.เมือง ได้ประสานชุดสุนัขสงครามกก.ตชด. 42 ค่ายศรีนครินทรา ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำสุนัขสงครามออกดมกลิ่นตามหา แต่ก็ไม่พบ
จนวันที่ 12 พ.ค.2557 ร.ต.ท.อัทธ์ ไพสาลี ร้อยเวร สภ.เมือง รับแจ้งมีคนพบศพถูกยัดภายในท่อคูน้ำถนน ทางเข้าวัดพระงาม หมู่ 7 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นน้องเพลงจริง เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วันแล้ว ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บหลักฐานจากร่างน้องเพลงไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์
ชุดสืบสวนมุ่งประเด็นฆาตกรเป็นใกล้ชิดหรือคนที่น้องเพลงรู้จักและลงมืออย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากสภาพศพพบว่าถูกบีบจมูกและปาก ทุบศีรษะอย่างทารุณ ก่อนลงมือข่มขืน เชิญตัวผู้ต้องสงสัยหลายคนมาสอบปากคำ โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่มีประวัติเคยกระทำแบบนี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่สู้คดีจนหลุดออกมาได้ สาเหตุเกิดจากคนร้ายแอบชอบน้องเพลงมานาน เพราะมายืมแผ่นซีดีกับลูกสาววัย 3 ขวบของตนเองหลายครั้ง โดยวันเกิดเหตุน้องเพลงเอาแผ่นซีดีมาคืน แต่ผู้ต้องสงสัยอยู่บ้านเพียงลำพัง จึงได้ลงมืออย่างโหดเหี้ยม แต่ลูกชายของผู้ต้องสงสัยกลับมาเห็นเหตุการณ์ และถูกตำรวจนำตัวไปสอบเค้น จึงยอมให้การมัดบิดาตัวเอง
ต่อมา วันที่ 29 พ.ค.2557 ญาติพี่น้องและภรรยานายประถมพงษ์ มาร้องขอความเป็นธรรมจากนายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ขออย่าปิดคดีโดยการจับแพะ และประณามตำรวจที่ข่มขู่เด็ก 7 ขวบ โดยพาไปสอบสวนแล้วให้เงิน 500 บาท ซึ่งนายสมศักดิ์รับปากจะกำชับให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา รวมทั้งเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว โดยทางจังหวัดจะอำนวยความสะดวก และประสานตำรวจให้ต่อไป
ล่าสุด วันที่ 3 มิ.ย.2557 นายสุวัฒน์ และนางพนมวรรณ รำนา บิดาและมารดาน้องเพลง ได้ออกมาเปิดใจว่า แม้ในทางคดีไม่ได้ยืนยันผู้ต้องสงสัยเป็นที่ชัดเจน แต่ทางครอบครัวก็ต้องไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทำงานกันตลอด อีกทั้งผู้ต้องสงสัยทุกคนยังคงให้การปฏิเสธ จึงอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมหลักฐานมาประกอบ เพียงแต่อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของคดีแบบนี้ เพราะไม่น่าจะเกิดขึ้น ชาวชุมชนควนขันต่างก็รู้จักดีทุกคน จึงอยากวิงวอนให้ช่วยกันทำคดีนี้ให้เป็นคดีตัวอย่าง