เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) ที่ศาลปกครองกลาง รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมตุลาการศาลปกครองสูงสุด เพื่อพิจารณาสถานภาพของคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ว่ายังคงอยู่หรือไม่ หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีประกาศ ฉบับที่ 11 ให้รัฐธรรมนูญฯ 2550 สิ้นสุดลง โดยคงไว้เฉพาะ หมวด 2 และให้ศาลทั้งหลายยังอยู่ โดยที่ประชุมเห็นว่า ก.ศป. ยังคงอยู่ และสามารถทำหน้าที่ได้ตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน และป้องกันไม่ให้เกิดการโต้แย้ง หรือฟ้องร้องตามมาในภายหลัง เพราะศาล ปกครองไม่เหมือนศาลรัฐธรรมนูญ ที่คำวินิจฉัยผูกพันทุกองค์กร จึงจะมีหนังสือถึง คสช. เพื่อขอความเห็นว่า คสช. มีความเห็นเช่นเดียวกับที่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีความเห็นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า ในตุลาการศาลปกครอง มีความเห็นต่างกันเป็น 2 ฝ่าย โดยในส่วนของ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยะกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด กับตุลาการอีกส่วนหนึ่งเห็นว่า ก.ศป. เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 226 เมื่อ คสช.ให้รัฐธรรมนูญสิ้นผลไป ก.ศป. ก็ย่อมต้องสิ้นสภาพลง
ขณะที่ตุลาการศาลปกครองอีกส่วนหนึ่ง ก็เห็นว่าแม้ไม่มีรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ยังคงมี พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ซึ่งหมวด 3 ก็ได้บัญญัติถึงที่มาของ ก.ศป. เอาไว้อยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อครั้งรัฐประหาร เมื่อปี 2549 มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 40 ตุลาการศาลปกครองในเวลานั้น ก็มีการตีความว่า ก.ศป. ยังคงทำหน้าที่ต่อไปได้อยู่ ซึ่งเวลานั้น นายหัสวุฒิ ก็เป็นหนึ่งใน ก.ศป.เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า ในตุลาการศาลปกครอง มีความเห็นต่างกันเป็น 2 ฝ่าย โดยในส่วนของ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยะกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด กับตุลาการอีกส่วนหนึ่งเห็นว่า ก.ศป. เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 226 เมื่อ คสช.ให้รัฐธรรมนูญสิ้นผลไป ก.ศป. ก็ย่อมต้องสิ้นสภาพลง
ขณะที่ตุลาการศาลปกครองอีกส่วนหนึ่ง ก็เห็นว่าแม้ไม่มีรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ยังคงมี พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ซึ่งหมวด 3 ก็ได้บัญญัติถึงที่มาของ ก.ศป. เอาไว้อยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อครั้งรัฐประหาร เมื่อปี 2549 มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 40 ตุลาการศาลปกครองในเวลานั้น ก็มีการตีความว่า ก.ศป. ยังคงทำหน้าที่ต่อไปได้อยู่ ซึ่งเวลานั้น นายหัสวุฒิ ก็เป็นหนึ่งใน ก.ศป.เช่นเดียวกัน