รายงานข่าวจาก บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบดิจิตอล ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างของ อสมท ได้มีมติคัดเลือกเป็นเอกฉันท์ให้ บริษัท เทคทีวี จำกัด (เทคทีวี) เป็นผู้ชนะการประกวดราคา และดำเนินโครงการ แต่ต่อมาได้มีการเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของขั้นตอนการประกวดราคาหลายจุด จนมีแนวโน้มที่ อสมท จะประกาศยกเลิก แต่จนถึงขณะนี้ ทางเทคทีวี ก็ยังไม่ได้รับแจ้งการยกเลิกโครงการแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการเปิดเผยว่า ในระหว่างที่ดำเนินการประกวดราคา ทาง อสมท กลับดำเนินโครงการจัดเช่าเครื่องส่งสัญญาณซ้ำซ้อนขึ้นมาในห้วงเวลาเดียวกัน โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการด่วนขึ้นมาใหม่ โดยไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) แต่อย่างใด ส่งผลให้ปัจจุบัน อสมท ต้องเสียงบประมาณเช่าเครื่องส่งสัญญาณ 18 ล้านบาท ในทุกๆ 3 เดือน ทั้งที่มีการจัดซื้อไว้แล้ว แต่ยังไม่มีการลงนามในสัญญากับ เทคทีวี
ทั้งนี้ ได้มีกระแสข่าวว่าเทคทีวี มีความเชื่อมโยงกับ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ทางเทคทีวี ก็ได้มีแถลงการณ์ ปฏิเสธข่าวดังกล่าว ออกมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา รวมไปถึงจะดำเนินคดีกับแหล่งข่าวที่ปล่อยข้อมูลเท็จโจมตี เทคทีวี พร้อมทั้งได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ได้รับเลือกเป็นผู้ชนะการประกวดราคาอย่างถูกต้อง มีการเรียกเข้าต่อรองราคาตามขั้นตอนถึง 3 ครั้ง โดยในรอบสุดท้ายมี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ อสมท ร่วมในการหารือด้วย จนได้ข้อสรุปแล้ว แต่กลับมีข่าวว่า อสมท จะยกเลิกการจัดซื้อ โดยอ้างว่าไม่มีผู้ประกอบการรายใดเสนออุปกรณ์ตรงกับข้อกำหนด ทั้งที่ในกระบวนการจัดซื้อ ได้มีผู้ผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดด้านเครื่องส่ง ถึง 4 ราย
แหล่งข่าวภายใน อสมท เปิดเผยว่า สาเหตุที่โครงการจัดซื้อเครื่องส่งสัญญาณทีวีดิจิตอลของ อสมท ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากมีความขัดแย้งของผู้บริหารระดับสูงของ อสมท เอง จนปรากฏกระแสข่าวว่า มีการล็อกสเปก เอื้อประโยชน์ให้บางบริษัท ส่งผลให้การจัดซื้อไม่ได้ข้อยุติ เรื่องราวเริ่มซับซ้อนมากขึ้น เมื่อต่อมา กก.ผอ.ใหญ่ อนุมัติให้มีโครงการจัดเช่าอุปกรณ์ สำหรับให้บริการดิจิตอลทีวี ซึ่งซ้ำซ้อนกับการจัดซื้อโดยตรง ก็ยิ่งทำให้เกิดความล่าช้า เพราะเทคทีวี ผู้ชนะในโครงการจัดซื้อ ไม่สามารถเข้าดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ในสถานีได้ เนื่องจาก อสมท ยังไม่ส่งมอบพื้นที่ให้ ยิ่งหากไปดูรายละเอียดของการจัดเช่า ก็พบว่า มีการเร่งรีบทำเอกสาร ทำให้ อสมท เสียค่าใช้จ่ายสูงมากกว่ารายรับ ทั้งยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนผู้ให้เช่า เพราะกรรมสิทธิ์เครื่องส่ง และอุปกรณ์ส่วนควบ จะเป็นของเอกชน ทำให้ อสมท เสียเปรียบ และเสี่ยงต่อการถูกเอกชนเจ้าของกรรมสิทธิ์เรียกร้องขอขึ้นค่าเช่า และเพิ่มเงื่อนไขได้ในอนาคต และหากมีกรณีที่เอกชนบอกเลิกการให้เช่า ก็ย่อมส่งผลให้ อสมท ไม่อาจประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญยังขัดต่อเงื่อนไขใบอนุญาตผู้ประกาศแม่ข่ายทีวีดิจิตอล ของ กสทช.ด้วย
"เมื่อ อสมท ดำเนินการได้ล่าช้าเกินกำหนด ทำให้อาจต้องเสียค่าปรับจาก กสทช. สูงถึงวันละ 1 ล้านบาท หรืออาจจะถึงขั้นยึดใบอนุญาต นอกจากนี้ ยังอาจถูกฟ้องจากผู้เช่าช่อง เพราะนอกจากจะเริ่มให้บริการล่าช้าแล้ว หาก บมจ. อสมท ยังยืนยันที่จะไปต่อ กับโมเดลการเช่าใช้อุปกรณ์ ก็จะถือว่าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขเดิม ตามที่ได้ตกลงไว้ ตอนทำสัญญากับผู้เช่าช่อง เพราะ อสมท ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเครื่องส่งและอุปกรณ์ส่วนควบ ทำให้ยากต่อการควบคุมคุณภาพการออกอากาศ สุดท้ายยังเสี่ยงสูง ที่จะถูกผู้ชนะการประกวดราคาจากโครงการจัดซื้อจัดจ้างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีกจำนวนมาก" แหล่งข่าว ระบุ
เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยัง เทคทีวี ผู้ชะการประกวดราคาจัดซื้อ ก็พบว่า ได้รับความเสียหายอย่างมาก จากความไม่ชัดเจนของ อสมท เพราะหลังจากได้รับคัดเลือกจาก อสมท ก็ได้เร่งดำเนินการสั่งซื้ออุปกรณ์ต่างๆ คู่ขนานไปด้วย เพื่อให้ทันต่อกำหนดของ กสทช. ในวันที่ 25 พ.ค. โดยมีการชำระเงินล่วงหน้า และขอความร่วมมือไปยังคู่ค้าทุกราย ให้เร่งกำลังผลิต และจัดส่งเต็มที่ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลาเตรียมการ และจัดส่งเป็นเวลานาน แต่พอถึงขั้นตอนเข้าติดตั้ง อสมท กลับนิ่งเฉย ไม่ส่งมอบพื้นที่ให้
ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการเปิดเผยว่า ในระหว่างที่ดำเนินการประกวดราคา ทาง อสมท กลับดำเนินโครงการจัดเช่าเครื่องส่งสัญญาณซ้ำซ้อนขึ้นมาในห้วงเวลาเดียวกัน โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการด่วนขึ้นมาใหม่ โดยไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) แต่อย่างใด ส่งผลให้ปัจจุบัน อสมท ต้องเสียงบประมาณเช่าเครื่องส่งสัญญาณ 18 ล้านบาท ในทุกๆ 3 เดือน ทั้งที่มีการจัดซื้อไว้แล้ว แต่ยังไม่มีการลงนามในสัญญากับ เทคทีวี
ทั้งนี้ ได้มีกระแสข่าวว่าเทคทีวี มีความเชื่อมโยงกับ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ทางเทคทีวี ก็ได้มีแถลงการณ์ ปฏิเสธข่าวดังกล่าว ออกมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา รวมไปถึงจะดำเนินคดีกับแหล่งข่าวที่ปล่อยข้อมูลเท็จโจมตี เทคทีวี พร้อมทั้งได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ได้รับเลือกเป็นผู้ชนะการประกวดราคาอย่างถูกต้อง มีการเรียกเข้าต่อรองราคาตามขั้นตอนถึง 3 ครั้ง โดยในรอบสุดท้ายมี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ อสมท ร่วมในการหารือด้วย จนได้ข้อสรุปแล้ว แต่กลับมีข่าวว่า อสมท จะยกเลิกการจัดซื้อ โดยอ้างว่าไม่มีผู้ประกอบการรายใดเสนออุปกรณ์ตรงกับข้อกำหนด ทั้งที่ในกระบวนการจัดซื้อ ได้มีผู้ผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดด้านเครื่องส่ง ถึง 4 ราย
แหล่งข่าวภายใน อสมท เปิดเผยว่า สาเหตุที่โครงการจัดซื้อเครื่องส่งสัญญาณทีวีดิจิตอลของ อสมท ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากมีความขัดแย้งของผู้บริหารระดับสูงของ อสมท เอง จนปรากฏกระแสข่าวว่า มีการล็อกสเปก เอื้อประโยชน์ให้บางบริษัท ส่งผลให้การจัดซื้อไม่ได้ข้อยุติ เรื่องราวเริ่มซับซ้อนมากขึ้น เมื่อต่อมา กก.ผอ.ใหญ่ อนุมัติให้มีโครงการจัดเช่าอุปกรณ์ สำหรับให้บริการดิจิตอลทีวี ซึ่งซ้ำซ้อนกับการจัดซื้อโดยตรง ก็ยิ่งทำให้เกิดความล่าช้า เพราะเทคทีวี ผู้ชนะในโครงการจัดซื้อ ไม่สามารถเข้าดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ในสถานีได้ เนื่องจาก อสมท ยังไม่ส่งมอบพื้นที่ให้ ยิ่งหากไปดูรายละเอียดของการจัดเช่า ก็พบว่า มีการเร่งรีบทำเอกสาร ทำให้ อสมท เสียค่าใช้จ่ายสูงมากกว่ารายรับ ทั้งยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนผู้ให้เช่า เพราะกรรมสิทธิ์เครื่องส่ง และอุปกรณ์ส่วนควบ จะเป็นของเอกชน ทำให้ อสมท เสียเปรียบ และเสี่ยงต่อการถูกเอกชนเจ้าของกรรมสิทธิ์เรียกร้องขอขึ้นค่าเช่า และเพิ่มเงื่อนไขได้ในอนาคต และหากมีกรณีที่เอกชนบอกเลิกการให้เช่า ก็ย่อมส่งผลให้ อสมท ไม่อาจประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญยังขัดต่อเงื่อนไขใบอนุญาตผู้ประกาศแม่ข่ายทีวีดิจิตอล ของ กสทช.ด้วย
"เมื่อ อสมท ดำเนินการได้ล่าช้าเกินกำหนด ทำให้อาจต้องเสียค่าปรับจาก กสทช. สูงถึงวันละ 1 ล้านบาท หรืออาจจะถึงขั้นยึดใบอนุญาต นอกจากนี้ ยังอาจถูกฟ้องจากผู้เช่าช่อง เพราะนอกจากจะเริ่มให้บริการล่าช้าแล้ว หาก บมจ. อสมท ยังยืนยันที่จะไปต่อ กับโมเดลการเช่าใช้อุปกรณ์ ก็จะถือว่าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขเดิม ตามที่ได้ตกลงไว้ ตอนทำสัญญากับผู้เช่าช่อง เพราะ อสมท ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเครื่องส่งและอุปกรณ์ส่วนควบ ทำให้ยากต่อการควบคุมคุณภาพการออกอากาศ สุดท้ายยังเสี่ยงสูง ที่จะถูกผู้ชนะการประกวดราคาจากโครงการจัดซื้อจัดจ้างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีกจำนวนมาก" แหล่งข่าว ระบุ
เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยัง เทคทีวี ผู้ชะการประกวดราคาจัดซื้อ ก็พบว่า ได้รับความเสียหายอย่างมาก จากความไม่ชัดเจนของ อสมท เพราะหลังจากได้รับคัดเลือกจาก อสมท ก็ได้เร่งดำเนินการสั่งซื้ออุปกรณ์ต่างๆ คู่ขนานไปด้วย เพื่อให้ทันต่อกำหนดของ กสทช. ในวันที่ 25 พ.ค. โดยมีการชำระเงินล่วงหน้า และขอความร่วมมือไปยังคู่ค้าทุกราย ให้เร่งกำลังผลิต และจัดส่งเต็มที่ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลาเตรียมการ และจัดส่งเป็นเวลานาน แต่พอถึงขั้นตอนเข้าติดตั้ง อสมท กลับนิ่งเฉย ไม่ส่งมอบพื้นที่ให้
