ASTVผู้จัดการรายวัน-ส่งออกเม.ย.ลดอีก 0.87% เหตุสินค้าเกษตรสำคัญส่งออกได้ลดลง ทั้งอาหารทะเล กุ้ง ยาง และน้ำตาล รวมถึงยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ “นันทวัลย์”เผยส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้น จากเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจคู่ค้าฟื้นตัวขึ้น แถมยังมีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น คาดครึ่งปีกลับมาเป็นบวก 2-3% ส่วนทั้งปียังยืนเป้า 5% พร้อมเร่งแก้ปัญหาส่งออก เน้นเรื่องแรงงาน และกุ้ง
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนเม.ย.2557 มีมูลค่า 17,249.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.87% การนำเข้ามีมูลค่า 18,702.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 14.54% ขาดดุลการค้า 1,453.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนยอดรวม 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) การส่งออกมีมูลค่า 73,460.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.97% การนำเข้ามีมูลค่า 74,208 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 15.19% โดยขาดดุลการค้ารวม 747.5
ล้านเหรียญสหรัฐ
สาเหตุที่ทำให้การส่งออกในเดือนเม.ย.ลดลง เนื่องจากสินค้ากลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ยังคงขยายตัวลดลง 7.2% โดยสินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลง เช่น อาหารทะเลแช่แข็ง ลดลง 6.7% กุ้งแช่แข็งและแปรรูป ลดลง 12.1% เพราะมีปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน ยางพารา และน้ำตาลทราย ลดลง 27.4% และ 37.2% เพราะราคาในตลาดโลกลดลง
ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม ลดลง 0.2% โดยสินค้าที่ส่งออกลดลง เช่น กลุ่มยานยนต์และส่วนประกอบ สิ่งพิมพ์ กระดาษและบรรจุภัณฑ์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ยาง รวมถึงสินแร่ เชื้อเพลิงและทองคำ ที่มีสัญญาณชะลอตัวลง แต่กลุ่มสิ่งทอ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก ยังคงขยายตัวได้ดี
สำหรับตลาดส่งออก ตลาดหลักยังคงขยายตัว 0.3% โดยสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.6% สหภาพยุโรปเดิม 15 ประเทศ เพิ่ม 5.4% แต่ญี่ปุ่นลดลง 4.5% ตลาดศักยภาพสูง ลดลง 3.3% โดยอาเซียน ลด 1.9% จีน ลด 9.5% แต่อินเดีย เพิ่ม 16% ไต้หวัน เพิ่ม 19.6% และตลาดศักยภาพรอง เพิ่ม 1.3% โดยสหภาพยุโรปใหม่ 12 ประเทศ เพิ่ม 30.3% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 22.9% กลุ่ม CIS เพิ่ม 0.7% แต่แอฟริกา ลด 3.4% ลาตินอเมริกา ลด 8.4% ทวีปออสเตรเลีย ลด 13.6%
นางนันทวัลย์กล่าวว่า การส่งออกเริ่มมีสัญญาที่ดี โดยเดือนเม.ย.เริ่มขยายตัวเป็นลบน้อยลง และคาดว่าในไตรมาสที่ 2 จะส่งออกได้ดีขึ้น เพราะขณะนี้เศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวดีขึ้น เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยดีขึ้น และเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะตลาดสำคัญอย่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ที่กลับมาเป็นบวก และถ้าจีนซึ่งเป็นอีกประเทศส่งออกสำคัญของไทยกลับมาเป็นบวกได้ เชื่อว่าการส่งออกครึ่งปีน่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ 2-3%
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนเม.ย.2557 มีมูลค่า 17,249.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.87% การนำเข้ามีมูลค่า 18,702.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 14.54% ขาดดุลการค้า 1,453.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนยอดรวม 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) การส่งออกมีมูลค่า 73,460.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.97% การนำเข้ามีมูลค่า 74,208 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 15.19% โดยขาดดุลการค้ารวม 747.5
ล้านเหรียญสหรัฐ
สาเหตุที่ทำให้การส่งออกในเดือนเม.ย.ลดลง เนื่องจากสินค้ากลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ยังคงขยายตัวลดลง 7.2% โดยสินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลง เช่น อาหารทะเลแช่แข็ง ลดลง 6.7% กุ้งแช่แข็งและแปรรูป ลดลง 12.1% เพราะมีปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน ยางพารา และน้ำตาลทราย ลดลง 27.4% และ 37.2% เพราะราคาในตลาดโลกลดลง
ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม ลดลง 0.2% โดยสินค้าที่ส่งออกลดลง เช่น กลุ่มยานยนต์และส่วนประกอบ สิ่งพิมพ์ กระดาษและบรรจุภัณฑ์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ยาง รวมถึงสินแร่ เชื้อเพลิงและทองคำ ที่มีสัญญาณชะลอตัวลง แต่กลุ่มสิ่งทอ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก ยังคงขยายตัวได้ดี
สำหรับตลาดส่งออก ตลาดหลักยังคงขยายตัว 0.3% โดยสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.6% สหภาพยุโรปเดิม 15 ประเทศ เพิ่ม 5.4% แต่ญี่ปุ่นลดลง 4.5% ตลาดศักยภาพสูง ลดลง 3.3% โดยอาเซียน ลด 1.9% จีน ลด 9.5% แต่อินเดีย เพิ่ม 16% ไต้หวัน เพิ่ม 19.6% และตลาดศักยภาพรอง เพิ่ม 1.3% โดยสหภาพยุโรปใหม่ 12 ประเทศ เพิ่ม 30.3% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 22.9% กลุ่ม CIS เพิ่ม 0.7% แต่แอฟริกา ลด 3.4% ลาตินอเมริกา ลด 8.4% ทวีปออสเตรเลีย ลด 13.6%
นางนันทวัลย์กล่าวว่า การส่งออกเริ่มมีสัญญาที่ดี โดยเดือนเม.ย.เริ่มขยายตัวเป็นลบน้อยลง และคาดว่าในไตรมาสที่ 2 จะส่งออกได้ดีขึ้น เพราะขณะนี้เศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวดีขึ้น เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยดีขึ้น และเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะตลาดสำคัญอย่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ที่กลับมาเป็นบวก และถ้าจีนซึ่งเป็นอีกประเทศส่งออกสำคัญของไทยกลับมาเป็นบวกได้ เชื่อว่าการส่งออกครึ่งปีน่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ 2-3%