“ เป็นหน้าที่ของกองทัพของชาติที่จะร่วมมือกับประชาชน ร่วมกันขับไล่ทรราชในคราบนักการเมือง แล้วส่งมอบประชาธิปไตยที่ดีคืนกลับให้กับประชาชน”
“ในภาวะวิกฤตของชาติ กองทัพมีภารกิจอันศักดิ์สิทธิที่จะต้องใช้มาตรการที่จำเป็นในอันที่จะปกป้องรักษาประชาธิปไตยไม่ให้ถูกย่ำยี โดยอำนาจอันฉ้อฉลของกลุ่มนักการเมือง”
ประโยคข้อความ คำพูดเหล่านี้ระยะหลังๆ ในช่วงก่อนที่จะมีการรัฐประหารยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า
ผมเองมักจะขอยืมท่านทูตสุรพงษ์ ชัยนาม มาใช้พูดบ่อยๆ ตอกย้ำให้กับท่านผู้ชมเวลาจัดรายการสภากาแฟ-สภาประชาชน ที่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
ท่านทูตสุรพงษ์ ชัยนาม ท่านเขียนไว้ในหนังสือกองทัพกับประชาธิปไตยเมื่อแปดปีที่แล้ว ท่านฝากมาให้รายการสภากาแฟหลายเล่ม หนังสือเล่มนี้ถูกนำมาใช้ในการจัดรายการ เปิดอ่าน เปิดค้น เปิดอ้างอิง จนปกเปื่อยยุ่ยไปแล้ว
ในการจัดรายการแทบทุกครั้ง คำถามที่ผมจะชวนท่านผู้ชม ชวนคิดถึงเรื่องราวของบ้านเมืองไปด้วยกัน
การเมืองการปกครองบ้านเราทำไมถึงเลวร้าย? การเมืองการปกครองประเทศเราทำไมต้องเสพเงินเป็นอาหาร บั่นทอนประเทศ โดยนักการเมืองโกงงบประมาณจำนวนมาก ยักยอก โยกย้ายเอางบประมาณภาษีประชาชน เพียงเพื่อมาล้างผลาญแย่งชิงอำนาจโปรยหว่านซื้อความนิยมจากประชาชน
ทำไมในสภาเมื่อมีการประชุม รู้ทั้งรู้ว่าการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการจำนำข้าว มีการทุจริตกันมากมายสารพัดโครงการ เมื่อมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประชาชนฟังแล้วสามัญสำนึกบอกได้ว่า สิ่งเหล่านั้น เป็นความชั่วร้าย บั่นทอนการพัฒนาของประเทศ แต่เสียงในสภากลับยกมือสวนสามัญสำนักของประชาชนครั้งแล้วครั้งเล่า
สิ่งเหล่ากลับถูกเรียกว่าประชาธิปไตยแบบไทย แต่ฉิบหายประเทศเรา
ผมจำได้ว่าเดินตามหลังลุงจำลอง ศรีเมือง ไปต่างจังหวัดเกือบครึ่งประเทศ เพื่อปลุกให้พี่น้องคนไทยตื่นขึ้นมาปฏิรูปประเทศไทย ทั้งพันธมิตร ทั้งมวลมหาประชาชน สู้กันมายาวนาน ลำบากอย่างแสนสาหัส นอนกลางดินกินกลางถนน ทิ้งบ้านทิ้งอาชีพ ล้มตาย พิกลการสูญเสียแขนขา ประชาชนอุทิศสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร?
ทั้งหมดทั้งปวงทั้งหลายทั้งสิ้น ก็เพื่อให้ประเทศไทยอันเป็นที่รัก ประเทศที่น่าสงสารของเรา หลุดพ้นจากระบอบการเมืองเลว ที่บั่นทอนความเจริญของประเทศ
วันนี้เรามีเจ้าภาพแล้วและประชาชนดีใจ มอบดอกไม้ มอบรอยยิ้ม มอบการคาดหวังไว้กับทหารซึ่งนำโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประชาชนยอมสละเสรีภาพของชีวิต ณ ช่วงเวลาหนึ่งและก็คงไม่นาน ประชาชนยินยอมให้กองทัพของชาติออกมาแก้วิกฤติปัดกวาดประเทศครั้งใหญ่ เพื่อไม่ให้มีสงครามกลางเมือง เพื่อไม่ให้ประเทศย่อยยับ และประชาชนยังฝากความคาดหวังไว้สูงมาก
การรัฐประหารครั้งนี้ จะเป็นการปฏิวัติสังคมไทยครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติ
มาถึงวันนี้ เราคงไม่ต้องกังวลใจต่างชาติจะว่าอย่างไรแล้ว เพราะประชาชนคนในชาติตื่นแล้วและก็เป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิเช่นกันที่กองทัพของชาติ จะร่วมมือกับประชาชน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันออกแบบปฏิรูปประเทศให้ดีกว่าเดิมให้ประเทศที่น่าสงสารของเราหลุดพ้นจากระบอบการเมืองที่เลว ๆ และคนไม่ดี
โปรดทำให้ดีเถิดครับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
เพียงน้อมนำหลักคิดของพระราชาผู้ทรงธรรม พระองค์ท่านมอบหลักคิดให้กับประเทศมานานแล้วว่า
“ ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที
สภากาแฟ-สภาประชาชน
หมายเหตุ* - เมื่อไม่มีรายการให้จัดทางโทรทัศน์ของเอเอสทีวี ตามประกาศที่ 15/2557 ก็เขียนแล้วกันนะพี่น้อง
“ในภาวะวิกฤตของชาติ กองทัพมีภารกิจอันศักดิ์สิทธิที่จะต้องใช้มาตรการที่จำเป็นในอันที่จะปกป้องรักษาประชาธิปไตยไม่ให้ถูกย่ำยี โดยอำนาจอันฉ้อฉลของกลุ่มนักการเมือง”
ประโยคข้อความ คำพูดเหล่านี้ระยะหลังๆ ในช่วงก่อนที่จะมีการรัฐประหารยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า
ผมเองมักจะขอยืมท่านทูตสุรพงษ์ ชัยนาม มาใช้พูดบ่อยๆ ตอกย้ำให้กับท่านผู้ชมเวลาจัดรายการสภากาแฟ-สภาประชาชน ที่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
ท่านทูตสุรพงษ์ ชัยนาม ท่านเขียนไว้ในหนังสือกองทัพกับประชาธิปไตยเมื่อแปดปีที่แล้ว ท่านฝากมาให้รายการสภากาแฟหลายเล่ม หนังสือเล่มนี้ถูกนำมาใช้ในการจัดรายการ เปิดอ่าน เปิดค้น เปิดอ้างอิง จนปกเปื่อยยุ่ยไปแล้ว
ในการจัดรายการแทบทุกครั้ง คำถามที่ผมจะชวนท่านผู้ชม ชวนคิดถึงเรื่องราวของบ้านเมืองไปด้วยกัน
การเมืองการปกครองบ้านเราทำไมถึงเลวร้าย? การเมืองการปกครองประเทศเราทำไมต้องเสพเงินเป็นอาหาร บั่นทอนประเทศ โดยนักการเมืองโกงงบประมาณจำนวนมาก ยักยอก โยกย้ายเอางบประมาณภาษีประชาชน เพียงเพื่อมาล้างผลาญแย่งชิงอำนาจโปรยหว่านซื้อความนิยมจากประชาชน
ทำไมในสภาเมื่อมีการประชุม รู้ทั้งรู้ว่าการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการจำนำข้าว มีการทุจริตกันมากมายสารพัดโครงการ เมื่อมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประชาชนฟังแล้วสามัญสำนึกบอกได้ว่า สิ่งเหล่านั้น เป็นความชั่วร้าย บั่นทอนการพัฒนาของประเทศ แต่เสียงในสภากลับยกมือสวนสามัญสำนักของประชาชนครั้งแล้วครั้งเล่า
สิ่งเหล่ากลับถูกเรียกว่าประชาธิปไตยแบบไทย แต่ฉิบหายประเทศเรา
ผมจำได้ว่าเดินตามหลังลุงจำลอง ศรีเมือง ไปต่างจังหวัดเกือบครึ่งประเทศ เพื่อปลุกให้พี่น้องคนไทยตื่นขึ้นมาปฏิรูปประเทศไทย ทั้งพันธมิตร ทั้งมวลมหาประชาชน สู้กันมายาวนาน ลำบากอย่างแสนสาหัส นอนกลางดินกินกลางถนน ทิ้งบ้านทิ้งอาชีพ ล้มตาย พิกลการสูญเสียแขนขา ประชาชนอุทิศสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร?
ทั้งหมดทั้งปวงทั้งหลายทั้งสิ้น ก็เพื่อให้ประเทศไทยอันเป็นที่รัก ประเทศที่น่าสงสารของเรา หลุดพ้นจากระบอบการเมืองเลว ที่บั่นทอนความเจริญของประเทศ
วันนี้เรามีเจ้าภาพแล้วและประชาชนดีใจ มอบดอกไม้ มอบรอยยิ้ม มอบการคาดหวังไว้กับทหารซึ่งนำโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประชาชนยอมสละเสรีภาพของชีวิต ณ ช่วงเวลาหนึ่งและก็คงไม่นาน ประชาชนยินยอมให้กองทัพของชาติออกมาแก้วิกฤติปัดกวาดประเทศครั้งใหญ่ เพื่อไม่ให้มีสงครามกลางเมือง เพื่อไม่ให้ประเทศย่อยยับ และประชาชนยังฝากความคาดหวังไว้สูงมาก
การรัฐประหารครั้งนี้ จะเป็นการปฏิวัติสังคมไทยครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติ
มาถึงวันนี้ เราคงไม่ต้องกังวลใจต่างชาติจะว่าอย่างไรแล้ว เพราะประชาชนคนในชาติตื่นแล้วและก็เป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิเช่นกันที่กองทัพของชาติ จะร่วมมือกับประชาชน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันออกแบบปฏิรูปประเทศให้ดีกว่าเดิมให้ประเทศที่น่าสงสารของเราหลุดพ้นจากระบอบการเมืองที่เลว ๆ และคนไม่ดี
โปรดทำให้ดีเถิดครับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
เพียงน้อมนำหลักคิดของพระราชาผู้ทรงธรรม พระองค์ท่านมอบหลักคิดให้กับประเทศมานานแล้วว่า
“ ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที
สภากาแฟ-สภาประชาชน
หมายเหตุ* - เมื่อไม่มีรายการให้จัดทางโทรทัศน์ของเอเอสทีวี ตามประกาศที่ 15/2557 ก็เขียนแล้วกันนะพี่น้อง
