ASTV ผู้จัดการรายวัน - กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายอยู่บ้างโดยจำกัดแรงขายในหุ้นที่เป็นข่าวและหุ้นตระกูลชินฯ จึงไม่กระทบภาพรวมตลาดหุ้นมาก ด้านโบรกเกอร์ระบุ 3 วันนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 11,427.46 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนไทยจะมีโอกาสซื้อของดีราคาเหมาะสม
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ยังมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอยู่บ้าง โดยคาดว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - กลางเดือน พฤษภาคม กว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันเหลืออยู่ในตลาดเพียง 4.3 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่กระทบมาก อย่างไรก็ตาม ตลท. จะเร่งสร้างความเข้าใจแก่นักลงทุนต่างชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองไทย เพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยที่ผ่านมาดัชนีก็ไม่ปรับลดลงมาก และทิศทางการปรับลดก็มีลดน้อยกว่าบางประเทศในภูมิภาคนี้เนื่องจากต่างชาติเริ่มเข้าใจสถานการณ์ของไทยมากขึ้น
“แรงขายต่างชาติจะเป็นอย่างไร จึงยังไม่สามารถตอบได้ เพราะอยู่ที่เราจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติได้เร็วขนาดไหน แต่ล่าสุดในส่วนนี้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นในระดับหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เห็นการพัฒนาของ คสช.ที่มีการเร่งการดำเนินงานอย่างรวดเร็ว เช่น การจ่ายเงินให้กับชาวนา ซึ่งมองว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที" นายจรัมพร กล่าว
ปิดตลาดหุ้นวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ดัชนีอยู่ที่ 1,392.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.44 จุด เปลี่ยนแปลง +0.32% มูลค่าการซื้อขาย 42,634.56 ล้านบาท โดยระหว่าวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,395.76 จุด และต่ำสุดที่ 1,385.79 จุด
โดยนักลงทุนนักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิออกมาอีก 2,730.65 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,420.30 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 31.31 ล้านบาท และ บริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 279.04 ล้านบาท
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟิลลิป คาดการณ์ความเคลี่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ ว่า ดัชนีมีโอกาสที่จะสามารถปรับตัวขึ้นสูงได้ในระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย จากกลับมาบวกของหุ้นกลุ่ม Bank แต่คาดว่ายังขึ้นได้ไม่ไกล เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศสร้างแรงกดดันให้กับบรรยากาศการลงทุน และกระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติลดพอร์ตหุ้น รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับนโยบายพลังงานจะส่งกระทบต่อกลุ่ม PTT ทำให้ในวันนี้ยังคงมีแรงขายในหุ้น PTT และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล คือ ADVANCE
นางสาวธีรดา กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ซึ่งเป็นวันประกาศกฏอัยการศึก จนถึงวันนี้รวม 3 วันนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 11,427.46 ล้านบาทแสดงให้เห็นว่านักลงทุนไทยมีความเข้าใจและเชื่อมั่นในพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนไทยเป็นอย่างมาก ดังนั้นคาดว่าหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีสามารถยกเลิกกฎอัยการศึกได้อย่างรวดเร็ว คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยดังเดิม เพราะขณะนี้เม็ดเงินต่างชาติยังคงไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเกิดใหม่กลุ่ม TPI อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของไทยไม่ได้ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และเชื่อว่าเมื่อปัญหาทางการเมืองจบลงการจับจ่ายของผู้บริโภคจะกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง และถึงแม้จีดีพีของไทยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส แต่ในระยะยาวเชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีเพราะตัวเลขการว่างงานเพียงแค่ร้อยละ0.9 และต่างประเทศการจะดูว่าเศรษฐกิจจะถดถอยหรือไม่ จะต้องดูตัวเลขการว่างงานว่าสูงเท่าใด และสภาพเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะถดถอยระยะยาวหรือไม่ ซึ่งเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันยังไม่ถึงขึ้นถดถอยระยะยาว
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ยังมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอยู่บ้าง โดยคาดว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - กลางเดือน พฤษภาคม กว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันเหลืออยู่ในตลาดเพียง 4.3 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่กระทบมาก อย่างไรก็ตาม ตลท. จะเร่งสร้างความเข้าใจแก่นักลงทุนต่างชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองไทย เพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยที่ผ่านมาดัชนีก็ไม่ปรับลดลงมาก และทิศทางการปรับลดก็มีลดน้อยกว่าบางประเทศในภูมิภาคนี้เนื่องจากต่างชาติเริ่มเข้าใจสถานการณ์ของไทยมากขึ้น
“แรงขายต่างชาติจะเป็นอย่างไร จึงยังไม่สามารถตอบได้ เพราะอยู่ที่เราจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติได้เร็วขนาดไหน แต่ล่าสุดในส่วนนี้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นในระดับหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เห็นการพัฒนาของ คสช.ที่มีการเร่งการดำเนินงานอย่างรวดเร็ว เช่น การจ่ายเงินให้กับชาวนา ซึ่งมองว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที" นายจรัมพร กล่าว
ปิดตลาดหุ้นวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ดัชนีอยู่ที่ 1,392.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.44 จุด เปลี่ยนแปลง +0.32% มูลค่าการซื้อขาย 42,634.56 ล้านบาท โดยระหว่าวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,395.76 จุด และต่ำสุดที่ 1,385.79 จุด
โดยนักลงทุนนักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิออกมาอีก 2,730.65 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,420.30 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 31.31 ล้านบาท และ บริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 279.04 ล้านบาท
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟิลลิป คาดการณ์ความเคลี่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ ว่า ดัชนีมีโอกาสที่จะสามารถปรับตัวขึ้นสูงได้ในระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย จากกลับมาบวกของหุ้นกลุ่ม Bank แต่คาดว่ายังขึ้นได้ไม่ไกล เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศสร้างแรงกดดันให้กับบรรยากาศการลงทุน และกระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติลดพอร์ตหุ้น รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับนโยบายพลังงานจะส่งกระทบต่อกลุ่ม PTT ทำให้ในวันนี้ยังคงมีแรงขายในหุ้น PTT และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล คือ ADVANCE
นางสาวธีรดา กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ซึ่งเป็นวันประกาศกฏอัยการศึก จนถึงวันนี้รวม 3 วันนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 11,427.46 ล้านบาทแสดงให้เห็นว่านักลงทุนไทยมีความเข้าใจและเชื่อมั่นในพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนไทยเป็นอย่างมาก ดังนั้นคาดว่าหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีสามารถยกเลิกกฎอัยการศึกได้อย่างรวดเร็ว คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยดังเดิม เพราะขณะนี้เม็ดเงินต่างชาติยังคงไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเกิดใหม่กลุ่ม TPI อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของไทยไม่ได้ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และเชื่อว่าเมื่อปัญหาทางการเมืองจบลงการจับจ่ายของผู้บริโภคจะกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง และถึงแม้จีดีพีของไทยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส แต่ในระยะยาวเชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีเพราะตัวเลขการว่างงานเพียงแค่ร้อยละ0.9 และต่างประเทศการจะดูว่าเศรษฐกิจจะถดถอยหรือไม่ จะต้องดูตัวเลขการว่างงานว่าสูงเท่าใด และสภาพเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะถดถอยระยะยาวหรือไม่ ซึ่งเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันยังไม่ถึงขึ้นถดถอยระยะยาว