ทบ. ยัน คสช.ทำความเข้าใจคณะทูตต่างชาติแล้ว ชี้พวกที่อ้างว่าเป็นการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตย มีแต่สร้างความเสียหาย รุนแรงใช้อาวุธสงคราม เตรียมประสาน "บัวแก้ว" ไล่บี้" อัมสเตอร์ดัม" โพสต์เรื่อง "แม้ว" ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ส่วนกลุ่มลายจุดต้านรัฐประหารยังสร้างความรำคาญต่อเนื่อง ด้าน "แม้ว" ทวิตขอ คสช.คืนความสุข
จากคำแถลง โดยรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา มารี ฮาร์ฟ สืบเนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหาร โดยกองทัพในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง สหรัฐฯ ยังคงพิจารณาทบทวนความช่วยเหลือ และความร่วมมือทางทหารและด้านอื่นๆ ตามที่กฎหมายสหรัฐฯกำหนด นอกเหนือจากการระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศ แก่ประเทศไทย ดังที่ได้ประกาศแล้วก่อนหน้านี้แล้วนั้น เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน ได้ออกแถลงการณ์ ยกเลิกการส่งทหารอเมริกัน เข้าร่วมฝึกซ้อมทางทหารกับไทย และยกเลิกแผนส่งเจ้าหน้าที่เยือนประเทศไทย หลังจากกองทัพไทยกระทำรัฐประหาร
ทั้งนี้ เพนตากอนประกาศยกเลิกการฝึกซ้อมร่วมภายในกับกองทัพเรือไทย ในชื่อ "CARAT"(Cooperation of Afloat Readiness and Training) ซึ่งเดิมสหรัฐฯ จะส่งนาวิกโยธิน และทหารเรือประมาณ 700 นาย มาร่วมซ้อมรบกับทหารไทย ซึ่งเริ่มฝึกเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ สัตหีบ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และ อ่าวไทย โดยสหรัฐฯได้สั่งทหาร และเรือรบถอนกำลังกลับ เมื่อ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเดิมมีกำหนดฝึกถึง 28 พ.ค.
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังยกเลิกการเยือนไทยของ พล.ร.อ. แฮร์รี แฮร์ริส ผู้บัญชาการกองเรือรบแปซิฟิก สหรัฐฯ และการเชิญ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ไปเยือนกองบัญชาการกองทัพเรือแปซิฟิก ที่เกาะฮาวาย ในเดือนมิ.ย.นี้ อีกทั้งยกเลิกโครงการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนการเงินโดยรัฐบาลสหรัฐฯ และมีกำหนดเริ่มการอบรมในวันที่ 26 พ.ค. ตลอดจนยกเลิกการเดินทางศึกษาดูงาน ที่สหรัฐอเมริกา ที่รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนค่าใช้จ่าย สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสของไทยหลายคนในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งรวมถึงการเยี่ยมชมสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) และการพบปะกับเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเรียกร้องให้กองทัพไทย กระทำการโดยเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน ด้วยการยุติการรัฐประหาร และฟื้นฟูกฎหมาย และเสรีภาพผ่านหลักประชาธิปไตย พร้อมระบุด้วยว่า จะทบทวนเรื่องความร่วมมือต่างๆ ต่อไปเรื่อย จนกว่าสถานการณ์ในไทยจะมีเลือกตั้ง และเป็นประชาธิปไตย
ทบ.แจง ปชต.สร้างความสูญเสีย
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงถึงกรณีสหรัฐอเมริกา ตัดความช่วยเหลือทางทหารแก่ไทย ในรูปแบบของเงินสนับสนุน และการฝึกสำหรับกองทัพไทยนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจผ่านคณะทูตต่างประเทศแล้ว โดยยืนยันว่า การรัฐประหารในประเทศไทย แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และมั่นใจว่า จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติได้
พ.อ.วินธัย กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาทาง สคช.ได้ทำความเข้าใจในระดับต่างประเทศ โดยการสื่อสารผ่านทางผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็น พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจในการรัฐประหาร บางส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนซึ่งเราจะแยกให้เห็นถึงความแตกต่างของประเทศไทย กับต่างชาติ 3 ข้อ คือ
1. สภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน 2. เรามีหลักฐานและเหตุผลชัดเจนในการทำรัฐประหาร ที่จะแสดงต่อต่างชาติ และ 3. ประชาธิปไตยในประเทศ ทำให้เกิดความสูญเสีย
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาทหารได้สนับสนุนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด อยากให้มองย้อนกลับไป ไม่อยากให้มองเฉพาะจุด การแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทำให้เกิดความสูญเสียมาโดยตลอด รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย ในการดำเนินคดีก็จะต้องคำนึงหลักประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
สำหรับในประเทศไทย จะเห็นได้ว่า ในส่วนของประเทศไทย ที่คนแสดงสิทธิโดยอ้างว่าเป็นการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตย ปรากฏว่า มีการใช้อาวุธสงคราม เป็นตัวบ่งชี้ว่า เป็นการสนับสนุนความรุนแรง และกระทำต่อชุมชนเมืองซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก และไม่ทราบว่าการแสดงออกของกลุ่มคน หรือบุคคลที่ทำให้เกิดความสูญเสียจะสะท้อนภาพลักษณ์ในสายตาของต่างชาติอย่างไร การใช้ประชาธิปไตยที่แสดงออกมาในประเทศไทยน่าจะแตกต่างจากประเทศอื่น รวมถึงการเสนอข่าวของสื่อไทยและต่างประเทศที่มีความแตกต่างกัน นี่คือคำจำกัดความของคำว่าระบอบประชาธิปไตยในส่วนที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้เล็งเห็น
ประสานบัวแก้วไล่บี้ "อัมสเตอร์ดัม"
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นว่า นายโรเบิร์ต มีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว ซึ่งเนื้อหาที่นายอัมสเตอร์ดัม โพสต์ลงสื่อออนไลน์ มีส่วนก่อให้เกิดความไม่สงบ แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่อยู่ในต่างประเทศ ทำให้ยากต่อการดำเนินการทางกฎหมาย โดยจะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการกับนายอัมสเตอร์ดัมต่อไป แต่ที่ดำเนินการไปแล้วในขณะนี้คือ การใช้วิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ปิดกั้นการเข้าถึงให้มากที่สุด
ต้านรัฐประหารบุกหน้าสถานทูตUS
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ ที่บริเวณป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้าม สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถ.วิทยุ ได้มีกลุ่มมวลชน ประมาณ 30 คน ในจำนวนนี้มีกลุ่มคนไทยสัญชาติอเมริกันจำนวนหนึ่ง รวมอยู่ด้วย มาร่วมชุมนุม ถือป้ายต่อต้านการรัฐประหาร ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.น.5 จำนวน 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ทหาร จากกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ( ม.1 รอ.) มาตรึงกำลัง ปิดการจราจรถนนวิทยุ ช่วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ผ่านเข้า-ออก พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าเจรจาขอร้องไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมชูป้าย และให้เดินทางออกจากพื้นที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาทันที
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้เวลาแสดงความคิดเห็น ประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มของ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่บริเวณศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้ร่วมกันปิดการจราจร ถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกสารสิน จนถึงแยกเพลินจิต เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลุ่มมวลชนมาชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา อีก
ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมต้านรัฐประหาร ที่ด้านหน้าร้านแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ ว่า ประมาณ 14.30 น ทหารที่ประจำอยู่ ได้ออกมาตั้งแถว ด้านหน้าโรงพยาบาลตำรวจ และมีทหารมาสมทบอีก 3 คันรถยีเอ็มซี โดยแถวหน้าถือโล่ ขณะที่แถวหลัง ถือปืน จากนั้นจึงเคลื่อนกำลังเป็นแนวพน้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตั้งแนวปิดแยกราชประสงค์ ฝั่งถนนพระรามหนึ่ง สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชุมนุม และได้มาประจันหน้า พร้อมทั้งโห่ไล่
จากนั้นผู้ชุมนุมได้รวมตัวทยอยเคลื่อนขบวนออกจากหน้าห้างอมรินทร์ และผ่านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไปประตูน้ำ เพื่อมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยด้านหน้าเหลือเพียงทหาร ตำรวจ และผูสื่อข่าวเท่านั้น
ทั้งนี้มีนักท่องเที่ยวได้ออกมายืนถ่ายภาพทหาร ตำรวจ ซึ่งในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทักษิณทวิตวอน คสช.คืนความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วานนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ " Thaksin Shinawatra @ThaksinLive" ผมในฐานะที่เคยทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งย่อมเศร้าสลดกับเหตุการณ์ในประเทศไทย อันเกิดจากการปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง ประเทศไทยมีความขัดแย้งมานานเหตุเกิดจากการแบ่งฝ่าย โดยไม่มีกติกาไม่มีความยุติธรรม และมีการใส่ร้ายป้ายสี
ผมขอให้ คสช.ได้คืนความสุขให้คนไทย ให้คนไทยได้หันหน้าเข้าหากัน ยิ้มให้กันได้เหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อให้คนไทยได้มีความหวังกับอนาคตตนเอง และอนาคตของประเทศไทยด้วยการ ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย มองทุกฝ่ายไม่ว่าจะเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ว่าเป็นคนไทยเหมือนกันเกิดในแผ่นดินไทยด้วยกัน ขอให้ปฏิบัติต่อทุกฝ่ายโดยหลักสากลที่ยึดหลักนิติธรรม เคารพในสิทธิมนุษยชน ใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ไทยยังเป็นที่เคารพในสายตาอารยประเทศต่อไปครับ.
จากคำแถลง โดยรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา มารี ฮาร์ฟ สืบเนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหาร โดยกองทัพในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง สหรัฐฯ ยังคงพิจารณาทบทวนความช่วยเหลือ และความร่วมมือทางทหารและด้านอื่นๆ ตามที่กฎหมายสหรัฐฯกำหนด นอกเหนือจากการระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศ แก่ประเทศไทย ดังที่ได้ประกาศแล้วก่อนหน้านี้แล้วนั้น เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน ได้ออกแถลงการณ์ ยกเลิกการส่งทหารอเมริกัน เข้าร่วมฝึกซ้อมทางทหารกับไทย และยกเลิกแผนส่งเจ้าหน้าที่เยือนประเทศไทย หลังจากกองทัพไทยกระทำรัฐประหาร
ทั้งนี้ เพนตากอนประกาศยกเลิกการฝึกซ้อมร่วมภายในกับกองทัพเรือไทย ในชื่อ "CARAT"(Cooperation of Afloat Readiness and Training) ซึ่งเดิมสหรัฐฯ จะส่งนาวิกโยธิน และทหารเรือประมาณ 700 นาย มาร่วมซ้อมรบกับทหารไทย ซึ่งเริ่มฝึกเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ สัตหีบ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และ อ่าวไทย โดยสหรัฐฯได้สั่งทหาร และเรือรบถอนกำลังกลับ เมื่อ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเดิมมีกำหนดฝึกถึง 28 พ.ค.
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังยกเลิกการเยือนไทยของ พล.ร.อ. แฮร์รี แฮร์ริส ผู้บัญชาการกองเรือรบแปซิฟิก สหรัฐฯ และการเชิญ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ไปเยือนกองบัญชาการกองทัพเรือแปซิฟิก ที่เกาะฮาวาย ในเดือนมิ.ย.นี้ อีกทั้งยกเลิกโครงการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนการเงินโดยรัฐบาลสหรัฐฯ และมีกำหนดเริ่มการอบรมในวันที่ 26 พ.ค. ตลอดจนยกเลิกการเดินทางศึกษาดูงาน ที่สหรัฐอเมริกา ที่รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนค่าใช้จ่าย สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสของไทยหลายคนในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งรวมถึงการเยี่ยมชมสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) และการพบปะกับเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเรียกร้องให้กองทัพไทย กระทำการโดยเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน ด้วยการยุติการรัฐประหาร และฟื้นฟูกฎหมาย และเสรีภาพผ่านหลักประชาธิปไตย พร้อมระบุด้วยว่า จะทบทวนเรื่องความร่วมมือต่างๆ ต่อไปเรื่อย จนกว่าสถานการณ์ในไทยจะมีเลือกตั้ง และเป็นประชาธิปไตย
ทบ.แจง ปชต.สร้างความสูญเสีย
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงถึงกรณีสหรัฐอเมริกา ตัดความช่วยเหลือทางทหารแก่ไทย ในรูปแบบของเงินสนับสนุน และการฝึกสำหรับกองทัพไทยนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจผ่านคณะทูตต่างประเทศแล้ว โดยยืนยันว่า การรัฐประหารในประเทศไทย แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และมั่นใจว่า จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติได้
พ.อ.วินธัย กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาทาง สคช.ได้ทำความเข้าใจในระดับต่างประเทศ โดยการสื่อสารผ่านทางผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็น พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจในการรัฐประหาร บางส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนซึ่งเราจะแยกให้เห็นถึงความแตกต่างของประเทศไทย กับต่างชาติ 3 ข้อ คือ
1. สภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน 2. เรามีหลักฐานและเหตุผลชัดเจนในการทำรัฐประหาร ที่จะแสดงต่อต่างชาติ และ 3. ประชาธิปไตยในประเทศ ทำให้เกิดความสูญเสีย
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาทหารได้สนับสนุนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด อยากให้มองย้อนกลับไป ไม่อยากให้มองเฉพาะจุด การแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทำให้เกิดความสูญเสียมาโดยตลอด รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย ในการดำเนินคดีก็จะต้องคำนึงหลักประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
สำหรับในประเทศไทย จะเห็นได้ว่า ในส่วนของประเทศไทย ที่คนแสดงสิทธิโดยอ้างว่าเป็นการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตย ปรากฏว่า มีการใช้อาวุธสงคราม เป็นตัวบ่งชี้ว่า เป็นการสนับสนุนความรุนแรง และกระทำต่อชุมชนเมืองซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก และไม่ทราบว่าการแสดงออกของกลุ่มคน หรือบุคคลที่ทำให้เกิดความสูญเสียจะสะท้อนภาพลักษณ์ในสายตาของต่างชาติอย่างไร การใช้ประชาธิปไตยที่แสดงออกมาในประเทศไทยน่าจะแตกต่างจากประเทศอื่น รวมถึงการเสนอข่าวของสื่อไทยและต่างประเทศที่มีความแตกต่างกัน นี่คือคำจำกัดความของคำว่าระบอบประชาธิปไตยในส่วนที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้เล็งเห็น
ประสานบัวแก้วไล่บี้ "อัมสเตอร์ดัม"
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นว่า นายโรเบิร์ต มีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว ซึ่งเนื้อหาที่นายอัมสเตอร์ดัม โพสต์ลงสื่อออนไลน์ มีส่วนก่อให้เกิดความไม่สงบ แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่อยู่ในต่างประเทศ ทำให้ยากต่อการดำเนินการทางกฎหมาย โดยจะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการกับนายอัมสเตอร์ดัมต่อไป แต่ที่ดำเนินการไปแล้วในขณะนี้คือ การใช้วิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ปิดกั้นการเข้าถึงให้มากที่สุด
ต้านรัฐประหารบุกหน้าสถานทูตUS
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ ที่บริเวณป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้าม สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถ.วิทยุ ได้มีกลุ่มมวลชน ประมาณ 30 คน ในจำนวนนี้มีกลุ่มคนไทยสัญชาติอเมริกันจำนวนหนึ่ง รวมอยู่ด้วย มาร่วมชุมนุม ถือป้ายต่อต้านการรัฐประหาร ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.น.5 จำนวน 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ทหาร จากกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ( ม.1 รอ.) มาตรึงกำลัง ปิดการจราจรถนนวิทยุ ช่วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ผ่านเข้า-ออก พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าเจรจาขอร้องไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมชูป้าย และให้เดินทางออกจากพื้นที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาทันที
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้เวลาแสดงความคิดเห็น ประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มของ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่บริเวณศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้ร่วมกันปิดการจราจร ถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกสารสิน จนถึงแยกเพลินจิต เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลุ่มมวลชนมาชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา อีก
ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมต้านรัฐประหาร ที่ด้านหน้าร้านแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ ว่า ประมาณ 14.30 น ทหารที่ประจำอยู่ ได้ออกมาตั้งแถว ด้านหน้าโรงพยาบาลตำรวจ และมีทหารมาสมทบอีก 3 คันรถยีเอ็มซี โดยแถวหน้าถือโล่ ขณะที่แถวหลัง ถือปืน จากนั้นจึงเคลื่อนกำลังเป็นแนวพน้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตั้งแนวปิดแยกราชประสงค์ ฝั่งถนนพระรามหนึ่ง สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชุมนุม และได้มาประจันหน้า พร้อมทั้งโห่ไล่
จากนั้นผู้ชุมนุมได้รวมตัวทยอยเคลื่อนขบวนออกจากหน้าห้างอมรินทร์ และผ่านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไปประตูน้ำ เพื่อมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยด้านหน้าเหลือเพียงทหาร ตำรวจ และผูสื่อข่าวเท่านั้น
ทั้งนี้มีนักท่องเที่ยวได้ออกมายืนถ่ายภาพทหาร ตำรวจ ซึ่งในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทักษิณทวิตวอน คสช.คืนความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วานนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ " Thaksin Shinawatra @ThaksinLive" ผมในฐานะที่เคยทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งย่อมเศร้าสลดกับเหตุการณ์ในประเทศไทย อันเกิดจากการปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง ประเทศไทยมีความขัดแย้งมานานเหตุเกิดจากการแบ่งฝ่าย โดยไม่มีกติกาไม่มีความยุติธรรม และมีการใส่ร้ายป้ายสี
ผมขอให้ คสช.ได้คืนความสุขให้คนไทย ให้คนไทยได้หันหน้าเข้าหากัน ยิ้มให้กันได้เหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อให้คนไทยได้มีความหวังกับอนาคตตนเอง และอนาคตของประเทศไทยด้วยการ ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย มองทุกฝ่ายไม่ว่าจะเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ว่าเป็นคนไทยเหมือนกันเกิดในแผ่นดินไทยด้วยกัน ขอให้ปฏิบัติต่อทุกฝ่ายโดยหลักสากลที่ยึดหลักนิติธรรม เคารพในสิทธิมนุษยชน ใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ไทยยังเป็นที่เคารพในสายตาอารยประเทศต่อไปครับ.
