00 นี่ก็เหลืออีกไม่กี่ชัาวโมงก็จะครบกำหนดที่ รองปธ.วุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่แทน ปธ.วุฒิสภา สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เคยบอกว่า ขอเวลา 2-3 วัน สำหรับการเสนอ"โรดแมป" ผ่าทางตันประเทศไทย ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะออกมาแบบไหน แต่เมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึก ตามมา มันก็เริ่มเดาทิศทางได้มากขึ้นว่าแนวโน้มจะไปทางไหน หากเปรียบเทียบเหตุการณ์ในอดีต หากเป็นไปตามนั้น วุฒิสภาก็เหมือนกับ "หอย" ที่ห่อหุ้มด้วย "เปลือกหอย" คือกองทัพในเวลานี้ เพื่อผลักดันให้ทำหน้าที่ไปตามครรลองประเพณี หรือตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้ตอบคำถามนักข่าวว่า "เวลานี้รัฐบาลอยู่ไหนล่ะ"
00 ความหมายก็คือ "มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี" เมื่อไม่มีก็ต้องรีบตั้งใหม่ นั่นคือให้วุฒิสภาที่ป็นฝ่ายนิติบัญญัติเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ ทำหน้าที่ในการเสนอชื่อ นายกฯ คนใหม่ ให้มีอำนาจเต็มขึ้นมาโดยเร็ว วิธีการอาจขอ "งดเว้น" การใช้รธน.บางมาตรา เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งภายใต้ "อำนาจพิเศษ" แบบนี้ทำได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องใช้ความกล้าหาญ ทำอย่างรวดเร็ว เอาให้จบ ขืนปล่อยไว้นานข้ามสัปดาห์ ก็จะวุ่นวายสับสน ที่สำคัญประเภทระดมความเห็นนั้นเลิกเถอะ มากเรื่องมากความ เพราะเวลาผ่านมา 6-7 เดือน รับรู้ปัญหากันมาแทบอ๊วกกันแล้ว มันอยู่ที่ว่าจะแก้ปัญหาแบบไหน จะแก้ปัญหาผ่าทางตันบ้านเมือง หรือแก้ปัญหาให้ใคร ถ้าต้องการแก้ปัญหาบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ก็รีบเดินหน้า ทำเลย ไม่ต้องเกรงใจใคร ทำได้หรือเปล่า อย่ายึกยัก ชักช้า !!
00 แม้จะยังไม่เห็นรูปร่างชัดเจนของ โรดแมปดังกล่าว แต่มีการคาดเดาออกมาบ้างแล้วว่า ตัวเก็งว่าที่นายกฯ ขัดตาทัพที่จะทำภารกิจสำคัญมีชื่อของ กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ถูกโยกไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ ซึ่งหากพิจารณาถึงกึ๋น และแนวทางปฏิรูป ก็ถือว่าโอเค เชื่อว่าทุกฝ่ายรับได้ แต่ของแบบนี้ยังต้องรอดูว่า ออกมาแบบไหน อาจไม่เป็นดังที่คิดก็ได้ เพราะสิ่งที่จะได้เห็นยังมาไม่ถึง !!
00 เวลานี้ "กองกำลังเสื้อแดง"ได้ถูกบล็อกเอาไว้ทุกด้าน จนเคลื่อนไหวไม่ได้ ไม่ว่าจะมาในชุดสีอะไร ถูกสกัดเอาไว้หมด เนื่องจากที่ผ่านมาได้ตามประกบเอาไว้ทุกฝีก้าว โดยเฉพาะพวกกองกำลังติดอาวุธ ที่เวลานี้กำลังถูกไล่ล่า หัวซุกหัวซุน บรรดาหัวโจกที่เคยซ่าตามหัวเมืองบ้านนอก หลายคนถูกรวบตัวไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ขณะที่เวทีที่ถนนอักษะ แทบร้าง มีการตั้งด่านเข้มคนในให้ออก คนนอกเข้ายาก และ "นกรู้" อย่าง "ขวัญชัย สาราคำ" ที่มีเมียเป็น ส.ว.ผู้ทรงเกียรติ เมื่อดีดลูกคิดแล้วรู้ดีว่า แบบไหนคุ้มกว่า ประกาศยกเลิกขนคนมาสมทบ ก็ยิ่งทำให้ ทั่นประธาน จตุพร พรหมพันธุ์ ยิ่งวังเวง
00 ตรงข้ามกับเวที กปปส. ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ แม้ว่าจะอยู่ในบรรยากาศอัยการศึก แต่ก็ถือว่าคึกคัก มีมวลชนปักหลักหนุนเนื่องหนาตา และให้คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวในอีกสองวันข้างหน้าว่า จะมี "ทีเด็ด" แบบไหนโดยเฉพาะกำหนดวันเส้นตาย วันที่ 26 พ.ค. ก่อนเวลาหนึ่งทุ่มตรง ว่าทำได้หรือเปล่า แต่เชื่อว่าถ้าจบ ก็ต้องจบก่อนวันนั้น !!
00 ความหมายก็คือ "มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี" เมื่อไม่มีก็ต้องรีบตั้งใหม่ นั่นคือให้วุฒิสภาที่ป็นฝ่ายนิติบัญญัติเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ ทำหน้าที่ในการเสนอชื่อ นายกฯ คนใหม่ ให้มีอำนาจเต็มขึ้นมาโดยเร็ว วิธีการอาจขอ "งดเว้น" การใช้รธน.บางมาตรา เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งภายใต้ "อำนาจพิเศษ" แบบนี้ทำได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องใช้ความกล้าหาญ ทำอย่างรวดเร็ว เอาให้จบ ขืนปล่อยไว้นานข้ามสัปดาห์ ก็จะวุ่นวายสับสน ที่สำคัญประเภทระดมความเห็นนั้นเลิกเถอะ มากเรื่องมากความ เพราะเวลาผ่านมา 6-7 เดือน รับรู้ปัญหากันมาแทบอ๊วกกันแล้ว มันอยู่ที่ว่าจะแก้ปัญหาแบบไหน จะแก้ปัญหาผ่าทางตันบ้านเมือง หรือแก้ปัญหาให้ใคร ถ้าต้องการแก้ปัญหาบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ก็รีบเดินหน้า ทำเลย ไม่ต้องเกรงใจใคร ทำได้หรือเปล่า อย่ายึกยัก ชักช้า !!
00 แม้จะยังไม่เห็นรูปร่างชัดเจนของ โรดแมปดังกล่าว แต่มีการคาดเดาออกมาบ้างแล้วว่า ตัวเก็งว่าที่นายกฯ ขัดตาทัพที่จะทำภารกิจสำคัญมีชื่อของ กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ถูกโยกไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ ซึ่งหากพิจารณาถึงกึ๋น และแนวทางปฏิรูป ก็ถือว่าโอเค เชื่อว่าทุกฝ่ายรับได้ แต่ของแบบนี้ยังต้องรอดูว่า ออกมาแบบไหน อาจไม่เป็นดังที่คิดก็ได้ เพราะสิ่งที่จะได้เห็นยังมาไม่ถึง !!
00 เวลานี้ "กองกำลังเสื้อแดง"ได้ถูกบล็อกเอาไว้ทุกด้าน จนเคลื่อนไหวไม่ได้ ไม่ว่าจะมาในชุดสีอะไร ถูกสกัดเอาไว้หมด เนื่องจากที่ผ่านมาได้ตามประกบเอาไว้ทุกฝีก้าว โดยเฉพาะพวกกองกำลังติดอาวุธ ที่เวลานี้กำลังถูกไล่ล่า หัวซุกหัวซุน บรรดาหัวโจกที่เคยซ่าตามหัวเมืองบ้านนอก หลายคนถูกรวบตัวไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ขณะที่เวทีที่ถนนอักษะ แทบร้าง มีการตั้งด่านเข้มคนในให้ออก คนนอกเข้ายาก และ "นกรู้" อย่าง "ขวัญชัย สาราคำ" ที่มีเมียเป็น ส.ว.ผู้ทรงเกียรติ เมื่อดีดลูกคิดแล้วรู้ดีว่า แบบไหนคุ้มกว่า ประกาศยกเลิกขนคนมาสมทบ ก็ยิ่งทำให้ ทั่นประธาน จตุพร พรหมพันธุ์ ยิ่งวังเวง
00 ตรงข้ามกับเวที กปปส. ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ แม้ว่าจะอยู่ในบรรยากาศอัยการศึก แต่ก็ถือว่าคึกคัก มีมวลชนปักหลักหนุนเนื่องหนาตา และให้คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวในอีกสองวันข้างหน้าว่า จะมี "ทีเด็ด" แบบไหนโดยเฉพาะกำหนดวันเส้นตาย วันที่ 26 พ.ค. ก่อนเวลาหนึ่งทุ่มตรง ว่าทำได้หรือเปล่า แต่เชื่อว่าถ้าจบ ก็ต้องจบก่อนวันนั้น !!