xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยผวา!ปิดลบ15จุด ตปท.ขาย-จ่อลากยาววันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – รับกฎอัยการศึกหุ้นไทยปิดร่วง 15 จุด “จรัมพร”ยืนยันเปิดเทรดทุกสินค้าตามปกติ ตลาดหุ้นมีมาตรการรองรับพร้อม ชี้หลายตัวร่วงต่ำกลายเป็นของดีราคาถูก แม้ต่างชาติผวาขายทิ้งแล้ว 8 พันล้าน โบรกฯ คาดดัชนียังร่วงต่อเนื่อง เพราะทิศทางความชัดเจนนั้นยังคลุมเครือ ด้านแบงก์ชาติพร้อมจับตาใกล้ชิด ระบุตลาดการเงินยังปกติ

ตลาดหุ้นไทยวานนี้(20พ.ค.) ปรับตัวลดลงเคลื่อนไหวในแดนลบ ภายหลังกองทัพประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยเฉพาะการซื้อขายรอบเช้าปรับตัวลดลงกว่า 20 จุด ก่อนรีบาวนด์ขึ้นได้เล็กน้อย โดยปิดตลาดที่ที่ระดับ 1,394.69 จุด ลดลง 15.94 จุด หรือ -1.13%มูลค่าการซื้อขาย 43,257.79 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ต่างพากันวิตกต่อสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีการขายสุทธิ 8,335.68 ล้านบาท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า หลังประกาศกฎอัยการศึก ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดปรับลง 20 จุด ถือว่าไม่ค่อยมีผลกระทบมาก เนื่องจากตลาดรับข่าวเรื่องนี้ไปมากแล้ว อีกทั้งเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังน่าสนใจกว่า เมื่อเทียบกับที่อื่น เห็นจากยอดซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติก่อนหน้านี้กว่า 3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น ขอให้นักลงทุนอย่าตื่นตระหนก อยากให้มองเป็นการลงทุนระยะยาว ดูปัจจัยพื้นฐานของหุ้นนั้นๆ และการปรับตัวลดลงของราคาหุ้น อาจเป็นจังหวะดีในการเข้าซื้อเพื่อลงทุน
สำหรับ ตลาดหลักทรัพย์ ยืนยันว่าไม่มีมาตรการพิเศษใด ๆ มาดูแลภาวการณ์ซื้อขายในช่วงนี้ เพราะหลักเกณฑ์ปกติที่มีอยู่รองรับทุกสถานการณ์ได้อยู่แล้ว และยืนยันว่าตลาดหลักทรัพย์ยังคงเปิดทำการซื้อขายเป็นปกติทุกวั
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรง หลังจากกองทัพบกนำโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ประกาศใช้กฎอัยการศึกครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างสองกลุ่มการเมืองบานปลาย ทำให้เกิดมีแรงขายออกมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงต้องจับตาดูถึงภาพบรรยากาศทางการเมืองหลังจากนี้ไป ว่าจะคลี่คลายมากน้อยเพียงใด และออกมาในรูปแบบใด
“ประเด็นทางการเมืองในประเทศเป็นประเด็นหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้นนี้ ส่งผลให้ประเด็นต่างประเทศ กรณีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 21 พ.ค.ต่อการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในเช้าวันที่ 22 พ.ค. ไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก”
ส่วนแนวโน้มวันนี้(21พ.ค.) คาดหุ้นไทยยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แม้การประกาศกฎอัยการศึกจะเป็นการป้องกันความรุนแรงทางการเมือง แต่ทิศทางความชัดเจนนั้นอยู่คลุมเครืออยู่ จึงทำให้อาจเห็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ที่ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์การเมืองไทย แต่หากสถานการณ์คลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ดัชนีฯ จะรีบาวนด์กลับได้รวดเร็วเช่นเดียวกัน ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้คือ แนะถือเงินสดรอดูสถานการณ์ (Wait&See) โดยถือหุ้นในพอร์ตไม่เกิด 25% หากดัชนีฯ ลงไปแถว 1,340+/- เป็นจุดที่สามารทยอยซื้อหุ้นสะสมได้ โดยประเมินแนวรับ 1,380-1,370 จุด แนวต้าน 1,400-1,410 จุด
ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงหลังจากที่ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล โดยบางคนก็ค่อนข้างสับสน เพราะไทยไม่เคยประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศแบบนี้ และภาพที่ออกมานี้ทำให้เกิดแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ กดดันให้ตลาดปรับตัวลง นอกจากนี้นักลงทุนในประเทศก็มีการขายออกมาด้วยเหมือนกัน ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียมีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ซึ่งปัจจัยจากนอกประเทศเวลานี้ไม่ค่อยมีประเด็นมากนัก
“วันนี้ ตลาดฯหุ้นคงจะผันผวน และมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้อยู่ แต่กรอบขาลงคงจะแคบลง โดยให้แนวรับ 1,380 จุด แนวต้าน 1,400 จุด พร้อมไม่แนะนำนักลงทุนระยะสั้นให้เล่นเทรดดิ้ง ส่วนนักลงทุนที่ซื้อลงทุนก็สามารถซื้อได้เมื่อดัชนีฯต่ำกว่าระดับ 1,370 จุด ในกลุ่ม Global plays อย่างหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี เป็นต้น เพราะจะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว”
****ธปท.พร้อมจับตาใกล้ชิด
นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการประกาศกฎอัยการศึกว่า ระบบธนาคารพาณิชย์และตลาดการเงินยังทำงานปกติ แม้ในช่วงต้นอาจมีนักลงทุนบางส่วนตกใจบ้าง แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อมีการวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ข่าวที่มากขึ้นก็คลายความกังวลลง ทำให้เห็นปฏิกิริยากลับมาลงทุนที่ค่อนข้างเร็ว ทั้งในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนและตลาดพันธบัตร ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจนั้น ธปท.จะติดตามสถานการณ์ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น