เชียงราย-เชียงรายดีเดย์เริ่มจ่ายงบซ่อมบ้านพักจากแผ่นดินไหววันนี้ ท่ามกลางอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นไม่หยุด ทำยอดบ้านพังเสียหายทะลุหมื่นหลังคาเรือน แถมรอยแยกเดิมที่ "ห้วยส้านยาว" ขยายกว้าง-ลึกมากขึ้นอีก ด้าน "ชัชชาติ" สั่งทบทวนการออกแบบสร้างถนน สะพาน ทางด่วน ให้รองรับแผ่นดินไหว
นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ที่ห้องประชุมอู่หลง ศาลากลางจังหวัด โดยที่ประชุมได้แจ้งสรุปการเกิดอาฟเตอร์ช็อกตั้งแต่การสั่นไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยความแรงกว่า 6.3 ริกเตอร์ จนถึงวันที่ 13 พ.ค. พบว่า มีการสั่นไหวเกือบ 800 ครั้งแล้ว โดยเป็นขนาดความแรง 5-5.9 ริกเตอร์ 8 ครั้ง 4-4.9 ริกเตอร์ 29 ครั้ง ที่เหลือไม่มีความแรงจนถึงระดับ 3.9 ริกเตอร์
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีการปรับลดจำนวนบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังลงจากเดิม 116 หลังเหลือ 107 หลัง แต่อาคารที่เสียหายบางส่วน ซึ่งเดิมมีประมาณ 8,900 หลัง ได้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 10,529 หลัง ส่วนความเสียหายอื่นๆ ยังคงเดิม เช่น ถนน 5 สาย สถานพยาบาล 25 แห่ง
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ตั้งกองทุนสงเคราะห์ช่วยผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหว จังหวัดเชียงราย เลขที่บัญชี 9823625789 บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศาลากลางจังหวัดเชียงราย ล่าสุดมีผู้บริจาคแล้วเกือบ 200,000 บาท และยังมีหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนระดมกองทุนช่วยเหลือด้วย
นอกจากนี้ ยังรับบริจาคเป็นสิ่งของ เช่น อาหาร น้ำดื่ม ซึ่งมีเอกชนประสงค์จะบริจาคกระเบื้องประมาณ 10,000 แผ่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลังใน อำเภอพาน 20,000 บาท และเสียหายบางส่วน 2,500 บาท ส่วนใหญ่เป็นสมาชิก ธ.ก.ส. ซึ่ง ธ.ก.ส.มีงบประมาณก้อนแรก 20 ล้านบาท
สำหรับงบประมาณฉุกเฉินที่จังหวัดเสนอไปก่อนหน้านี้ ภายใต้วงเงิน 500 ล้านบาท ได้มีการจัดสรรลงไปบางส่วนแล้ว และทางจังหวัดจะอนุมัติวันนี้เพื่อเริ่มแจกจ่ายตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. เป็นต้นไป โดยพุ่งเป้าไปที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลังก่อน จากนั้นจะทยอยช่วยเหลือบ้านเรือนเสียหายบางส่วนเป็นรายๆ ไป
"จังหวัดได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ว่าอย่าให้ร้านค้าต่างๆ ขึ้นราคาวัสดุก่อสร้างในช่วงนี้ ถ้าร้านใดขึ้นราคา ทางจังหวัดก็พร้อมจะดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมความทุกข์ยากของประชาชนที่จำเป็นต้องซื้อเพื่อไปสร้างหรือซ่อมแซมบ้านเรือน และจังหวัดจะพยายามช่วยชาวบ้านที่ไม่มีทุนสร้างบ้านใหม่ ด้วยการระดมภาคเอกชนทั่วไปช่วยเหลือ ออกแบบบ้านและให้เอกชนไปสร้าง โดยรับบริจาคทั้งบ้านและทุนไปพร้อมกันด้วย"
ด้านพื้นที่หมู่บ้านห้วยส้านยาว ม.13 ต.ดงมะดะ ซึ่งมีความเสียหายหนักอยู่แล้วและมีศูนย์ช่วยเหลือประชาชนตั้งอยู่ พบรอยแยกอยู่ตรงจุดที่ห่างจากเชียงราย-เชียงใหม่ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 152 ห่างจากจุดที่ผิวถนนเสียหาย และกรมทางหลวงกำลังทำการซ่อมแซมประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นรอยแยกเดิมป่าละเมาะที่เคยพบเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้งทำให้รอยแยกกว้างและลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และอาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า ได้ร่วมกันประเมินผลเหตุแผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งถนนและสะพานของ ทล. ทช. ได้รับความเสียหาย โดยได้มอบหมายให้ ทล.และ ทช. ศึกษาทบทวนมาตรฐานการออกแบบก่อสร้าง โดยเฉพาะค่ามาตรฐานเพื่อรองรับแผ่นดินไหวให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน เพื่อให้ครอบคลุมกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงจัดทำแผนเผชิญเหตุ (Risk Map) ในพื้นที่เสี่ยงภาคเหนือและภาคตะวันตกให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ขณะที่ กทพ. ที่รับผิดชอบการก่อสร้างทางด่วน จะต้องทบทวนเช่นกันเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดแผ่นดินไหว
"นอกจากทบทวนการออกแบบใหม่แล้ว ทั้ง ทล. และ ทช. จะต้องจัดทำแผนเผชิญเหตุในเส้นทางภาคเหนือและตะวันตก ซึ่งมี 22 จังหวัดที่มีความเสี่ยง ตามประกาศกระทรวงของกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยในแต่ละจุดมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ต้องสำรวจแบบละเอียด บางจุดมีปัญหาคันทางเสี่ยงสไลด์ เวลาเกิดเหตจะได้สำรวจจุดที่มีความเสี่ยวก่อน"นายชัชชาติกล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ที่ห้องประชุมอู่หลง ศาลากลางจังหวัด โดยที่ประชุมได้แจ้งสรุปการเกิดอาฟเตอร์ช็อกตั้งแต่การสั่นไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยความแรงกว่า 6.3 ริกเตอร์ จนถึงวันที่ 13 พ.ค. พบว่า มีการสั่นไหวเกือบ 800 ครั้งแล้ว โดยเป็นขนาดความแรง 5-5.9 ริกเตอร์ 8 ครั้ง 4-4.9 ริกเตอร์ 29 ครั้ง ที่เหลือไม่มีความแรงจนถึงระดับ 3.9 ริกเตอร์
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีการปรับลดจำนวนบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังลงจากเดิม 116 หลังเหลือ 107 หลัง แต่อาคารที่เสียหายบางส่วน ซึ่งเดิมมีประมาณ 8,900 หลัง ได้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 10,529 หลัง ส่วนความเสียหายอื่นๆ ยังคงเดิม เช่น ถนน 5 สาย สถานพยาบาล 25 แห่ง
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ตั้งกองทุนสงเคราะห์ช่วยผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหว จังหวัดเชียงราย เลขที่บัญชี 9823625789 บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศาลากลางจังหวัดเชียงราย ล่าสุดมีผู้บริจาคแล้วเกือบ 200,000 บาท และยังมีหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนระดมกองทุนช่วยเหลือด้วย
นอกจากนี้ ยังรับบริจาคเป็นสิ่งของ เช่น อาหาร น้ำดื่ม ซึ่งมีเอกชนประสงค์จะบริจาคกระเบื้องประมาณ 10,000 แผ่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลังใน อำเภอพาน 20,000 บาท และเสียหายบางส่วน 2,500 บาท ส่วนใหญ่เป็นสมาชิก ธ.ก.ส. ซึ่ง ธ.ก.ส.มีงบประมาณก้อนแรก 20 ล้านบาท
สำหรับงบประมาณฉุกเฉินที่จังหวัดเสนอไปก่อนหน้านี้ ภายใต้วงเงิน 500 ล้านบาท ได้มีการจัดสรรลงไปบางส่วนแล้ว และทางจังหวัดจะอนุมัติวันนี้เพื่อเริ่มแจกจ่ายตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. เป็นต้นไป โดยพุ่งเป้าไปที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลังก่อน จากนั้นจะทยอยช่วยเหลือบ้านเรือนเสียหายบางส่วนเป็นรายๆ ไป
"จังหวัดได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ว่าอย่าให้ร้านค้าต่างๆ ขึ้นราคาวัสดุก่อสร้างในช่วงนี้ ถ้าร้านใดขึ้นราคา ทางจังหวัดก็พร้อมจะดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมความทุกข์ยากของประชาชนที่จำเป็นต้องซื้อเพื่อไปสร้างหรือซ่อมแซมบ้านเรือน และจังหวัดจะพยายามช่วยชาวบ้านที่ไม่มีทุนสร้างบ้านใหม่ ด้วยการระดมภาคเอกชนทั่วไปช่วยเหลือ ออกแบบบ้านและให้เอกชนไปสร้าง โดยรับบริจาคทั้งบ้านและทุนไปพร้อมกันด้วย"
ด้านพื้นที่หมู่บ้านห้วยส้านยาว ม.13 ต.ดงมะดะ ซึ่งมีความเสียหายหนักอยู่แล้วและมีศูนย์ช่วยเหลือประชาชนตั้งอยู่ พบรอยแยกอยู่ตรงจุดที่ห่างจากเชียงราย-เชียงใหม่ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 152 ห่างจากจุดที่ผิวถนนเสียหาย และกรมทางหลวงกำลังทำการซ่อมแซมประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นรอยแยกเดิมป่าละเมาะที่เคยพบเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้งทำให้รอยแยกกว้างและลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และอาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า ได้ร่วมกันประเมินผลเหตุแผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งถนนและสะพานของ ทล. ทช. ได้รับความเสียหาย โดยได้มอบหมายให้ ทล.และ ทช. ศึกษาทบทวนมาตรฐานการออกแบบก่อสร้าง โดยเฉพาะค่ามาตรฐานเพื่อรองรับแผ่นดินไหวให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน เพื่อให้ครอบคลุมกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงจัดทำแผนเผชิญเหตุ (Risk Map) ในพื้นที่เสี่ยงภาคเหนือและภาคตะวันตกให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ขณะที่ กทพ. ที่รับผิดชอบการก่อสร้างทางด่วน จะต้องทบทวนเช่นกันเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดแผ่นดินไหว
"นอกจากทบทวนการออกแบบใหม่แล้ว ทั้ง ทล. และ ทช. จะต้องจัดทำแผนเผชิญเหตุในเส้นทางภาคเหนือและตะวันตก ซึ่งมี 22 จังหวัดที่มีความเสี่ยง ตามประกาศกระทรวงของกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยในแต่ละจุดมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ต้องสำรวจแบบละเอียด บางจุดมีปัญหาคันทางเสี่ยงสไลด์ เวลาเกิดเหตจะได้สำรวจจุดที่มีความเสี่ยวก่อน"นายชัชชาติกล่าว
