วันนี้ครบ 193 วันของการเคลื่อนไหวขับไล่ทรชนให้พ้นจากการกุมอำนาจรัฐครั้งล่าสุด ระยะเวลา 193 วันนี้ตรงกันพอดีกับจำนวนวันที่ พธม. ยึดทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 2551 พธม. เป็นผู้เริ่มขับเคลื่อนกระบวนการเคลื่อนไหวขับไล่ทรชน กระบวนการยืดเยื้อมาหลายปีและล่าสุดมี กปปส.รับคทามาดำเนินการต่อก็เพราะความหน้าด้านและความเลวทรามเกินมนุษย์ของพวกทรชน ทันทีที่เลขาธิการ กปปส.ประกาศว่าจะเข้าไปใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นศูนย์บัญชาการในวันครบ 193 วันนี้ ก็เริ่มมีระเบิดเอ็ม 79 โปรยลงสู่เวทีของผู้เคลื่อนไหว คนยิงจะเป็นใครไม่เป็นที่ประจักษ์ ถ้าจะให้เดาก็คงต้องเหมาเอาว่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ยิง พธม. เมื่อ 6 ปีก่อนอันเป็นการส่งสัญญาณของการเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์อย่างชัดแจ้งอีกครั้ง ส่วนจะมีกลุ่มที่กุมอำนาจรัฐสนับสนุนด้วยหรือไม่ยากที่จะจับมือใครดม
คงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ตามประกาศของเลขาฯ กปปส.การเคลื่อนไหวขั้นสุดท้ายเพื่อขับไล่ทรชนให้พ้นจากการกุมอำนาจรัฐเริ่มเมื่อวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวจะนำไปสู่ขั้นแตกหักในวันที่ 13-14 พฤษภาคมที่จะมาถึงหากรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมเหลืออยู่อีกแล้วยังพยายามครองอำนาจต่อไป อาจคาดได้ว่า กระบวนที่จะนำไปสู่ขั้นแตกหักจะมีการสูญเสียเลือดเนื้ออย่างกว้างขวาง ทั้งนี้เพราะทรชนที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือได้แสดงออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าว่าพร้อมที่จะเข่นฆ่าประชาชนอย่างไร้มนุษยธรรมแม้ผู้ที่ต่อต้านจะใช้กระบวนการสันติอหิงสาตามครรลองของรัฐธรรมนูญก็ตาม
พวกทรชนแสดงความถ่อยเถื่อนออกมาให้เห็นทันทีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม เมื่อการเคลื่อนไหวขั้นสุดท้ายเริ่มขึ้นโดยการยิงแก๊สน้ำตาผสมสารเคมีเข้าใส่ผู้ที่ไปรวมตัวกันที่หน้า ศอ.รส.ผู้เคลื่อนไหวหลายคนบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งพระสงฆ์องค์หนึ่งซึ่งเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวด้วย (ภาพ)
ในแถลงการณ์เมื่อบ่ายวันที่ 10 พฤษภาคม เลขาฯ กปปส.แจ้งว่าได้ส่งสารถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเพื่อขอความกรุณาให้ท่านทำงานล่วงเวลาต่อไปในอีก 2-3 วันข้างหน้าเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาทางตันของบ้านเมือง ผู้ใหญ่ได้แก่ตุลาการในศาลสูงสุดต่างๆ รวมทั้งศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองสูงสุด ประธาน กกต. และประธานวุฒิสภา ให้ท่านปรึกษาหารือกันเพื่อผ่าทางตันของชาติ พร้อมกันนั้นก็เปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีในรัฐบาลที่หมดความชอบธรรมแล้วในขณะนี้เข้ามาร่วมให้คำปรึกษาด้วย
เป็นที่ทราบกันดีว่า การเรียกร้อง หรือขอความกรุณาจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาทางตันของบ้านเมืองเริ่มมีมานานก่อนแถลงการณ์เมื่อวานนี้ แต่เท่าที่ผ่านมา ไม่มีท่าทีอะไรที่จะทำให่มั่นใจได้ว่าท่านเหล่านั้นจะรู้ร้อนรู้หนาวจนขยับเขยื้อนให้เห็นแบบเป็นที่ประจักษ์ หากท่าทีดังกล่าวนี้ดำเนินต่อไปอีกไม่กี่วัน เหตุการณ์เกินการควบคุมได้จะบานปลายไปสู่การนองเลือดอย่างแน่นอน ทั้งนี้เพราะ กปปส.จะเริ่มปฏิบัติการขั้นแตกหักหลังวันวิสาขบูชาในวันอังคารที่จะมาถึง
กปปส.มีแผนอย่างไรไม่เป็นที่ประจักษ์ แต่ถ้าจะให้เดา พวกเขาคงเริ่มโดยการเข้ายึดสถานที่ราชการสำคัญๆ และสถานีโทรทัศน์ทุกแห่ง บางแห่งคงเข้ายึดได้โดยไม่ต้องเสียเหงื่อ แต่บางแห่งซึ่งได้แสดงตนเป็นปฏิปักษ์อย่างแจ้งชัดจะต้องเสียเลือดเนื้อและอาจถึงชีวิตอย่างแน่นอน เช่น ที่ ศอ.รส. และช่อง 11 ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะสัญญาณแห่งการกระหายเลือดของฝ่ายผู้ใช้อำนาจรัฐได้แสดงออกมาอย่างแจ้งชัดแบบเสมอต้นเสมอปลายมาตั้งแต่วันเริ่มมีการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2548
การนองเลือดครั้งนี้จะไม่มีเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายอยู่แล้วร่วมกันผ่าทางตันของชาติตามที่เลขาฯ กปปส. ขอร้อง ท่านเหล่านั้นทราบดีว่ากฎหมายเขียนขึ้นมาด้วยมือคน มิใช่กฎธรรมชาติที่ไม่มีทางปรับเปลี่ยนได้ เราสามารถเปลี่ยนกฎหมาย หรือหยุดใช้กฎหมายบางส่วนได้ในภาวะที่เหมาะสม ส่วนการกระทำเช่นนั้นจะมีส่วนประกอบและขั้นตอนอย่างไรที่จะไม่ต้องใช้การฉีกรัฐธรรมนูญเช่นการใช้รัฐประหารที่ผ่านๆ มานับสิบครั้งพวกท่านย่อมทราบดี
ฉะนั้น ถ้าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ทำก็หมายความว่าพวกท่านเต็มใจที่จะให้ทรชนคนไทยที่ใช้อำนาจรัฐแบบป่าเถื่อนฆ่าคนไทยที่ใช้วิธีสันติอหิงสาต่อต้านการทำลายชาติไทยของพวกเขา การนองเลือดครั้งนี้หากมีเกิดขึ้นจึงเท่ากับว่า มือของท่านผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเปื้อนเลือดด้วย ท่านจะให้ลูกหลานตราหน้าท่านว่าเป็นคนมือเปื้อนเลือดหรือ?
คงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ตามประกาศของเลขาฯ กปปส.การเคลื่อนไหวขั้นสุดท้ายเพื่อขับไล่ทรชนให้พ้นจากการกุมอำนาจรัฐเริ่มเมื่อวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวจะนำไปสู่ขั้นแตกหักในวันที่ 13-14 พฤษภาคมที่จะมาถึงหากรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมเหลืออยู่อีกแล้วยังพยายามครองอำนาจต่อไป อาจคาดได้ว่า กระบวนที่จะนำไปสู่ขั้นแตกหักจะมีการสูญเสียเลือดเนื้ออย่างกว้างขวาง ทั้งนี้เพราะทรชนที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือได้แสดงออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าว่าพร้อมที่จะเข่นฆ่าประชาชนอย่างไร้มนุษยธรรมแม้ผู้ที่ต่อต้านจะใช้กระบวนการสันติอหิงสาตามครรลองของรัฐธรรมนูญก็ตาม
พวกทรชนแสดงความถ่อยเถื่อนออกมาให้เห็นทันทีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม เมื่อการเคลื่อนไหวขั้นสุดท้ายเริ่มขึ้นโดยการยิงแก๊สน้ำตาผสมสารเคมีเข้าใส่ผู้ที่ไปรวมตัวกันที่หน้า ศอ.รส.ผู้เคลื่อนไหวหลายคนบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งพระสงฆ์องค์หนึ่งซึ่งเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวด้วย (ภาพ)
ในแถลงการณ์เมื่อบ่ายวันที่ 10 พฤษภาคม เลขาฯ กปปส.แจ้งว่าได้ส่งสารถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเพื่อขอความกรุณาให้ท่านทำงานล่วงเวลาต่อไปในอีก 2-3 วันข้างหน้าเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาทางตันของบ้านเมือง ผู้ใหญ่ได้แก่ตุลาการในศาลสูงสุดต่างๆ รวมทั้งศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองสูงสุด ประธาน กกต. และประธานวุฒิสภา ให้ท่านปรึกษาหารือกันเพื่อผ่าทางตันของชาติ พร้อมกันนั้นก็เปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีในรัฐบาลที่หมดความชอบธรรมแล้วในขณะนี้เข้ามาร่วมให้คำปรึกษาด้วย
เป็นที่ทราบกันดีว่า การเรียกร้อง หรือขอความกรุณาจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาทางตันของบ้านเมืองเริ่มมีมานานก่อนแถลงการณ์เมื่อวานนี้ แต่เท่าที่ผ่านมา ไม่มีท่าทีอะไรที่จะทำให่มั่นใจได้ว่าท่านเหล่านั้นจะรู้ร้อนรู้หนาวจนขยับเขยื้อนให้เห็นแบบเป็นที่ประจักษ์ หากท่าทีดังกล่าวนี้ดำเนินต่อไปอีกไม่กี่วัน เหตุการณ์เกินการควบคุมได้จะบานปลายไปสู่การนองเลือดอย่างแน่นอน ทั้งนี้เพราะ กปปส.จะเริ่มปฏิบัติการขั้นแตกหักหลังวันวิสาขบูชาในวันอังคารที่จะมาถึง
กปปส.มีแผนอย่างไรไม่เป็นที่ประจักษ์ แต่ถ้าจะให้เดา พวกเขาคงเริ่มโดยการเข้ายึดสถานที่ราชการสำคัญๆ และสถานีโทรทัศน์ทุกแห่ง บางแห่งคงเข้ายึดได้โดยไม่ต้องเสียเหงื่อ แต่บางแห่งซึ่งได้แสดงตนเป็นปฏิปักษ์อย่างแจ้งชัดจะต้องเสียเลือดเนื้อและอาจถึงชีวิตอย่างแน่นอน เช่น ที่ ศอ.รส. และช่อง 11 ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะสัญญาณแห่งการกระหายเลือดของฝ่ายผู้ใช้อำนาจรัฐได้แสดงออกมาอย่างแจ้งชัดแบบเสมอต้นเสมอปลายมาตั้งแต่วันเริ่มมีการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2548
การนองเลือดครั้งนี้จะไม่มีเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายอยู่แล้วร่วมกันผ่าทางตันของชาติตามที่เลขาฯ กปปส. ขอร้อง ท่านเหล่านั้นทราบดีว่ากฎหมายเขียนขึ้นมาด้วยมือคน มิใช่กฎธรรมชาติที่ไม่มีทางปรับเปลี่ยนได้ เราสามารถเปลี่ยนกฎหมาย หรือหยุดใช้กฎหมายบางส่วนได้ในภาวะที่เหมาะสม ส่วนการกระทำเช่นนั้นจะมีส่วนประกอบและขั้นตอนอย่างไรที่จะไม่ต้องใช้การฉีกรัฐธรรมนูญเช่นการใช้รัฐประหารที่ผ่านๆ มานับสิบครั้งพวกท่านย่อมทราบดี
ฉะนั้น ถ้าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ทำก็หมายความว่าพวกท่านเต็มใจที่จะให้ทรชนคนไทยที่ใช้อำนาจรัฐแบบป่าเถื่อนฆ่าคนไทยที่ใช้วิธีสันติอหิงสาต่อต้านการทำลายชาติไทยของพวกเขา การนองเลือดครั้งนี้หากมีเกิดขึ้นจึงเท่ากับว่า มือของท่านผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเปื้อนเลือดด้วย ท่านจะให้ลูกหลานตราหน้าท่านว่าเป็นคนมือเปื้อนเลือดหรือ?