แม่นางผู้สร้างประวัติศาสตร์

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

นางซั่มเจ้าแม่ยั่วเมืองต้องสิ้นอำนาจการเป็นผู้นำกำมะลอ หลังจากถูกเชิดให้อยู่ในตำแหน่งนาน 2 ปี 9 เดือน สร้างความวิบัติทั้งทางตรง ทางอ้อม ทุกข์เข็ญให้ชาวบ้านทั้งแผ่นดิน สร้างความหวาดผวาว่าแม่นางจะอยู่ยาวนานชั่วกัปกัลป์

แม่นางมาครองอำนาจการเมืองพร้อมกับน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศ แบบไม่ปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ไทยในหลายร้อยปี บริหารงานใช้ความแย้มยิ้มเยิ้มสร้างความตื่นตะลึงให้ผู้นำหลายประเทศ มีผู้ทรงอำนาจโชคดีเพียงรายเดียวคือ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียซึ่งบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลีกได้สำเร็จ

ทำให้แม่นางไม่สามารถอ้างได้เต็มปากว่าได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ เดินแอ่นระแน้ เด้งหน้าเด้งหลัง สลับกับการก้าวย่างสามขุมตรวจแถวกองเกียรติยศ เว้นแต่พลาดการเยือนประเทศสหรัฐอย่างเป็นทางการแม้จะได้พยายามเต็มที่

การได้พบปะกับผู้นำสหรัฐ บารัค โอบามาในกรุงเทพ ก็มีภาพชุดให้โลกตะลึง เมื่อแม่นางแย้มยิ้มหยาดเยิ้มเชิญชวนอย่างยิ่งในฐานะเจ้าภาพงานเลี้ยง

ผู้นำประเทศอื่นล้วนเป็นเหยื่อถ่ายรูปคู่กับแม่นางทั้งสิ้น ภาพเหล่านั้นคงประดับคฤหาสน์หลังใหญ่ของแม่นาง แต่จะได้อยู่ชื่นชมหลังจากตกเก้าอี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของคดีอาญาที่แม่นางต้องเผชิญเป็นวิบากกรรม

ถ้าจำเป็นต้องไปอยู่ต่างประเทศ แม่นางจะหอบหิ้วไปด้วยพร้อมกับทรัพย์สินอื่นๆ ก่อนหน้านี้หรือไม่ ชาวบ้านคงต้องรอดู เท่าที่แม่นางรับกับสภาพการสูญเสียตำแหน่งผู้นำ กลายเป็นสาวใหญ่ธรรมดา ไม่วีนแตก ถือว่าแน่มาก

ความเยือกเย็น อึดทนต่อความรู้สึกด้านลบกว่า 2 ปี ทำให้แม่นางรับกับแรงกดดันได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นคนหน้าบาง แม่นางคงแขวนคอ หรือฆ่าตัวตายแบบอื่นไปก่อนชาวนาหนีทุกข์ หลังจากถูกรัฐบาลโกงในโครงการรับจำนำข้าว

กว่าแม่นางจะจนมุม โดนเด้งโดยศาลรัฐธรรมนูญ ทำเอาชาวบ้านบางส่วนรู้สึกท้อแท้ นึกว่าไม่มีหนทางทำให้นางสิ้นอำนาจซะแล้ว แม้แต่กำนันสุเทพและมวลชนพลังนกหวีดได้ชุมนุมยืดเยื้อนานกว่า 6 เดือน ก็ยังจัดการกับแม่นางยั่วเมืองไม่ได้ ชาวบ้านตายไปกว่า 20 ราย บาดเจ็บกว่า 700 คน

นับว่าแม่นางยั่วเมืองไม่ธรรมดาจริงๆ ทำเอาบักเหลี่ยมคนหนีคุกต้องประเมินตัวเองใหม่ว่า ถ้านางไม่เสียท่าให้ศาลรัฐธรรมนูญ อาจอยู่ครบเทอม และต่ออีกสมัยก็เป็นได้ เพราะมีขี้ข้า บริวารเสริมฐานอำนาจให้นางแน่นปั๋ง

แม่นางได้สร้างอาณาจักรของตัวเองได้น่าเกรงขาม ท่ามกลางเสียงเยาะเย้ยไยไพว่านางไม่ฉลาด ออกแนวโง่งมด้วยซ้ำ ถ้าแม่นางมีสติปัญญาเฉียบคมกว่าที่เป็นอยู่ รับรองแม่นางได้ครองอำนาจ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้โลก

ทฤษฎีรัฐศาสตร์การปกครองต้องมีบทใหม่ นับเป็นผู้นำรัฐคนแรกที่ใช้ความอ่อนด้อยปัญญา ความรู้ ความสามารถ เป็นแนวทางนำร่อง มีขี้ข้า บริวาร ผู้รับฟังคำสั่งเป็นนายพลเอก ดอกเตอร์ นักกฎหมาย นักวิชาการ ฯลฯ

เกิดปรากฎการณ์แข่งกับ “ลัทธิบูชาส้นตีนแดง” ของมวลชนเสื้อแดง นั่นคือ “ลัทธินิยมบูชายกย่องคนโง่ให้เป็นผู้นำสูงสุด” ไม่มีอาย ตะขิดตะขวงใจ มีแต่พวกบริวารแข่งกันเอาอกเอาใจ เลียแข้งเลียขาไม่กลัวต้องอายหมาขี้เรื้อน

แม่นางมาพร้อมกับโกหกคำโตเป็นแนวนโยบายขายฝัน ประชานิยมของฟรีสะสมหนี้สินให้ยาวนานถึงรุ่นลูกหลาน พวกหน้าโง่งมงายยังฟูมฟาย หลังเชื่อ หลงใหลนางอย่างหัวปักหัวปำ ประกาศพร้อมสู้ตายให้แม่นางทรงอำนาจ

แม่นางได้สร้างประวัติศาสตร์ให้เห็นสภาพ “คนฉลาดเป็นเหยื่อคนโง่” และยอมให้ถูกตราหน้าว่ายอมให้ถูกประณามเพื่อแลกกับเงิน ลาภยศ ตำแหน่ง ลืมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิ้นคิด แม้จมอยู่ในกองทุกข์สาหัส

ก่อนแม่นางสิ้นอำนาจ แม้จะเดาทางได้ล่วงหน้า ก็ได้สร้างปรากฏการณ์วิบัติภัยธรรมชาติ เกิดแผ่นดินไหวในภาคเหนือ มีศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ความรุนแรง 6.3 ริคเตอร์ รุนแรงที่สุดครั้งแรกในรอบ 100 ปี

แม่นางมากับน้ำท่วมใหญ่ ไปพร้อมกับแผ่นดินไหว สร้างความเสียหาย อาคารบ้านเรือน วัด เจดีย์ สิ่งปลูกสร้างเสียหายมากในภาคเหนือ ถ้าจะว่าเหตุการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นอาเพศ วิปริต หรือ “ขึด” ร้ายแรง ก็คงไม่ผิด

แต่ความวิบัติที่แม่นางและบริวารได้สร้างให้บ้านเมืองอยู่นอกเหนือการประเมิน เพียงแค่โครงการรับจำนำข้าวก็เสียหายกว่า 4 แสนล้านบาท ยังมีการโกงกินทุกรูปแบบในเงินงบประมาณ เงินกู้ การเล็งหวังผล เป็นจำนวนมหาศาล

แม่นางไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบ ซ้ำร้าย แม่นางบอกว่านางไม่ได้ทำอะไรผิดเลย และยังเสนอหน้าอีกว่าพร้อมจะกลับมาอีก ถ้ามีโอกาสทำงานเพื่อชาติ

บักเหลี่ยม คนหนีคุกกล่าวผ่านทนายขี้ข้าว่าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีแม่นางไม่ชอบด้วยกฎหมาย นี่ก็ไม่น่าประหลาดใจ เพราะคนในตระกูลชั่วช้าสามานย์มักเชื่อมั่นเสมอว่าโคตรเหง้าเหล่ากอทำอะไร ต้องไม่ผิดกฎหมาย

อยากจะว่าอะไรก็ต้องปล่อยให้ว่า ความเป็นจริงก็คือ บักเหลี่ยมยังเป็นคนไร้แผ่นดิน มีเงินหลายแสนล้านก็ยังมีความสุขน้อยกว่าขอทานเขมรในไทย

ยิ่งกว่านั้น อีกไม่นาน ทั้งแม่นาง เครือญาติที่หย่าขาดแล้ว หรือยังไม่หย่าขาด พร้อมขี้ข้าบริวาร คงต้องหนีคุกอพยพไปอาศัยอยู่บนแผ่นดินอื่น เพราะแผ่นดินไทยจะถูกปรับสภาพให้ไม่พร้อมรับคนชั่วให้อยู่ร่วมกับคนดี

นั่นต้องขึ้นอยู่กับจำนวนมวลมหาประชาชนที่จะต้องออกมาสร้างประวัติศาสตร์อีกรอบ เพื่อการปฏิวัติให้สำเร็จในภารกิจล้างแผ่นดิน