xs
xsm
sm
md
lg

ต้นทุนพุ่ง!ก่อสร้างหด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เผยไตรมาสแรกคอนโดเปิดตัวใหม่ลด ส่งผลงานก่อสร้างคอนโดหดตัว20% จากปีก่อนหน้า หวั่นปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน หลังเงินเฟ้อปรับตัว ต้นทุนก่อสร้าง ราคาวัสดุฯ ค่าแรงพุ่ง ระบุแรงงานเริ่มล้น หลังโปรเจ็กต์2.2ล้านล้านบาทล้ม “พรีบิลท์”ยันงานก่อสร้างหดไม่กระทบเหตุ backlog ในมือเพียบ แถมรับงานเพิ่มต่อเนื่อง มั่นใจปี 57รายได้รับรู้ตามเป้า 6,800ล้านบาท ด้าน”บิลท์แลนด์” ตอบกระแสแผ่นดินไหว ดึง”มิยาโมโต้”นั่งที่ปรึกษาปรับแบบก่อสร้าง “เทมโป้ แกรนด์ สาทร-วุฒากาศ” ต้านแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ ยันไม่ปรับราคาแม้ต้นทุนก่อสร้างพุ่ง10%

นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จำกัด(มหาชน) หรือ PREB กล่าวถึงภาพรวมตลาดก่อสร้างในไตรมาสแรกที่ผ่านมาว่า มีอัตราการหดตัวของงานก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมในตลาดค่อนข้างมาก โดยลดลงจากปีที่แล้วกว่า 20% ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดการหั่นราคาแย่งงานของผู้รับเหมาก่อสร้างได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วมองว่าอาจจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากขณะนี้ การปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อ และต้นทุนก่อสร้าง รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนก่อสร้างปรับตัวสูงมากแล้ว ทำให้การแข่งขันราคาแย่งงานเกิดขึ้นได้ยาก

“ตรงกันข้ามปัญหาที่น่ากังวล คือ ปัญหาการทิ้งงานของผู้รับเหมาฯ ที่เกิดจากการแบกต้นทุนแรงงานและภาระเงินเฟ้อ รวมถึงต้นทุนก่อสร้างที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทที่มีสภาพคล่องทางการเงินต่ำ ขาดเงินหมุนเวียนในการดำเนินงานอาจจะส่งผลให้เกิดการทิ้งงานก่อสร้างได้”

นอกจากนี้ การมีแรงงานก่อสร้างในมือจำนวนมาก ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อสภาพคล่องของผู้รับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากในช่วงก่อหน้านั่น หลายบริษัทต่างพยายามแข่งแย่งแรงงานและครอบครองแรงงานไว้ในมือจำนวนมาก เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ขณะเดียวกันก็เป็นการเตรียมความพร้อมในการรับงานใหม่ ซึ่งจะเกิดขึ้นจำนวนมากในปี2557นี้ จากโครงการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน ตามแผนเมกะโปรเจกต์ 2.2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล แต่หลังจากโครงการดังกล่าวถูกล้มไป ทำให้ปัญหาแรงงานขาดแคลนในขณะนี้ กลับกลายเป็นปัญหาแรงงานล้น เนื่องจากไม่มีงานก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนเกิดขึ้นตามที่มีการประมาณการไว้

นายวิโจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ และ บิลท์แลนด์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับปัญหางานก่อสร้างที่หดตัวขณะนี้ ไม่กระทบการดำเนินงาน และรายได้ของบริษัท เนื่องจากบริษัทยังมียอดขาย( backlog ) สะสม และมีการรับงานก่อสร้างเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 57 บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 6,800 ล้านบาท ขยายตัวจากปี 56 ซึ่งมีรายได้รับรู้ที่ 5,000ล้านบาท 20% โดยการขยายตัวจะมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดย ณ ปลายปี56ที่ผ่านมา มีมูลค่างานคงค้างในมือ (backlog) สูงถึง 9,000 ล้านบาทเศษ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในนี้ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัททยอยรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างโครงการแล้ว 1,100 -1,200 ล้านบาท และคาดว่าในไตรมาสที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้เพิ่มอีก 4,000-5,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันเพื่อรักษาระดับ backlog ในมือไว้ที่ 9,000 ล้านบาทเศษ ตามแผนเดิม บริษัทได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างเข้ามาใหม่เพิ่มในปีนี้อีกประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาทเช่นกัน โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างใหม่เข้ามาแล้ว 1,300 ล้านบาท เป็นงานก่อสร้างอาคารพักอาศัยสูง12-13ชั้นของวัดพระธรรมกาย และในไตรมาสที่ 3-4นี้จะมีการเซ็นสัญญารับงานก่อสร้างเพิ่มอีกประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทรักษาระดับ backlog งานในมือต่อปีที่ 9,000ล้านบาทเศษต่อปีตามแผน

นายวิโจน์ กล่าวว่า บริษัทได้ปรับแบบงานก่อสร้างโครงการ เทมโป แกรนด์ สาทร – วุฒากาศ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาทใหม่ เนื่องจากบริษัทเห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยในอนาคตของผู้อยู่อาศัยในโครงการ โดยได้เชิญ บริษัท ที่ปรึกษาการออกแบบโครงการต้านแผนดินไหว “มิยาโมโต” ซึ่งได้รับความเชื่อถือและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการออกแบบระบบป้องกันแผนดินไหวในประเทศญี่ปุ่นเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบและแก้ไขแบบก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งภายหลังการปรับแบบก่อสร้างโครงการแล้วจะทำให้โครงการ เทมโป แกรนด์ สาทร -วุฒากาศ สามารถต้านรับการสั่นไหวในกรณีที่เกิดปัญหาแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์

โดยปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้ปรับแก้แบบก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยและผ่านกระบวนการ EIA แล้ว ซึ่งจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในทันที ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 2ปีจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้หลังจากปรับแบบงานก่อสร้างโครงการแล้ว ส่งผลให้มีการลดและเพิ่มความสูงของอาคารในโครงการทั้ง2อาคารใหม่ โดยในส่วนของอาคารเอ ซึ่งเดิมสูง41ชั้นจะปรับลดจำนวนยูนิต เหลือ 24 ชั้น ขณะที่อาคารบีได้มีการปรับเพิ่มจำนวนยูนิต และเพิ่มชั้นจากเดิมเป็น32 ชั้น ซึ่งส่งผลให้จำนวนยูนิตในโครงการรวมลดลงจากเดิม 1,068 ยูนิต เหลือ 1,004 ยูนิต

อย่างไรก็ตามในการปรับแบบและเสริมระบบป้องกันแผนดินไหวในครั้งนี้ ทำให้ต้นทุนงานก่อสร้างโครงการ เทมโป แกรนด์สาทร-วุฒากาศ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก105 ของมูลค่างานก่อสร้างโครงสร้างอาคาร หรือ มีต้นทุนงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น500บาทต่อตารางเมตร สำหรับลูกค้าที่จองซื้อห้องชุดในชั้นที่สูงกว่า 24 ของอาคารเอ หลังจากที่มีการปรับแบบแล้วบริษัทได้มีการแจ้งให้ทราบและให้สิทธิ์พิเศษสามารถจองซื้อห้องชุดใหม่ได้ในราคาเดิม.
กำลังโหลดความคิดเห็น