ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-ตำรวจได้ภาพผู้ต้องสงสัยวางระเบิดหาดใหญ่ทั้ง 2 จุดแล้วรวม 4 คน ตั้งค่าหัวคนละ 1 แสนบาท ผบ.ตร. สั่งตั้งศูนย์บริหารจัดการคดีและจับกุมคนร้ายโดยเร็วที่สุด เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มเดียวกับที่วางระเบิด 3 จุดที่สะเดา ชี้รถคันก่อเหตุ คนร้ายขับเข้ามาจอด ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ลากมา ส่วนที่ปัตตานี คนร้ายยิงครูเสียชีวิตอีก 1 ขณะกำลังลงจากรถยนต์เก๋งเพื่อจะซื้อของในตลาดนัด
วานนี้ (7 พ.ค.) พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ได้ลงพื้นที่ประชุมและติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิด 2 จุดใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ สภ.หาดใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เผยภาพผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายก่อเหตุวางระเบิดทั้ง 2 จุดแล้ว มีทั้งหมด 4 คน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ พบว่าจุดเกิดเหตุระเบิดที่ สภ.หาดใหญ่ คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะวีโก้ สีบรอนซ์ ที่ประกอบระเบิดเข้าไปจอดในลานจอดรถเวลา 13.04 น.
ก่อนที่คนร้าย ซึ่งสวมเสื้อสีน้ำเงิน สวมหมวกแก๊ปจะเดินออกมา และมีคนร้ายอีกคน สวมเสื้อสีเหลืองสวมหมวกกันน็อก ขับรถจักรยานยนต์สีขาวมารับออกไป จากนั้นจึงเกิดขึ้นระเบิดขึ้นในเวลา 13.45 น. ห่างจากช่วงเวลาที่รถมาจอด 50 นาที ซึ่งตำรวจยืนยันว่าเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ คนร้ายขับรถเข้ามาจอด ไม่ใช่ตามกระแสข่าวที่ออกมาระบุว่าเป็นรถที่ตำรวจตรวจพบ และนำเข้ามาจอดเก็บไว้
ส่วนจุดที่ 2 คนร้ายลงมือในลักษณะเดียวกัน โดยในเวลา 12.50 น. คนร้ายซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าขับรถจักรยานยนต์คาร์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน 125 มาจอดไว้ที่หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และมีคนร้ายอีกคนขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้ามารับออกไป
พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สงขลา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ตั้งรางวัลนำจับคนร้ายทั้ง 4 คนๆ ละ 1 แสนบาท รวม 4 แสนบาท ให้แก่ผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมได้ โดยแจ้งเบาะแสได้ที่หมายเลข 08-1979-3838 และ 08-6955-9999 โดยเหตุระเบิด 2 จุดที่ อ.หาดใหญ่ในครั้งนี้ เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุระเบิด 3 จุดที่ อ.สะเดา เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว 2 ราย จับกุมได้แล้ว 1 ราย คือ นายอับดุลเลาะ เด็ง
**ผบ.ตร.ลงพื้นที่หาดใหญ่ตามคดีวันนี้
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะลงพื้นที่ติดตามคดีในวันนี้ (8 พ.ค.) พร้อมกับสั่งการให้มีการตั้งศูนย์บริหารจัดการคดี และเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายในคดีนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด รวมทั้งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่อำเภอหาดใหญ่ทั้ง 2 จุด เจ้าหน้าชุดเยียวยาอำเภอหาดใหญ่ ได้ลงพื้นที่ออกสำรวจความเสียหายเพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่หน้าร้านเซเว่นฯ ได้ลงชื่อรับการเยียวยาช่วยเหลือ ทั้งในส่วนของบ้านเรือนและทรัพย์สินที่เสียหายจากเหตุระเบิด และยังได้ตั้งศูนย์การช่วยเหลือไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ อีก 1 จุด เพื่อให้ตำรวจที่ได้รับผลกระทบลงชื่อขอรับการช่วยเหลือ ซึ่งทางศูนย์เยียวยาจังหวัดสงขลา จะให้การช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
**พบหลักฐานสำคัญจุดที่เกิดเหตุเพียบ
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร พนักงานสอบสวน (สบ 4) กล่าวว่า จากการเข้าเก็บหลักฐานในจุดที่เหตุทั้ง 2 จุด ทั้งที่หน้าร้านเซเว่นฯ สาขาถนนพลพิชัย และที่ สภ.หาดใหญ่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้รวบรวมหลักฐานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุระเบิดทั้ง 2 จุด พบหลักฐานสำคัญหลายอย่าง ทั้งชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ ชิ้นส่วนระเบิดทั้งแบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ แผ่นวงจร ซิมการ์ดมินิของเอไอเอส รวมทั้งโลหะชิ้นส่วนเหล็กที่เป็นสะเก็ดระเบิด โลหะชิ้นส่วนหุ้มระเบิด สายไฟเสียบแบตเตอรี่ เศษชิ้นส่วนภาชนะบรรจุระเบิดถังแก๊ส ชิ้นส่วนป้ายทะเบียนรถยนต์ ผค 2703 ซึ่งทำขึ้นเอง 1 แผ่น มือจับประตูรถยนต์ด้านคนขับ โดยได้แยกส่งไปตรวจพิสูจน์ทั้งที่ศูนย์ข้อมูลระเบิดจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 รวมทั้งตรวจดีเอ็นเอจากร่องรอยของหลักฐานที่เก็บได้ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเชื่อมโยงหาเบาะแสคนร้าย
ส่วนรถกระบะต้องสงสัยสีน้ำเงินที่ขับเข้าออก สภ.หาดใหญ่ ในช่วงเกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ได้ติดตามเจ้าของมาสอบสวนแล้วพบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดแต่อย่างใด
**โรงพักหาดใหญ่ให้บริการตามปกติ
ส่วนบรรยากาศที่ สภ.หาดใหญ่ แม้จะได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดกระจกหน้าต่างแตก แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ และทำงานท่ามกลางเศษซากความเสียหายและยังคงมีกำลังใจที่ดี โดยได้เร่งทำความสะอาด และเคลียร์พื้นที่ ส่วนจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถนั้น ยังกันเป็นพื้นที่หวงห้าม เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับรถยนต์คาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ จากการตรวจสอบพบว่า เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผต 81 สงขลา ที่ถูกปล้นมาจากหน้าร้านสุกรี หมู่ 1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ได้ตรวจยึดไว้ หลังจากที่นำมาจอดไว้ในเมืองหาดใหญ่ และตรวจสอบพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอมจึงลากมาเก็บไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ เมื่อ 3 วันก่อน กระทั่งเกิดเหตุระเบิดขึ้น
ส่วนเบาะแสของคนร้าย พล.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ได้เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนทั้งของภาค 9 ภูธรจังหวัดสงขลา และของ สภ.หาดใหญ่ เพื่อเร่งแกะรอยหาเบาะแสของคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายขับรถทั้ง 2 คันมาจอดไว้
**ตรวจเข้มรถ-บุคคลเป้าหมายป่วนใต้
พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติงานตามจุดตรวจเส้นทางสายหลักและสายรองในพื้นที่ จ.ปัตตานี พร้อมกำชับให้เพิ่มความเข้มตรวจตรารถและบุคคลเป้าหมายที่สัญจรไปมา เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำหลังพบรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ เป็นรถที่โจรกรรมไปจากพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และยังเป็นรถ 1 ใน 9 คันที่ทางศูนย์เฝ้าระวังป้องกันการโจรกรรมรถจังหวัดปัตตานี ได้มีการทำโปสเตอร์ออกแจกจ่ายแจ้งเตือนเป็นรถยนต์ต้องสงสัยนำไปประกอบเป็นรถระเบิดคาร์บอมบ์ ทั้งนี้ ยังได้มีการปรับแผนมาตรการให้ทุกจุดตรวจจุดสกัดเพิ่มความเข้มในการตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการจำกัดพื้นที่และป้องกันกลุ่มก่อเหตุรุนแรงเคลื่อนย้ายนำรถแจ้งเตือนที่เหลืออีก 8 คัน ออกมาก่อเหตุซ้ำซ้อนด้วย
"ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบหลังพบรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ เป็นรถที่โจรกรรมไปจากพื้นที่ อ.สายบุรี โดยขั้นต้นได้มีคำสั่งให้ สภ.สายบุรี เร่งรวบรวมหลักฐานด้านคดีที่เกี่ยวข้องกับรถทั้งหมดให้กับชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนและติดตามหากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ" พล.ต.ต.โพธ กล่าว
**ยิงครูปัตตานีดับอีก 1 กลางตลาดนัด
เวลา 11.00 น.วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณตลาดนัดปาลัวริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ม.6 ต.ควน นำกำลังไปที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นางไพรัตน์ จิตเสน อายุ 50 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนบ้านดูวา อ.ปานาเระ สภาพศพถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม.เข้าลำตัวหลายนัด ใกล้กันพบรถเก๋งของผู้ตาย ทะเบียน กก 8963 ภูเก็ต และพบปลอกกระสุนจำนวน 9 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่ผู้ตายขับรถออกจากบ้านพักเพื่อมาซื้อกล้วยแขก แต่ระหว่างที่กำลังลงจากรถได้มีคนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงทันที ต่อหน้าประชาชนจำนวนมากจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่สร้างสถานการณ์
วานนี้ (7 พ.ค.) พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ได้ลงพื้นที่ประชุมและติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิด 2 จุดใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ สภ.หาดใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เผยภาพผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายก่อเหตุวางระเบิดทั้ง 2 จุดแล้ว มีทั้งหมด 4 คน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ พบว่าจุดเกิดเหตุระเบิดที่ สภ.หาดใหญ่ คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะวีโก้ สีบรอนซ์ ที่ประกอบระเบิดเข้าไปจอดในลานจอดรถเวลา 13.04 น.
ก่อนที่คนร้าย ซึ่งสวมเสื้อสีน้ำเงิน สวมหมวกแก๊ปจะเดินออกมา และมีคนร้ายอีกคน สวมเสื้อสีเหลืองสวมหมวกกันน็อก ขับรถจักรยานยนต์สีขาวมารับออกไป จากนั้นจึงเกิดขึ้นระเบิดขึ้นในเวลา 13.45 น. ห่างจากช่วงเวลาที่รถมาจอด 50 นาที ซึ่งตำรวจยืนยันว่าเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ คนร้ายขับรถเข้ามาจอด ไม่ใช่ตามกระแสข่าวที่ออกมาระบุว่าเป็นรถที่ตำรวจตรวจพบ และนำเข้ามาจอดเก็บไว้
ส่วนจุดที่ 2 คนร้ายลงมือในลักษณะเดียวกัน โดยในเวลา 12.50 น. คนร้ายซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าขับรถจักรยานยนต์คาร์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน 125 มาจอดไว้ที่หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และมีคนร้ายอีกคนขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้ามารับออกไป
พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สงขลา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ตั้งรางวัลนำจับคนร้ายทั้ง 4 คนๆ ละ 1 แสนบาท รวม 4 แสนบาท ให้แก่ผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมได้ โดยแจ้งเบาะแสได้ที่หมายเลข 08-1979-3838 และ 08-6955-9999 โดยเหตุระเบิด 2 จุดที่ อ.หาดใหญ่ในครั้งนี้ เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุระเบิด 3 จุดที่ อ.สะเดา เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว 2 ราย จับกุมได้แล้ว 1 ราย คือ นายอับดุลเลาะ เด็ง
**ผบ.ตร.ลงพื้นที่หาดใหญ่ตามคดีวันนี้
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะลงพื้นที่ติดตามคดีในวันนี้ (8 พ.ค.) พร้อมกับสั่งการให้มีการตั้งศูนย์บริหารจัดการคดี และเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายในคดีนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด รวมทั้งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่อำเภอหาดใหญ่ทั้ง 2 จุด เจ้าหน้าชุดเยียวยาอำเภอหาดใหญ่ ได้ลงพื้นที่ออกสำรวจความเสียหายเพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่หน้าร้านเซเว่นฯ ได้ลงชื่อรับการเยียวยาช่วยเหลือ ทั้งในส่วนของบ้านเรือนและทรัพย์สินที่เสียหายจากเหตุระเบิด และยังได้ตั้งศูนย์การช่วยเหลือไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ อีก 1 จุด เพื่อให้ตำรวจที่ได้รับผลกระทบลงชื่อขอรับการช่วยเหลือ ซึ่งทางศูนย์เยียวยาจังหวัดสงขลา จะให้การช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
**พบหลักฐานสำคัญจุดที่เกิดเหตุเพียบ
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร พนักงานสอบสวน (สบ 4) กล่าวว่า จากการเข้าเก็บหลักฐานในจุดที่เหตุทั้ง 2 จุด ทั้งที่หน้าร้านเซเว่นฯ สาขาถนนพลพิชัย และที่ สภ.หาดใหญ่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้รวบรวมหลักฐานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุระเบิดทั้ง 2 จุด พบหลักฐานสำคัญหลายอย่าง ทั้งชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ ชิ้นส่วนระเบิดทั้งแบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ แผ่นวงจร ซิมการ์ดมินิของเอไอเอส รวมทั้งโลหะชิ้นส่วนเหล็กที่เป็นสะเก็ดระเบิด โลหะชิ้นส่วนหุ้มระเบิด สายไฟเสียบแบตเตอรี่ เศษชิ้นส่วนภาชนะบรรจุระเบิดถังแก๊ส ชิ้นส่วนป้ายทะเบียนรถยนต์ ผค 2703 ซึ่งทำขึ้นเอง 1 แผ่น มือจับประตูรถยนต์ด้านคนขับ โดยได้แยกส่งไปตรวจพิสูจน์ทั้งที่ศูนย์ข้อมูลระเบิดจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 รวมทั้งตรวจดีเอ็นเอจากร่องรอยของหลักฐานที่เก็บได้ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเชื่อมโยงหาเบาะแสคนร้าย
ส่วนรถกระบะต้องสงสัยสีน้ำเงินที่ขับเข้าออก สภ.หาดใหญ่ ในช่วงเกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ได้ติดตามเจ้าของมาสอบสวนแล้วพบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดแต่อย่างใด
**โรงพักหาดใหญ่ให้บริการตามปกติ
ส่วนบรรยากาศที่ สภ.หาดใหญ่ แม้จะได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดกระจกหน้าต่างแตก แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ และทำงานท่ามกลางเศษซากความเสียหายและยังคงมีกำลังใจที่ดี โดยได้เร่งทำความสะอาด และเคลียร์พื้นที่ ส่วนจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถนั้น ยังกันเป็นพื้นที่หวงห้าม เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับรถยนต์คาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ จากการตรวจสอบพบว่า เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผต 81 สงขลา ที่ถูกปล้นมาจากหน้าร้านสุกรี หมู่ 1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ได้ตรวจยึดไว้ หลังจากที่นำมาจอดไว้ในเมืองหาดใหญ่ และตรวจสอบพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอมจึงลากมาเก็บไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ เมื่อ 3 วันก่อน กระทั่งเกิดเหตุระเบิดขึ้น
ส่วนเบาะแสของคนร้าย พล.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ได้เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนทั้งของภาค 9 ภูธรจังหวัดสงขลา และของ สภ.หาดใหญ่ เพื่อเร่งแกะรอยหาเบาะแสของคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายขับรถทั้ง 2 คันมาจอดไว้
**ตรวจเข้มรถ-บุคคลเป้าหมายป่วนใต้
พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติงานตามจุดตรวจเส้นทางสายหลักและสายรองในพื้นที่ จ.ปัตตานี พร้อมกำชับให้เพิ่มความเข้มตรวจตรารถและบุคคลเป้าหมายที่สัญจรไปมา เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำหลังพบรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ เป็นรถที่โจรกรรมไปจากพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และยังเป็นรถ 1 ใน 9 คันที่ทางศูนย์เฝ้าระวังป้องกันการโจรกรรมรถจังหวัดปัตตานี ได้มีการทำโปสเตอร์ออกแจกจ่ายแจ้งเตือนเป็นรถยนต์ต้องสงสัยนำไปประกอบเป็นรถระเบิดคาร์บอมบ์ ทั้งนี้ ยังได้มีการปรับแผนมาตรการให้ทุกจุดตรวจจุดสกัดเพิ่มความเข้มในการตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการจำกัดพื้นที่และป้องกันกลุ่มก่อเหตุรุนแรงเคลื่อนย้ายนำรถแจ้งเตือนที่เหลืออีก 8 คัน ออกมาก่อเหตุซ้ำซ้อนด้วย
"ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบหลังพบรถยนต์กระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ เป็นรถที่โจรกรรมไปจากพื้นที่ อ.สายบุรี โดยขั้นต้นได้มีคำสั่งให้ สภ.สายบุรี เร่งรวบรวมหลักฐานด้านคดีที่เกี่ยวข้องกับรถทั้งหมดให้กับชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนและติดตามหากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ" พล.ต.ต.โพธ กล่าว
**ยิงครูปัตตานีดับอีก 1 กลางตลาดนัด
เวลา 11.00 น.วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณตลาดนัดปาลัวริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ม.6 ต.ควน นำกำลังไปที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นางไพรัตน์ จิตเสน อายุ 50 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนบ้านดูวา อ.ปานาเระ สภาพศพถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม.เข้าลำตัวหลายนัด ใกล้กันพบรถเก๋งของผู้ตาย ทะเบียน กก 8963 ภูเก็ต และพบปลอกกระสุนจำนวน 9 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่ผู้ตายขับรถออกจากบ้านพักเพื่อมาซื้อกล้วยแขก แต่ระหว่างที่กำลังลงจากรถได้มีคนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงทันที ต่อหน้าประชาชนจำนวนมากจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่สร้างสถานการณ์