ASTVผู้จัดการรายวัน - โจรใต้วางระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ ทั้งมอเตอร์ไซด์บอมบ์หน้าร้านสะดวกซื้อ คาร์บอบม์ในรั้วโรงพัก เจ็บ 10 คน "อีโอดี"คาดระเบิดแสวงเครื่อง พบบัตรพนักงานสินไหมรถยนต์ สินมั่นคงประกันภัยตกในซากรถยนต์ เร่งสอบเป็นเจ้าของรถหรือพัวพันก่อเหตุ ผบก.เผยรถก่อเหตุทั้ง 2 จุดถูกขโมยมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม่ทัพภาค 4 วอนประชาชนแจ้งเบาะแส เหตุจงใจทำร้ายคนบริสุทธิ์ อดีตทีมบริหารนครหาดใหญ่ชี้ตั้งใจหยาม ประกาศเป็นนัยถล่มเมืองเมื่อไหร่ก็ได้
เมื่อเวลา 13.45 น. วานนี้ (6 พ.ค.) เกิดเหตุระเบิดไล่เลี่ยกัน 2 จุดในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจุดแรกเป็นเหตุจักรยานยนต์บอมบ์ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ตรงข้ามวิทยาลัยเทคโนโลยีช่างกลภาคใต้ ถนนพลพิชัย ประชาชนและพนักงานร้านบาดเจ็บเล็กน้อย 7 คน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ นำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ ขณะที่บริเวณหน้าร้านพังยับเยิน กระจกแตกกระจัดกระจาย มีรถจักรยานยนต์เสียหายไปด้วย 5 คัน
ห่างกันประมาณ 10 นาที เกิดระเบิดขึ้นที่ลานจอดรถของกลางภายในสภ.หาดใหญ่ ใกล้กับแฟลตตำรวจ ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างหนักกว่าจุดแรก โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะคาร์บอมบ์ เนื่องจากพบเศษซากรถยนต์กระจัดกระจาย มีตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 คน และรถจักรยานยนต์ของกลางประมาณ 10 คัน หลังเกิดเหตุระเบิดได้เกิดเพลิงลุกไหม้ควันดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
เจ้าหน้าที่ได้กันผู้ไม่เกี่ยวข้องให้ออกห่างจากทั้ง 2 จุดไปอยู่ในที่ปลอดภัย และสั่งเคลียร์รถทุกชนิดโดยรอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงจะระเบิตามมาอีกระลอก พร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลนครหาดใหญ่ 5 คันเข้าควบคุมเพลิง ส่งผลให้การจราจรติดขัดไปทั้งเมือง ผู้คนต่างตกอยู่ในอาการหวาดผวา ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดหรืออีโอดี เข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
สำหรับเหตุระเบิดครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 ราย ประกอบด้วย 1.นายทินรัตน์ ศุภผลกุลนันท์ 2.น.ส.ภคกุล คนเที่ยง 3.น.ส.อัฉริยา วงศ์ศรี 4.นายวุฒิชัย ทัชบูรณ์ 5.นายศักดิ์ ประกอบสุข 6.นางทิพย์มณี รัตนนิล 7.น.ส.วรรณภรณ์ คล้ายดวง 8.นายวงศกูล แก้วมณี 9.ร.ต.ต.ชาญชัย สังขชาติ และ 10.ร.ต.ต.สมใจ สุวรรณกิจ ส่วนใหญ่มีอาการแน่นหน้าอก ถูกเศษแก้วและสะเก็ดระเบิดเป็นแผลตามร่างกาย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 6 คน อีก 3 คนนอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เนื่องจากกระดูกหัก มีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ และที่โรงพยาบาลราษฏร์ยินดี 1 ราย แพทย์ทำการผ่าตัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบของชุดอีโอดี บริเวณหน้าแฟลตในรั้วสภ.หาดใหญ่ พบบัตรพนักงานของนายสมเกียรติ บัวศรี ตำแหน่งหัวหน้าแผนกสินไหมรถยนต์ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด อยู่กับเศษซากรถยนต์คาร์บอมบ์ใกล้ศาลพระภูมิ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ประกอบเป็นคาร์บอมบ์หรือไม่ หรือมีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์อย่างไร ขณะเดียวกันรถยนต์โตโยต้า คอมมอนเรล ทะเบียน บร 8778 ขอนแก่น ของพ.ต.ต.ศรเพชร ตันติอมรชัยกุล ร้อยเวรของสภ.หาดใหญ่ ที่นำมาจอดตั้งแต่เวลา 08.30 น. ได้รับความเสียหายทั้งคันด้วย
โดยชุดอีโอดีรวบรวมเศษวัตถุระเบิดด้วยการกระจายกำลังภายในรัศมี 100 เมตร พบแผงวงจรโทรศัพท์มือถือ และขั้วแบตเตอรี่ชนิด 3 A คาดว่าเป็นชิ้นส่วนที่คนร้ายใช้ประกอบระเบิด และคาดว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง รุนแรงถึงขนาดทำให้รถฉีกขาดเป็น 2 ท่อน ขณะเดียวกันหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจพื้นที่บริเวณสภ.หาดใหญ่ เพื่อตรวจหาวัตถุระเบิดอีกทางหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุปรากฏว่ามีข่าวลือสะพัดว่ามีเหตุระเบิดในเมืองหาดใหญ่นับสิบจุด เป้าหมายเป็นห้างสรรพสินค้า ย่านธุรกิจ สถานที่ราชการสำคัญ ซึ่งมีเพียงจุดเดียวที่เจ้าหน้าที่กันรถและคนออกเพื่อตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย คือ หน้าร้านสะดวกซื้อประตู 108 ข้างหมาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
ต่อมา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง รองผบช.ภ. 9 พล.ต.เลอชัย มาลีเลิศ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา ร่วมแถลงข่าวที่สภ.หาดใหญ่ โดยนายกฤษฎายืนยันว่า เหตุระเบิดมี 2 จุด ไม่ใช่หลายจุดอย่างที่เป็นข่าวลือ มีทรัพย์สินเสียหายคาดว่าไม่เกิน 10 ล้านบาท
ส่วนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยได้กำชับตำรวจและทหาร ให้ดูแลส่วนราชการ ย่านธุรกิจ และศูนย์การค้าอย่างเข้มงวด โดยให้มีตำรวจและทหารประจำจุดจอดรถ ทางเข้า-ออกห้า เข้มงวดกวดขันทางเข้าเมืองหาดใหญ่ และเพิ่มการปิดล้อมตรวจค้นให้มากขึ้น ส่วนการติดตามคนร้ายให้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด และขอความร่วมมือประชาชนให้ความร่วมมือ เช่น ห้ามจอดรถบางจุด และการเดินทางเดียว
ด้านพล.ต.ต.เอกภพ กล่าวว่า ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ประกอบแจ้งหายไว้ที่จ.ยะลา เมื่อเดือนสิงหาคม 2556 ส่วนรถยนต์แจ้งหายไว้ที่ อ.สายบุรี จ.ตตานี เมื่อเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งคนร้ายประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องไว้ในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคนร้ายได้นำรถเข้ามาจอดไว้เวลาใด ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงกับวันที่มีการโยกย้ายนายตำรวจในพื้นที่ คนร้ายจึงอาจฉวยโอกาสก่อเหตุ
ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเป็นการกระทำที่ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อน กลุ่มก่อเหตุไม่เลือกเป้าหมาย กระทำต่อผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นพี่น้องประชาชนควรช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ด้วยการแจ้งเบาะแส ไม่ว่าจะเป็นรถหรือบุคคลต้องสงสัย
ด้านแหล่งข่าวอดีตทีมผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผยกับ "ASTVผู้จัดการภาคใต้" ว่าปฏิบัติการถล่มเมืองหาดใหญ่ครั้งนี้ ถือว่ามีความเสียหายและส่งผลกระทบไม่แพ้ครั้งที่ผ่านๆมา แต่ที่แตกต่างชัดเจน คือ กลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งใจเย้ยหน่วยงานความมั่นค งด้วยการวางคาร์บอมบ์ถึงในรั้วสถานีตำรวจ เหมือนกับเป็นการประกาศว่าพวกเขาจะถล่มเมืองหาดใหญ่เมื่อไรก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนให้หน่วยงานความมั่นคงต้องทบทวนมาตรการป้องกันให้เข้มข้นขึ้น
ทั้งนี้ เหตุระเบิดในเมืองหาดใหญ่ตั้งแต่ปี 2548 รวม 5 ครั้ง ประกอบด้วย วันที่ 3 เมษายน 2548 วางระเบิดสนามบินหาดใหญ่ เสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 15 ราย วันที่ 16 กันยายน 2548 วางระเบิด 5 จุด หน้าประตูศูนย์การค้าโอเดียน หน้าศูนย์การค้าโอเดียน หน้าร้านนิวเชอร์รี่นวดแผนโบราณ ห้างบิ๊กซีหาดใหญ่ ชั้น5 และโรงภาพยนตร์ได้อาน่า เสียชีวิต4 ราย บาดเจ็บ 62 ราย
วันที่ 27 พฤษภาคม 2550 วางระเบิด7 จุด บริเวณศาลเจ้ามูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ ตลาดกิมหยง ห้างบิ๊กซีหาดใหญ่ หน้าโรงแรมหาดใหญ่ การ์เดนท์ โฮม หน้าโรงแรมมายเฮ้าส์ ร้านอาหารนายหนัง หน้าห้างโลตัส บาดเจ็บ 13 ราย
วันที่ 2 สิงหาคม 2551 วางระเบิดร้านสะดวกซื้อ7 จุด ในเขตเทศบาลนครสงขลา 5 จุด เทศบาลนครหาดใหญ่ 2 จุด บาดเจ็บ2 ราย และวันที่ 31 มีนาคม 2555 วางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้น พลาซ่า เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 354 ราย ล่าสุดเป็นครั้งที่ 6
เมื่อเวลา 13.45 น. วานนี้ (6 พ.ค.) เกิดเหตุระเบิดไล่เลี่ยกัน 2 จุดในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจุดแรกเป็นเหตุจักรยานยนต์บอมบ์ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ตรงข้ามวิทยาลัยเทคโนโลยีช่างกลภาคใต้ ถนนพลพิชัย ประชาชนและพนักงานร้านบาดเจ็บเล็กน้อย 7 คน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ นำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ ขณะที่บริเวณหน้าร้านพังยับเยิน กระจกแตกกระจัดกระจาย มีรถจักรยานยนต์เสียหายไปด้วย 5 คัน
ห่างกันประมาณ 10 นาที เกิดระเบิดขึ้นที่ลานจอดรถของกลางภายในสภ.หาดใหญ่ ใกล้กับแฟลตตำรวจ ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างหนักกว่าจุดแรก โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะคาร์บอมบ์ เนื่องจากพบเศษซากรถยนต์กระจัดกระจาย มีตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 คน และรถจักรยานยนต์ของกลางประมาณ 10 คัน หลังเกิดเหตุระเบิดได้เกิดเพลิงลุกไหม้ควันดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
เจ้าหน้าที่ได้กันผู้ไม่เกี่ยวข้องให้ออกห่างจากทั้ง 2 จุดไปอยู่ในที่ปลอดภัย และสั่งเคลียร์รถทุกชนิดโดยรอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงจะระเบิตามมาอีกระลอก พร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลนครหาดใหญ่ 5 คันเข้าควบคุมเพลิง ส่งผลให้การจราจรติดขัดไปทั้งเมือง ผู้คนต่างตกอยู่ในอาการหวาดผวา ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดหรืออีโอดี เข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
สำหรับเหตุระเบิดครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 ราย ประกอบด้วย 1.นายทินรัตน์ ศุภผลกุลนันท์ 2.น.ส.ภคกุล คนเที่ยง 3.น.ส.อัฉริยา วงศ์ศรี 4.นายวุฒิชัย ทัชบูรณ์ 5.นายศักดิ์ ประกอบสุข 6.นางทิพย์มณี รัตนนิล 7.น.ส.วรรณภรณ์ คล้ายดวง 8.นายวงศกูล แก้วมณี 9.ร.ต.ต.ชาญชัย สังขชาติ และ 10.ร.ต.ต.สมใจ สุวรรณกิจ ส่วนใหญ่มีอาการแน่นหน้าอก ถูกเศษแก้วและสะเก็ดระเบิดเป็นแผลตามร่างกาย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 6 คน อีก 3 คนนอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เนื่องจากกระดูกหัก มีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ และที่โรงพยาบาลราษฏร์ยินดี 1 ราย แพทย์ทำการผ่าตัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบของชุดอีโอดี บริเวณหน้าแฟลตในรั้วสภ.หาดใหญ่ พบบัตรพนักงานของนายสมเกียรติ บัวศรี ตำแหน่งหัวหน้าแผนกสินไหมรถยนต์ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด อยู่กับเศษซากรถยนต์คาร์บอมบ์ใกล้ศาลพระภูมิ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ประกอบเป็นคาร์บอมบ์หรือไม่ หรือมีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์อย่างไร ขณะเดียวกันรถยนต์โตโยต้า คอมมอนเรล ทะเบียน บร 8778 ขอนแก่น ของพ.ต.ต.ศรเพชร ตันติอมรชัยกุล ร้อยเวรของสภ.หาดใหญ่ ที่นำมาจอดตั้งแต่เวลา 08.30 น. ได้รับความเสียหายทั้งคันด้วย
โดยชุดอีโอดีรวบรวมเศษวัตถุระเบิดด้วยการกระจายกำลังภายในรัศมี 100 เมตร พบแผงวงจรโทรศัพท์มือถือ และขั้วแบตเตอรี่ชนิด 3 A คาดว่าเป็นชิ้นส่วนที่คนร้ายใช้ประกอบระเบิด และคาดว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง รุนแรงถึงขนาดทำให้รถฉีกขาดเป็น 2 ท่อน ขณะเดียวกันหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจพื้นที่บริเวณสภ.หาดใหญ่ เพื่อตรวจหาวัตถุระเบิดอีกทางหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุปรากฏว่ามีข่าวลือสะพัดว่ามีเหตุระเบิดในเมืองหาดใหญ่นับสิบจุด เป้าหมายเป็นห้างสรรพสินค้า ย่านธุรกิจ สถานที่ราชการสำคัญ ซึ่งมีเพียงจุดเดียวที่เจ้าหน้าที่กันรถและคนออกเพื่อตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย คือ หน้าร้านสะดวกซื้อประตู 108 ข้างหมาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
ต่อมา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง รองผบช.ภ. 9 พล.ต.เลอชัย มาลีเลิศ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา ร่วมแถลงข่าวที่สภ.หาดใหญ่ โดยนายกฤษฎายืนยันว่า เหตุระเบิดมี 2 จุด ไม่ใช่หลายจุดอย่างที่เป็นข่าวลือ มีทรัพย์สินเสียหายคาดว่าไม่เกิน 10 ล้านบาท
ส่วนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยได้กำชับตำรวจและทหาร ให้ดูแลส่วนราชการ ย่านธุรกิจ และศูนย์การค้าอย่างเข้มงวด โดยให้มีตำรวจและทหารประจำจุดจอดรถ ทางเข้า-ออกห้า เข้มงวดกวดขันทางเข้าเมืองหาดใหญ่ และเพิ่มการปิดล้อมตรวจค้นให้มากขึ้น ส่วนการติดตามคนร้ายให้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด และขอความร่วมมือประชาชนให้ความร่วมมือ เช่น ห้ามจอดรถบางจุด และการเดินทางเดียว
ด้านพล.ต.ต.เอกภพ กล่าวว่า ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ประกอบแจ้งหายไว้ที่จ.ยะลา เมื่อเดือนสิงหาคม 2556 ส่วนรถยนต์แจ้งหายไว้ที่ อ.สายบุรี จ.ตตานี เมื่อเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งคนร้ายประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องไว้ในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคนร้ายได้นำรถเข้ามาจอดไว้เวลาใด ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงกับวันที่มีการโยกย้ายนายตำรวจในพื้นที่ คนร้ายจึงอาจฉวยโอกาสก่อเหตุ
ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเป็นการกระทำที่ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อน กลุ่มก่อเหตุไม่เลือกเป้าหมาย กระทำต่อผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นพี่น้องประชาชนควรช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ด้วยการแจ้งเบาะแส ไม่ว่าจะเป็นรถหรือบุคคลต้องสงสัย
ด้านแหล่งข่าวอดีตทีมผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผยกับ "ASTVผู้จัดการภาคใต้" ว่าปฏิบัติการถล่มเมืองหาดใหญ่ครั้งนี้ ถือว่ามีความเสียหายและส่งผลกระทบไม่แพ้ครั้งที่ผ่านๆมา แต่ที่แตกต่างชัดเจน คือ กลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งใจเย้ยหน่วยงานความมั่นค งด้วยการวางคาร์บอมบ์ถึงในรั้วสถานีตำรวจ เหมือนกับเป็นการประกาศว่าพวกเขาจะถล่มเมืองหาดใหญ่เมื่อไรก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนให้หน่วยงานความมั่นคงต้องทบทวนมาตรการป้องกันให้เข้มข้นขึ้น
ทั้งนี้ เหตุระเบิดในเมืองหาดใหญ่ตั้งแต่ปี 2548 รวม 5 ครั้ง ประกอบด้วย วันที่ 3 เมษายน 2548 วางระเบิดสนามบินหาดใหญ่ เสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 15 ราย วันที่ 16 กันยายน 2548 วางระเบิด 5 จุด หน้าประตูศูนย์การค้าโอเดียน หน้าศูนย์การค้าโอเดียน หน้าร้านนิวเชอร์รี่นวดแผนโบราณ ห้างบิ๊กซีหาดใหญ่ ชั้น5 และโรงภาพยนตร์ได้อาน่า เสียชีวิต4 ราย บาดเจ็บ 62 ราย
วันที่ 27 พฤษภาคม 2550 วางระเบิด7 จุด บริเวณศาลเจ้ามูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ ตลาดกิมหยง ห้างบิ๊กซีหาดใหญ่ หน้าโรงแรมหาดใหญ่ การ์เดนท์ โฮม หน้าโรงแรมมายเฮ้าส์ ร้านอาหารนายหนัง หน้าห้างโลตัส บาดเจ็บ 13 ราย
วันที่ 2 สิงหาคม 2551 วางระเบิดร้านสะดวกซื้อ7 จุด ในเขตเทศบาลนครสงขลา 5 จุด เทศบาลนครหาดใหญ่ 2 จุด บาดเจ็บ2 ราย และวันที่ 31 มีนาคม 2555 วางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้น พลาซ่า เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 354 ราย ล่าสุดเป็นครั้งที่ 6