วานนี้ (6 พ.ค.) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้จัดโครงการสัมมนาเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สมาชิกวุฒิสภาใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อรับฟังสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกวุฒิสภา จากสำนักการคลังและงบประมาณ และการทำหน้าที่ในการประชุมวุฒิสภา จากสำนักการประชุม นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้บรรยายชี้แจงรายละเอียด การยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สิน ให้กับป.ป.ช. แก่สมสชิกวุฒิสภาใหม่ ได้รับทราบด้วย
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา กล่าวในการสัมมนาว่า สมาชิกวุฒิสภาต้องโปร่งใส พร้อมให้สังคมตรวจสอบ และขอย้ำสมาชิกใหม่ทุกคน จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินตาม มาตรา 52 ที่ต้องยื่นภายใน 90 วัน หลังวันเลือกตั้ง หากยื่นไม่ครบ หรือยื่นเท็จ จะมีโทษทั้งจำคุกและปรับ รวมไปถึงถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี ซึ่งหลังจากอบรมในวันนี้แล้ว ครั้งต่อไปจะจัดอบรมจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภา ทั้งนี้ รองประธานวุฒิสภา ยังเปิดเผยด้วยว่า จะมีการขอเปิดประชุมวุฒิสภาวิสามัญ อีกครั้ง เพื่อพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนมายังวุฒิสภาแล้ว
สำหรับการประชุมวุฒิสภา วันที่ 9 พ.ค. จะเปิดโอกาสให้สมาชิก ได้อภิปรายแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ว่าควรจะดำเนินการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาหรือไม่ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับมติในที่ประชุม
ทั้งนี้ นายสุรชัย ยืนยันว่า วุฒิสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจในการดำเนินการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาได้ ไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ ตามที่หลายฝ่ายกังวล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุมรอบที่ผ่านมา ส.ว.แสดงเจตจำนงว่า หากที่ประชุมเดินหน้าพิจารณาเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภา อาจจะไม่เข้าร่วมการพิจารณา เพราะเสี่ยงที่จะขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้มีปัญหาต่อการประชุมหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของ ส.ว. แต่จะมีปัญหาต่อการประชุมหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาว่า สมาชิกที่อยู่ในห้องประชุมครบองค์ประชุมหรือไม่ หากจำนวนสมาชิกยังอยู่ครบองค์ประชุม ตนก็ดำเนินการประชุมต่อไป
เมื่อถามว่า หากมีการเลือกประธาน และรองประธานสำเร็จ จะมีปัญหาต่อการยอมรับในตัวบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาคนใหม่หรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ต้องฟังมติของที่ประชุม ซึ่งต้องรับฟังเสียงส่วนใหญ่ ส่วนเสียงข้างน้อย ก็ต้องยอมรับมติของที่ประชุม เบื้องต้นเชื่อว่า ส.ว.ทุกคน โดยเฉพาะส.ว.ชุดใหม่ จะรับฟังเหตุผล ตนมองว่าควรจะอยู่ในห้องประชุมเพื่ออภิปราย และรับฟังเหตุผลของคนที่เห็นด้วยและเห็นต่าง ก่อนนำเหตุผลมาพิจารณาก่อนลงมติตัดสิน อย่างไรก็ตาม หากเริ่มประชุมแล้วไม่ยอมฟังเสียงกัน อาจกระทบต่อการบริหารการประชุมได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า จะไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น และสามารถทำความเข้าใจกันได้
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ปิดสมัยประชุมวิสามัญ ในวันที่ 10 พ.ค. แล้ว จะดำเนินการยื่นเรื่อง ขอเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญต่อ เพื่อทำการพิจารณาถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ตามที่ ป.ป.ช. ส่งเรื่องมาที่วุฒิสภา
นายจองชัย เที่ยงธรรม ส.ว.สุพรรณบุรี กล่าวยืนยันว่า ตนจะเข้ารับการเสนอชื่อเป็นประธานวุฒิสภาอย่างแน่นอน โดยจะไม่มีการถอนตัวตามที่มีรายงานข่าวออกไปก่อนหน้านี้ ส่วนตัวมองว่าที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ เชื่อว่าเป็นข่าวลวง เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การลงเข้าแข่งขันอาจจะไม่ชนะบุคคลที่มีชื่อ เพราะตนเดินสายขอคะแนนเพียงคนเดียว แต่คนอื่นมีกลุ่มในการขอคะแนน ซึ่งหากตนไม่ได้รับเลือก แต่ยังได้รับการสนับสนุน และถูกเสนอชื่อเป็นรองประธานวุฒิสภา ก็พร้อมก็จะลงชิงตำแหน่งเช่นเดียวกัน
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา กล่าวในการสัมมนาว่า สมาชิกวุฒิสภาต้องโปร่งใส พร้อมให้สังคมตรวจสอบ และขอย้ำสมาชิกใหม่ทุกคน จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินตาม มาตรา 52 ที่ต้องยื่นภายใน 90 วัน หลังวันเลือกตั้ง หากยื่นไม่ครบ หรือยื่นเท็จ จะมีโทษทั้งจำคุกและปรับ รวมไปถึงถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี ซึ่งหลังจากอบรมในวันนี้แล้ว ครั้งต่อไปจะจัดอบรมจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภา ทั้งนี้ รองประธานวุฒิสภา ยังเปิดเผยด้วยว่า จะมีการขอเปิดประชุมวุฒิสภาวิสามัญ อีกครั้ง เพื่อพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนมายังวุฒิสภาแล้ว
สำหรับการประชุมวุฒิสภา วันที่ 9 พ.ค. จะเปิดโอกาสให้สมาชิก ได้อภิปรายแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ว่าควรจะดำเนินการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาหรือไม่ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับมติในที่ประชุม
ทั้งนี้ นายสุรชัย ยืนยันว่า วุฒิสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจในการดำเนินการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาได้ ไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ ตามที่หลายฝ่ายกังวล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุมรอบที่ผ่านมา ส.ว.แสดงเจตจำนงว่า หากที่ประชุมเดินหน้าพิจารณาเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภา อาจจะไม่เข้าร่วมการพิจารณา เพราะเสี่ยงที่จะขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้มีปัญหาต่อการประชุมหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของ ส.ว. แต่จะมีปัญหาต่อการประชุมหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาว่า สมาชิกที่อยู่ในห้องประชุมครบองค์ประชุมหรือไม่ หากจำนวนสมาชิกยังอยู่ครบองค์ประชุม ตนก็ดำเนินการประชุมต่อไป
เมื่อถามว่า หากมีการเลือกประธาน และรองประธานสำเร็จ จะมีปัญหาต่อการยอมรับในตัวบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาคนใหม่หรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ต้องฟังมติของที่ประชุม ซึ่งต้องรับฟังเสียงส่วนใหญ่ ส่วนเสียงข้างน้อย ก็ต้องยอมรับมติของที่ประชุม เบื้องต้นเชื่อว่า ส.ว.ทุกคน โดยเฉพาะส.ว.ชุดใหม่ จะรับฟังเหตุผล ตนมองว่าควรจะอยู่ในห้องประชุมเพื่ออภิปราย และรับฟังเหตุผลของคนที่เห็นด้วยและเห็นต่าง ก่อนนำเหตุผลมาพิจารณาก่อนลงมติตัดสิน อย่างไรก็ตาม หากเริ่มประชุมแล้วไม่ยอมฟังเสียงกัน อาจกระทบต่อการบริหารการประชุมได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า จะไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น และสามารถทำความเข้าใจกันได้
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ปิดสมัยประชุมวิสามัญ ในวันที่ 10 พ.ค. แล้ว จะดำเนินการยื่นเรื่อง ขอเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญต่อ เพื่อทำการพิจารณาถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ตามที่ ป.ป.ช. ส่งเรื่องมาที่วุฒิสภา
นายจองชัย เที่ยงธรรม ส.ว.สุพรรณบุรี กล่าวยืนยันว่า ตนจะเข้ารับการเสนอชื่อเป็นประธานวุฒิสภาอย่างแน่นอน โดยจะไม่มีการถอนตัวตามที่มีรายงานข่าวออกไปก่อนหน้านี้ ส่วนตัวมองว่าที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ เชื่อว่าเป็นข่าวลวง เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การลงเข้าแข่งขันอาจจะไม่ชนะบุคคลที่มีชื่อ เพราะตนเดินสายขอคะแนนเพียงคนเดียว แต่คนอื่นมีกลุ่มในการขอคะแนน ซึ่งหากตนไม่ได้รับเลือก แต่ยังได้รับการสนับสนุน และถูกเสนอชื่อเป็นรองประธานวุฒิสภา ก็พร้อมก็จะลงชิงตำแหน่งเช่นเดียวกัน
