กาญจนบุรี - พบแล้วจุดมรณะ 4 นักท่องเที่ยวสาวบริษัทชื่อดัง "ไซเอนซ์ฟอร์คิดส์ฯ" ขึ้นไปหามุมถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึกก่อนเดินทางกลับบนสันน้ำตกริมห้วยลำคลองงู อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี ก่อนเกิดเหตุร้ายลื่นตกลงมาสู่ใต้น้ำตกพร้อมกันกลายเป็นศพแบบสุดเศร้า ประกอบกับกระแสน้ำแรงทำเสื้อชูชีพ 3 ใน 4 สาวหลุดถูกดูดร่างติดโพรงลึกใต้น้ำตก
วานนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี 4 สาวประกอบด้วย น.ส.นฐมน เล็กบำรุง น.ส.นฤมล กมลพัฒนะ น.ส.ยุวดี คงพิเชียรศรี และ น.ส.พภัสสรน์ โลหะนันทชัย พลัดตกจากน้ำตกริมห้วยลำคลองงู พื้นที่หมู่ 3 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตทั้ง 4 รายเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท ไซ เอนซ์ฟอร์ คิดส์ จำกัด เลขที่ 123/18 ซ.ร่วมฤดี 5 ถ.เพลินจิตร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.ต่อมาเวลา 03.30 น.วานนี้ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้นำศพหญิงสาวทั้ง 4 รายไปยังสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุให้เป็นที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง
นายเฉลิมพล หงส์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 เปิดเผยถึงการปฏิบัติหน้าที่ค้นหาร่างของหญิงสาวทั้ง 4 รายว่า ค่อนข้างลำบากเพราะต้องนั่งเรือฝ่าคลื่นลมแรงเข้าไปยังจุดเกิดเหตุใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงและต้องไปด้วยความรัดระวัง จุดเกิดเหตุพบเสื้อชูชีพ 3 ตัวลอยอยู่บนผิวน้ำและน้ำค่อนข้างใส ทำให้มองเห็นศพจมลึกจากผิวน้ำประมาณ 4- 5 เมตรเท่านั้น ศพแรกสวมเสื้อชูชีพจมอยู่บริเวณปากโพรงใต้น้ำตก อีก 3 ศพลักษณะจับมือประสานกันจมอยู่ในโพรงใต้น้ำตกลึกลงไปไม่มากนัก แต่ไม่สามารถนำศพขึ้นมาได้ เนื่องจากน้ำวนหมุนตีกระทบโพรงใต้น้ำตกอย่างรุนแรง
"เจ้าหน้าที่ชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ที่ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีได้สลับสับเปลี่ยนกันดำน้ำลงไปเพื่อนำศพขึ้นมาอย่างระมัดระวังและต้องใช้เชือกผูกติดลำตัวเจ้าหน้าที่เอาไว้ หากถูกกระแสน้ำพัดก็จะสามารถดึงเชือกช่วยชีวิตเจ้าหน้าที่ได้ทัน จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น.วันที่ 4 พ.ค.จึงสามารถนำศพหญิงสาวทั้ง 4 รายขึ้นมาได้ท่ามกลางความโล่งใจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคน หลังจากนั้นจึงได้เคลื่อนย้ายศพไปไว้ที่แพไม้ไผ่ แล้วใช้เรือลากเข้าฝั่ง กว่าจะนำศพไปพิสูจน์ที่โรงพยาบาลได้เวลาก็ล่วงเลยไปถึง 03.00 น.ของวันที่ 5 พ.ค. หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ และคณะแพทย์ รพ.สุขสิริศรีสวัสดิ์ ได้ร่วมกันพิสูจน์เบื้องต้นแล้วเสร็จจึงได้นำส่งไปยังสถาบันนิติเวช และเพิ่งเดินทางไปถึงช่วงเช้าที่ผ่านมา" นายเฉลิมพล กล่าว
เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ ได้รายงานให้ทราบแล้วตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. และจากการสอบสวนหาสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย พร้อมกับเพื่อนประมาณ 40 คนทั้งหมดได้เดินไปเที่ยวชมธรรมชาติตามลำธารน้ำตก โดยสวมเสื้อชูชีพทุกคน จนกระทั่งได้เวลากลับทุกคนได้มารวมตัวกันเพื่อเดินทางกลับพร้อมกัน แต่ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายได้จูงมือกันเดินขึ้นไปบนสันน้ำตกเพื่อหามุมถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก
จากการที่สันของน้ำตก ซึ่งเป็นหินทั้งหมดและมีสภาพลื่นมากทำให้ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายประคองตัวไม่อยู่ เกิดลื่นตกลงมาสู่ใต้น้ำตกพร้อมกัน ประกอบกับจุดตกเป็นจุดที่มีกระแสน้ำไหลวนอย่างรุนแรง รวมทั้งมีโพรงและซอกหินที่เกิดจากแรงกระแทกของกระแสน้ำ ทำให้หญิงสาวทั้ง 4 รายถูกน้ำไหลวนดูดเข้าไปติดในโพรงและซอกหิน จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตติดอยู่ที่ซอกหินและโพรงใต้น้ำตก ความแรงของน้ำวน ยังทำให้เสื้อชูชีพหลุดออกมาจากตัวของผู้เสียชีวิต 3 ราย อีกรายรูปร่างค่อนข้างใหญ่จึงทำให้เสื้อชูชีพไม่หลุดออมา
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสูญเสียและความเสียใจให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก เบื้องต้นต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมทั้งบรรดาญาติและเพื่อนๆ ของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายด้วย และอยากฝากเตือนไปยังนักท่องเที่ยวทั้งหลายว่าหากไปท่องเที่ยวในลักษณะนี้ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใดก็ตามขออย่าตั้งอยู่ในความประมาทอย่างเด็ดขาด และต้องเชื่อฟังคนนำทางทุกครั้ง และจากรายงานการสอบสวนพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายไม่ยอมเข้าไปรวมกลุ่มเพื่อเดินทางกลับพร้อมเพื่อน แต่ได้ไปหามุมถ่ายภาพยังที่สูงจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว" พ.ต.อ.มานิตย์ กล่าว
วานนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี 4 สาวประกอบด้วย น.ส.นฐมน เล็กบำรุง น.ส.นฤมล กมลพัฒนะ น.ส.ยุวดี คงพิเชียรศรี และ น.ส.พภัสสรน์ โลหะนันทชัย พลัดตกจากน้ำตกริมห้วยลำคลองงู พื้นที่หมู่ 3 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตทั้ง 4 รายเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท ไซ เอนซ์ฟอร์ คิดส์ จำกัด เลขที่ 123/18 ซ.ร่วมฤดี 5 ถ.เพลินจิตร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.ต่อมาเวลา 03.30 น.วานนี้ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้นำศพหญิงสาวทั้ง 4 รายไปยังสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุให้เป็นที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง
นายเฉลิมพล หงส์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 เปิดเผยถึงการปฏิบัติหน้าที่ค้นหาร่างของหญิงสาวทั้ง 4 รายว่า ค่อนข้างลำบากเพราะต้องนั่งเรือฝ่าคลื่นลมแรงเข้าไปยังจุดเกิดเหตุใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงและต้องไปด้วยความรัดระวัง จุดเกิดเหตุพบเสื้อชูชีพ 3 ตัวลอยอยู่บนผิวน้ำและน้ำค่อนข้างใส ทำให้มองเห็นศพจมลึกจากผิวน้ำประมาณ 4- 5 เมตรเท่านั้น ศพแรกสวมเสื้อชูชีพจมอยู่บริเวณปากโพรงใต้น้ำตก อีก 3 ศพลักษณะจับมือประสานกันจมอยู่ในโพรงใต้น้ำตกลึกลงไปไม่มากนัก แต่ไม่สามารถนำศพขึ้นมาได้ เนื่องจากน้ำวนหมุนตีกระทบโพรงใต้น้ำตกอย่างรุนแรง
"เจ้าหน้าที่ชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ที่ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีได้สลับสับเปลี่ยนกันดำน้ำลงไปเพื่อนำศพขึ้นมาอย่างระมัดระวังและต้องใช้เชือกผูกติดลำตัวเจ้าหน้าที่เอาไว้ หากถูกกระแสน้ำพัดก็จะสามารถดึงเชือกช่วยชีวิตเจ้าหน้าที่ได้ทัน จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น.วันที่ 4 พ.ค.จึงสามารถนำศพหญิงสาวทั้ง 4 รายขึ้นมาได้ท่ามกลางความโล่งใจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคน หลังจากนั้นจึงได้เคลื่อนย้ายศพไปไว้ที่แพไม้ไผ่ แล้วใช้เรือลากเข้าฝั่ง กว่าจะนำศพไปพิสูจน์ที่โรงพยาบาลได้เวลาก็ล่วงเลยไปถึง 03.00 น.ของวันที่ 5 พ.ค. หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ และคณะแพทย์ รพ.สุขสิริศรีสวัสดิ์ ได้ร่วมกันพิสูจน์เบื้องต้นแล้วเสร็จจึงได้นำส่งไปยังสถาบันนิติเวช และเพิ่งเดินทางไปถึงช่วงเช้าที่ผ่านมา" นายเฉลิมพล กล่าว
เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ ได้รายงานให้ทราบแล้วตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. และจากการสอบสวนหาสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย พร้อมกับเพื่อนประมาณ 40 คนทั้งหมดได้เดินไปเที่ยวชมธรรมชาติตามลำธารน้ำตก โดยสวมเสื้อชูชีพทุกคน จนกระทั่งได้เวลากลับทุกคนได้มารวมตัวกันเพื่อเดินทางกลับพร้อมกัน แต่ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายได้จูงมือกันเดินขึ้นไปบนสันน้ำตกเพื่อหามุมถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก
จากการที่สันของน้ำตก ซึ่งเป็นหินทั้งหมดและมีสภาพลื่นมากทำให้ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายประคองตัวไม่อยู่ เกิดลื่นตกลงมาสู่ใต้น้ำตกพร้อมกัน ประกอบกับจุดตกเป็นจุดที่มีกระแสน้ำไหลวนอย่างรุนแรง รวมทั้งมีโพรงและซอกหินที่เกิดจากแรงกระแทกของกระแสน้ำ ทำให้หญิงสาวทั้ง 4 รายถูกน้ำไหลวนดูดเข้าไปติดในโพรงและซอกหิน จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตติดอยู่ที่ซอกหินและโพรงใต้น้ำตก ความแรงของน้ำวน ยังทำให้เสื้อชูชีพหลุดออกมาจากตัวของผู้เสียชีวิต 3 ราย อีกรายรูปร่างค่อนข้างใหญ่จึงทำให้เสื้อชูชีพไม่หลุดออมา
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสูญเสียและความเสียใจให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก เบื้องต้นต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมทั้งบรรดาญาติและเพื่อนๆ ของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายด้วย และอยากฝากเตือนไปยังนักท่องเที่ยวทั้งหลายว่าหากไปท่องเที่ยวในลักษณะนี้ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใดก็ตามขออย่าตั้งอยู่ในความประมาทอย่างเด็ดขาด และต้องเชื่อฟังคนนำทางทุกครั้ง และจากรายงานการสอบสวนพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายไม่ยอมเข้าไปรวมกลุ่มเพื่อเดินทางกลับพร้อมเพื่อน แต่ได้ไปหามุมถ่ายภาพยังที่สูงจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว" พ.ต.อ.มานิตย์ กล่าว
