ASTV ผู้จัดการรายวัน - เกิดเหตุรถเก๋งปาเจโร่ สีดำ ซิ่งแหกด่านตรวจความมั่นคงชนตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าเสียชีวิต 3 ศพ ก่อนควบคุมคนขับสอบสวนพร้อมตั้งข้อหาหนักขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส ชี้ไม่พบสิ่งผิดกฏหมายและปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดแต่อย่างใด ด้าน สตช.ปูนบำเหน็จ เงินช่วย 6 ตร.เหยื่อปาเจโร่แล้ว ญาติแห่รับศพด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
เมื่อเวลา 00.05 น. วานนี้ (28 เม.ย.) ร.ต.ท.วสันต์ แช่มมั่นคง พนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งฝ่าด่านตรวจ ก่อนพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณจุดตรวจความมั่นคงหน้าบุญถาวร พบรถเก๋งมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน วณ 9494 กรุงเทพมหานคร สภาพเสียหลักปีนขึ้นฟุตปาธ พุ่งชนเต็นท์ของตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ที่มาตั้งด่านความมั่นคงจนพังเสียหาย โต๊ะเก้าอี้กระจัดกระจาย ก่อนที่รถเก๋งคันดังกล่าวจะไปชนกับรถเก๋งอีก 2 คัน ที่จอดอยู่ภายในลานจอดรถบุญถาวร
จากการตรวจสอบพบนายนวพร เพชรแก้ว อายุ 25 ปี คนขับขี่รถคนดังกล่าว ด้านข้างของรถพบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ ส.ต.ต.ยรรยงค์ อนันท์ และ ส.ต.ต.ทรงพล พรหมมาลา ทั้งสองคนเป็น ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ตลิ่งชัน สภาพศพทั้งคู่มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ตามศีรษะและลำตัว นอกจากนี้ยังมีตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.ราชพิพัฒน์ 2 ราย รพ.วิชัยเวชหนองแขม 1 ราย และ รพ.พุทธมณฑล 1 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มี ร.ต.ต.เอนก นุ่มน้อย รอง สวป.สน.ตลิ่งชัน รวมอยู่ด้วย โดย ร.ต.ต.เอนก ได้ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่ รพ.พุทธมณฑล รวมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย
ร.ต.ท.วสันต์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ได้มาตั้งด่านอยู่บนถนนบรมราชชนนีหน้าบุญถาวร ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. นายนวพร ได้ขับรถคันดังกล่าวผ่านเข้ามาลักษณะมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณเรียกให้จอดเพื่อขอตรวจค้น แต่นายนวพรได้หักพวงมาลัยซ้ายอย่างแรง จนเสียหลักรถปีนขึ้นฟุตปาธ พุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่อย่างแรง และได้ลากร่างตำรวจทั้งสองนายที่เสียชีวิตไปไกลกว่า 30 เมตร
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายนวพรคนขับขี่รถเอาไว้ และได้เร่งนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.ธรรมศาลา เพื่อเร่งสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจะทำการตรวจสอบภายในรถของนายนวพรด้วยว่า มีสิ่งผิดกฏหมายหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
***ปูนบำเหน็จ เงินช่วย 6 ตร.เหยื่อปาเจโร่ตีนผี
เมื่อเวลา 13.45น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุชายขับรถปาเจโร่พุ่งชนด่านตำรวจจนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นายว่า จุดที่เกิดเหตุเป็นด่านตรวจความมั่นคงตรวจค้นอาวุธ จากรายงานทราบว่ารถผู้ต้องหาขับแซงขึ้นมาและเร่งเครื่องไปชนกับกลุ่มตำรวจจนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดยวันนี้ตนจะไปร่วมรดน้ำศพ ทั้งนี้ในส่วยสวัสดิการนั้นตร.ดูแลอย่างเต็มที่ เพราะเป็นการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ก็ดูแลอย่างเต็มที่มอบเงินช่วยเหลือรายละกว่า 1 ล้านบาทและปูนบำเหน็จชั้นยศตามสิทธิ
ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าการตั้งจุดตรวจนี้ทำตามยุทธวิธี มีความปลอดภัยตามรูปแบบ แต่กรณีนี้ผู้ต้องหาอาจใจร้อนขับแซงรถคันที่ต่อแถวตรวจอยู่ขึ้นมา ชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ การตั้งด่านมีความปลอดภัยตามยุทธวิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ได้พิจารณามอบสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ดังนี้1. ร.ต.ต.เอนก นุ่นน้อย รอง สวป. สน.ตลิ่งชัน ได้รับเงินช่วยเหลือทั้งสิ้นจำนวน 1,274,220 บาท พร้อมมอบความชอบกรณีพิเศษฯ 3 ขั้น 3 ชั้นยศ เลื่อนยศเป็น พ.ต.ต. 2. ส.ต.ต.ทรงพล พรมมาหล้า ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน เสียชีวิตเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ราชการ ได้รับเงินช่วยเหลือทั้งสิ้นจำนวน 969,840 บาท พร้อมมอบความชอบกรณีพิเศษฯ 3 ขั้น 3ชั้นยศ เลื่อนยศเป็น จ.ส.ต.3.ส.ต.ต.ยรรยง อะนันต์ ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน เสียชีวิตเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ราชการ ได้รับเงินช่วยเหลือทั้งสิ้นจำนวน 969,840 บาท พร้อมมอบความชอบกรณีพิเศษฯ 3 ขั้น 3ชั้นยศ เลื่อนยศเป็น จ.ส.ต.
สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1.ส.ต.ต. ธิวา กลิ่นบัวแก้ว ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน บาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 110,000 บาท 2. ส.ต.ต.อนุพงศ์ ขาวมรดก ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน บาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 110,000 บาท6.ส.ต.ต.เฉลิมรัตน์ สีทน ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน บาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 110,000 บาท
ขณะที่มีรายงานว่าส่วนผลการตั้งจุดตรวจจุดสกัด (ว.43 ความมั่นคง) ประจำวันที่ 27-28 เมษายน มีการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 12 ราย สามารถตรวจยึดของกลางเป็น อาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน จำนวน 124 นัด, อาวุธมีด จำนวน 7 เล่ม, ยาบ้า 5 เม็ด, กัญชา 1 ห่อเล็ก และ วัตถุระเบิด 1 ลูก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
***ญาติรับศพ 3 ตำรวจ
เวลา 14.30 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 (ผบก.น.7) พร้อมด้วยบรรดาญาติของ ร.ต.ต.เอนก นุ่นน้อย รอง สว. สน.ตลิ่งชัน, ส.ต.ต.ทรงพล พรมมาหล้า ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ตลิ่งชัน และส.ต.ต.ยรรยง อะนันต์ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ตลิ่งชัน ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่นายนวพร เพชรแก้ว อายุ 25 ปี ขับรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ ทะเบียน วณ 9494 กทม. พุ่งชนด่านตรวจความมั่นคงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน บก.น. 7 บริเวณถนนบรมราชชนนีขาออก ช่วงแยกพุทธมณฑลสาย 2 มุ่งหน้าสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เดินทางรับศพตำรวจทั้ง 3 นาย ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าศลด โดยญาติผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังอยู่ในอาการเสียใจและไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตนต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติของตำรวจทั้ง 3 นาย ในการปฏิบัติงานทุกครั้งผู้บังคับบัญชาได้แสดงความห่วงใยโดยได้ลงไปกำกับดูแลทุกครั้ง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ซึ่งได้รถด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด และขาดประสบการณ์ เป็นเหตุให้รถเสียหลักไปชนจุดที่พักคอยของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนที่จะมาเข้าจุดตรวจ และยืนยันว่าการตั้งจุดตรวจุดสกัดของตำรวจได้ดำเนินการตามยุทธวิธีที่ได้รับการฝึกฝนทั้งในส่วนของพื้นที่ที่ใช้ตั้งจุดตรวจ รวมทั้งไฟส่องสว่าง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้คงต้องมีการปรับยุทธวิธีโโยมีการตั้งแนวแบริเออร์ให้ยาวกว่าเดิม และจำกัดความเร็วของรถก่อนเข้าด่านให้ลดระดับลงมา เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติ ขณะที่ในส่วนการช่วยเหลือครอบครัวของตำรวจทั้ง 3 นาย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้เสนอปูนบำเหน็จความชอบและกำชับให้ดูแลเรื่องเงินสวัสดิการให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยีงมีเงินช่วยเหลือจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ซึ่งจะมอบเงินรายได้จากการจัดประกวดพระเครื่องให้รายละ 5 แสนบาท และบก.น.7 มอบให้รายละ 1 แสนบาท พร้อมเงินสวัสดิการอื่นๆ
ผบก.น.7 กล่าวว่า ในส่วนการดำเนินคดีกับนายนวพร ซึ่งขณะนี่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ธรรมศาลา จะแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ จากการตรวจร่างกายของนายนวพร ไม่พบสารเสพติด รวมทั้งแอลกอฮอล์ในเลือดแต่อย่างใด และในเวลา 17.00 น.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีรดนำศพตำรวจทั้ง 3 นายที่วัดตรีทศเทพ โดยจะมีการตั้งสวดพระอภิธรรมจำนวน 1 คืนก่อนจะมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาต่อไป
น.ส.ศิริพร ชินวงศ์ แฟนสาวของ ส.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า ตนเองเพิ่งคุยกับ ส.ต.ต.ทรงพล เกี่ยวกับการวางแผนที่จะแต่งงานกันในเร็วๆ นี้ แต่ปรากฏว่าแฟนหนุ่มกลับมาเสียชีวิตเสียก่อน หลังทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมาก พูดอะไรไม่ออก และจนถึงขณะนี้ยังคงทำใจไม่ได้
ด้านนายประจวบ ชูใหม่ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของ นายนวพร ผู้ต้องหาได้เดินทางมาพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนฝ่ายผู้ต้องหารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง โดยเบื้องต้นจะมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 70,000 บาท เป็นค่าทำศพ ส่วนค่าเสียหายอื่นๆ จะมีการพูดคุยในรายละเอียดกับทางญาติผู้เสียชีวิตอีกครั้ง แต่ยืนยันพร้อมรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวนายนวพรเอง ก็รู้สึกเสียใจมาก และไม่ได้มีเจตนาให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น โดยนายนวพร ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จะเบี่ยงเข้าช่องทางคู่ขนาน แต่พอแตะเบรกปรากฏว่ารถเกิดหมุนจนไม่สามารถบังคับรถได้ ก่อนเสียหลักไปพุ่งชนตำรวจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว นอกจากนี้อยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ของผู้ที่ขับขี่รถว่าไม่ควรประมาท เพราะหากเกิดความผิดพลาดแล้ว ไม่สามรรถกลับไปแก้ไขอะไรได้
เมื่อเวลา 00.05 น. วานนี้ (28 เม.ย.) ร.ต.ท.วสันต์ แช่มมั่นคง พนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งฝ่าด่านตรวจ ก่อนพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณจุดตรวจความมั่นคงหน้าบุญถาวร พบรถเก๋งมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน วณ 9494 กรุงเทพมหานคร สภาพเสียหลักปีนขึ้นฟุตปาธ พุ่งชนเต็นท์ของตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ที่มาตั้งด่านความมั่นคงจนพังเสียหาย โต๊ะเก้าอี้กระจัดกระจาย ก่อนที่รถเก๋งคันดังกล่าวจะไปชนกับรถเก๋งอีก 2 คัน ที่จอดอยู่ภายในลานจอดรถบุญถาวร
จากการตรวจสอบพบนายนวพร เพชรแก้ว อายุ 25 ปี คนขับขี่รถคนดังกล่าว ด้านข้างของรถพบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ ส.ต.ต.ยรรยงค์ อนันท์ และ ส.ต.ต.ทรงพล พรหมมาลา ทั้งสองคนเป็น ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ตลิ่งชัน สภาพศพทั้งคู่มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ตามศีรษะและลำตัว นอกจากนี้ยังมีตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.ราชพิพัฒน์ 2 ราย รพ.วิชัยเวชหนองแขม 1 ราย และ รพ.พุทธมณฑล 1 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มี ร.ต.ต.เอนก นุ่มน้อย รอง สวป.สน.ตลิ่งชัน รวมอยู่ด้วย โดย ร.ต.ต.เอนก ได้ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่ รพ.พุทธมณฑล รวมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย
ร.ต.ท.วสันต์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ได้มาตั้งด่านอยู่บนถนนบรมราชชนนีหน้าบุญถาวร ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. นายนวพร ได้ขับรถคันดังกล่าวผ่านเข้ามาลักษณะมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณเรียกให้จอดเพื่อขอตรวจค้น แต่นายนวพรได้หักพวงมาลัยซ้ายอย่างแรง จนเสียหลักรถปีนขึ้นฟุตปาธ พุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่อย่างแรง และได้ลากร่างตำรวจทั้งสองนายที่เสียชีวิตไปไกลกว่า 30 เมตร
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายนวพรคนขับขี่รถเอาไว้ และได้เร่งนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.ธรรมศาลา เพื่อเร่งสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจะทำการตรวจสอบภายในรถของนายนวพรด้วยว่า มีสิ่งผิดกฏหมายหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
***ปูนบำเหน็จ เงินช่วย 6 ตร.เหยื่อปาเจโร่ตีนผี
เมื่อเวลา 13.45น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุชายขับรถปาเจโร่พุ่งชนด่านตำรวจจนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นายว่า จุดที่เกิดเหตุเป็นด่านตรวจความมั่นคงตรวจค้นอาวุธ จากรายงานทราบว่ารถผู้ต้องหาขับแซงขึ้นมาและเร่งเครื่องไปชนกับกลุ่มตำรวจจนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดยวันนี้ตนจะไปร่วมรดน้ำศพ ทั้งนี้ในส่วยสวัสดิการนั้นตร.ดูแลอย่างเต็มที่ เพราะเป็นการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ก็ดูแลอย่างเต็มที่มอบเงินช่วยเหลือรายละกว่า 1 ล้านบาทและปูนบำเหน็จชั้นยศตามสิทธิ
ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าการตั้งจุดตรวจนี้ทำตามยุทธวิธี มีความปลอดภัยตามรูปแบบ แต่กรณีนี้ผู้ต้องหาอาจใจร้อนขับแซงรถคันที่ต่อแถวตรวจอยู่ขึ้นมา ชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ การตั้งด่านมีความปลอดภัยตามยุทธวิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ได้พิจารณามอบสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ดังนี้1. ร.ต.ต.เอนก นุ่นน้อย รอง สวป. สน.ตลิ่งชัน ได้รับเงินช่วยเหลือทั้งสิ้นจำนวน 1,274,220 บาท พร้อมมอบความชอบกรณีพิเศษฯ 3 ขั้น 3 ชั้นยศ เลื่อนยศเป็น พ.ต.ต. 2. ส.ต.ต.ทรงพล พรมมาหล้า ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน เสียชีวิตเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ราชการ ได้รับเงินช่วยเหลือทั้งสิ้นจำนวน 969,840 บาท พร้อมมอบความชอบกรณีพิเศษฯ 3 ขั้น 3ชั้นยศ เลื่อนยศเป็น จ.ส.ต.3.ส.ต.ต.ยรรยง อะนันต์ ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน เสียชีวิตเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ราชการ ได้รับเงินช่วยเหลือทั้งสิ้นจำนวน 969,840 บาท พร้อมมอบความชอบกรณีพิเศษฯ 3 ขั้น 3ชั้นยศ เลื่อนยศเป็น จ.ส.ต.
สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1.ส.ต.ต. ธิวา กลิ่นบัวแก้ว ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน บาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 110,000 บาท 2. ส.ต.ต.อนุพงศ์ ขาวมรดก ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน บาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 110,000 บาท6.ส.ต.ต.เฉลิมรัตน์ สีทน ผบ.หมู่ สน.ตลิ่งชัน บาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 110,000 บาท
ขณะที่มีรายงานว่าส่วนผลการตั้งจุดตรวจจุดสกัด (ว.43 ความมั่นคง) ประจำวันที่ 27-28 เมษายน มีการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 12 ราย สามารถตรวจยึดของกลางเป็น อาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน จำนวน 124 นัด, อาวุธมีด จำนวน 7 เล่ม, ยาบ้า 5 เม็ด, กัญชา 1 ห่อเล็ก และ วัตถุระเบิด 1 ลูก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
***ญาติรับศพ 3 ตำรวจ
เวลา 14.30 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 (ผบก.น.7) พร้อมด้วยบรรดาญาติของ ร.ต.ต.เอนก นุ่นน้อย รอง สว. สน.ตลิ่งชัน, ส.ต.ต.ทรงพล พรมมาหล้า ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ตลิ่งชัน และส.ต.ต.ยรรยง อะนันต์ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ตลิ่งชัน ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่นายนวพร เพชรแก้ว อายุ 25 ปี ขับรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ ทะเบียน วณ 9494 กทม. พุ่งชนด่านตรวจความมั่นคงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน บก.น. 7 บริเวณถนนบรมราชชนนีขาออก ช่วงแยกพุทธมณฑลสาย 2 มุ่งหน้าสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เดินทางรับศพตำรวจทั้ง 3 นาย ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าศลด โดยญาติผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังอยู่ในอาการเสียใจและไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตนต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติของตำรวจทั้ง 3 นาย ในการปฏิบัติงานทุกครั้งผู้บังคับบัญชาได้แสดงความห่วงใยโดยได้ลงไปกำกับดูแลทุกครั้ง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ซึ่งได้รถด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด และขาดประสบการณ์ เป็นเหตุให้รถเสียหลักไปชนจุดที่พักคอยของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนที่จะมาเข้าจุดตรวจ และยืนยันว่าการตั้งจุดตรวจุดสกัดของตำรวจได้ดำเนินการตามยุทธวิธีที่ได้รับการฝึกฝนทั้งในส่วนของพื้นที่ที่ใช้ตั้งจุดตรวจ รวมทั้งไฟส่องสว่าง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้คงต้องมีการปรับยุทธวิธีโโยมีการตั้งแนวแบริเออร์ให้ยาวกว่าเดิม และจำกัดความเร็วของรถก่อนเข้าด่านให้ลดระดับลงมา เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติ ขณะที่ในส่วนการช่วยเหลือครอบครัวของตำรวจทั้ง 3 นาย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้เสนอปูนบำเหน็จความชอบและกำชับให้ดูแลเรื่องเงินสวัสดิการให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยีงมีเงินช่วยเหลือจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ซึ่งจะมอบเงินรายได้จากการจัดประกวดพระเครื่องให้รายละ 5 แสนบาท และบก.น.7 มอบให้รายละ 1 แสนบาท พร้อมเงินสวัสดิการอื่นๆ
ผบก.น.7 กล่าวว่า ในส่วนการดำเนินคดีกับนายนวพร ซึ่งขณะนี่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ธรรมศาลา จะแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ จากการตรวจร่างกายของนายนวพร ไม่พบสารเสพติด รวมทั้งแอลกอฮอล์ในเลือดแต่อย่างใด และในเวลา 17.00 น.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีรดนำศพตำรวจทั้ง 3 นายที่วัดตรีทศเทพ โดยจะมีการตั้งสวดพระอภิธรรมจำนวน 1 คืนก่อนจะมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาต่อไป
น.ส.ศิริพร ชินวงศ์ แฟนสาวของ ส.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า ตนเองเพิ่งคุยกับ ส.ต.ต.ทรงพล เกี่ยวกับการวางแผนที่จะแต่งงานกันในเร็วๆ นี้ แต่ปรากฏว่าแฟนหนุ่มกลับมาเสียชีวิตเสียก่อน หลังทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมาก พูดอะไรไม่ออก และจนถึงขณะนี้ยังคงทำใจไม่ได้
ด้านนายประจวบ ชูใหม่ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของ นายนวพร ผู้ต้องหาได้เดินทางมาพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนฝ่ายผู้ต้องหารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง โดยเบื้องต้นจะมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 70,000 บาท เป็นค่าทำศพ ส่วนค่าเสียหายอื่นๆ จะมีการพูดคุยในรายละเอียดกับทางญาติผู้เสียชีวิตอีกครั้ง แต่ยืนยันพร้อมรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวนายนวพรเอง ก็รู้สึกเสียใจมาก และไม่ได้มีเจตนาให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น โดยนายนวพร ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จะเบี่ยงเข้าช่องทางคู่ขนาน แต่พอแตะเบรกปรากฏว่ารถเกิดหมุนจนไม่สามารถบังคับรถได้ ก่อนเสียหลักไปพุ่งชนตำรวจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว นอกจากนี้อยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ของผู้ที่ขับขี่รถว่าไม่ควรประมาท เพราะหากเกิดความผิดพลาดแล้ว ไม่สามรรถกลับไปแก้ไขอะไรได้
