00 แม้จะเป็นไปตามคาดที่ศาลรัฐธรรมนูญยอมขยายเวลาอีก 15 วัน ให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สำหรับการชี้แจงในกรณีถูกร้องเรื่องการย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากเลขาฯ สมช.โดยมิชอบ เพราะตามขั้นตอนทั่วไปศาลหรือองค์กรอิสระ มักจะยอมให้เลื่อนหรือขยายเวลาในชี้แจงตามคำร้องเป็นครั้งแรกเสมอ อย่างไรก็ดี ศาลหรือองค์กรดังกล่าว ก็จะพิจารณาถึงหลักการและเหตุผลตามความเป็นจริงประกอบด้วย หากขอขยายเวลาเรื่อยเปื่อย เข้าข่ายถ่วงเวลา ก็มักได้รับการปฏิเสธ เหมือนกัน อย่างกรณีที่ฝ่าย ยิ่งลักษณ์ มีความพยายามเสนอไต่สวนพยานเพิ่มอีก 3 ปาก คือ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และ "จอมหลงตัวเอง" อย่าง เฉลิม อยู่บำรุง แส่เข้ามาอีก ซึ่งก็รู้กันอยู่แล้วว่า จะเข้ามาอวดฉลาดแบบโง่ๆ อีกตามเคย และก็เป็นไปตามคาดเช่นเดียวกันที่ศาลฯ ไม่อนุญาต เนื่องจากเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดี
00 อย่างไรก็ดี ศาลรัฐธรรมนูญให้มีการไต่สวนพยานอีก 4 ปาก คือ ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ผู้ร้องในคดีนี้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ถูกร้อง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และ ถวิล เปลี่ยนศรี ที่น่าหนักใจก็คือ คนที่สอง คือ ยิ่งลักษณ์ นั่นแหละไม่รู้จะพูดจารู้เรื่องแบบ "บูรณาการ" หรือเปล่า น่าเป็นห่วงหากเข้าไปชี้แจงเองอาจจะ"เข้าเนื้อ"มากกว่าเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ และที่น่าจับตาก็คือ นัดให้มีการไต่สวนในวันที่ 6 พ.ค. นั่นก็หมายความว่า มีความเป็นไปได้สูงว่า ศาลจะนัดชี้ขาดใน วันที่ 7-8 พ.ค. เลยก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็หมายความว่าเริ่มนับถอยหลัง "ชะตาทราม" แล้วละซี พี่น้อง !!
00 ยัง ยังไม่พอ ยังมีคดีในป.ป.ช.ที่กำลังจ่อคอหอยตามมาติดๆ นั่นคือ คดีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีการระบุออกมาแล้วว่าไม่เกินเดือนพ.ค.เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะใช้ลูกไม้เก่าๆ นั่นคือใช้วิธีเพิ่มพยานเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อยื้อออกไปให้นานที่สุด ที่ผ่านมาก็ถูกตัดออกหมด เพราะรู้ทันว่าเป็นเกมป่วนเท่านั้น ขณะเดียวกันแม้ว่าจะใช้วิธีดิสเครดิต ข่มขู่ คุกคาม ป.ป.ช.บางคนที่เป็นเป้าหมายก็คือ วิชา มหาคุณ แต่นาทีนี้ไม่ได้ผล ไม่มีใครหวั่นไหว ถึงได้ดิ้นหนัก แต่ก็นั่นแหละ จบเห่แน่ และคดีในป.ป.ช.นี่แหละ ปลายทางหมายถึงคุกด้วยซีพี่น้อง
00 พิสูจน์ให้เห็นถึงความมักง่าย ไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมา ว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านคนยากคนจนทุกหย่อมหญ้าแค่ไหน ล่าสุด กิตติรัตน์ ณ ระนอง ขุนคลังคู่ใจของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็แย้มออกมาให้สะดุ้งกันอีกรอบว่า กำลังเล็งที่จะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 เพิ่มพรวดเดียวร้อยละ 3 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ข้ออ้างสำคัญคือรัฐบาลรีดรายได้ไม่เข้าเป้า จึงต้องเพิ่มแวต หาเงินมาโปะ แต่เชื่อเถอะ ถ้าทำจริงหายนะแน่นอน เพราะจะทำให้เศรษฐกิจยับเยินอยู่แล้วจะยิ่งดิ่งเหว เพราะของแพงขึ้น ขณะที่กำลังซื้อของชาวบ้านหดหาย อย่างไรก็ดี การขึ้นแวต เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่มันก็ต้องดูจังหวะเวลา ดูภาวะเศรษฐกิจ หากหน้ามืด ไม่ดูตาม้า ตาเรือ ก็ต้องรอดูก็แล้วกันว่า "นรกมีจริง"
00 อย่างไรก็ดี ศาลรัฐธรรมนูญให้มีการไต่สวนพยานอีก 4 ปาก คือ ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ผู้ร้องในคดีนี้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ถูกร้อง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และ ถวิล เปลี่ยนศรี ที่น่าหนักใจก็คือ คนที่สอง คือ ยิ่งลักษณ์ นั่นแหละไม่รู้จะพูดจารู้เรื่องแบบ "บูรณาการ" หรือเปล่า น่าเป็นห่วงหากเข้าไปชี้แจงเองอาจจะ"เข้าเนื้อ"มากกว่าเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ และที่น่าจับตาก็คือ นัดให้มีการไต่สวนในวันที่ 6 พ.ค. นั่นก็หมายความว่า มีความเป็นไปได้สูงว่า ศาลจะนัดชี้ขาดใน วันที่ 7-8 พ.ค. เลยก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็หมายความว่าเริ่มนับถอยหลัง "ชะตาทราม" แล้วละซี พี่น้อง !!
00 ยัง ยังไม่พอ ยังมีคดีในป.ป.ช.ที่กำลังจ่อคอหอยตามมาติดๆ นั่นคือ คดีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีการระบุออกมาแล้วว่าไม่เกินเดือนพ.ค.เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะใช้ลูกไม้เก่าๆ นั่นคือใช้วิธีเพิ่มพยานเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อยื้อออกไปให้นานที่สุด ที่ผ่านมาก็ถูกตัดออกหมด เพราะรู้ทันว่าเป็นเกมป่วนเท่านั้น ขณะเดียวกันแม้ว่าจะใช้วิธีดิสเครดิต ข่มขู่ คุกคาม ป.ป.ช.บางคนที่เป็นเป้าหมายก็คือ วิชา มหาคุณ แต่นาทีนี้ไม่ได้ผล ไม่มีใครหวั่นไหว ถึงได้ดิ้นหนัก แต่ก็นั่นแหละ จบเห่แน่ และคดีในป.ป.ช.นี่แหละ ปลายทางหมายถึงคุกด้วยซีพี่น้อง
00 พิสูจน์ให้เห็นถึงความมักง่าย ไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมา ว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านคนยากคนจนทุกหย่อมหญ้าแค่ไหน ล่าสุด กิตติรัตน์ ณ ระนอง ขุนคลังคู่ใจของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็แย้มออกมาให้สะดุ้งกันอีกรอบว่า กำลังเล็งที่จะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 เพิ่มพรวดเดียวร้อยละ 3 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ข้ออ้างสำคัญคือรัฐบาลรีดรายได้ไม่เข้าเป้า จึงต้องเพิ่มแวต หาเงินมาโปะ แต่เชื่อเถอะ ถ้าทำจริงหายนะแน่นอน เพราะจะทำให้เศรษฐกิจยับเยินอยู่แล้วจะยิ่งดิ่งเหว เพราะของแพงขึ้น ขณะที่กำลังซื้อของชาวบ้านหดหาย อย่างไรก็ดี การขึ้นแวต เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่มันก็ต้องดูจังหวะเวลา ดูภาวะเศรษฐกิจ หากหน้ามืด ไม่ดูตาม้า ตาเรือ ก็ต้องรอดูก็แล้วกันว่า "นรกมีจริง"
