xs
xsm
sm
md
lg

"เทือก"บุกกฟน. ชวนเผด็จศึก"ปู" เปิดแผน30เม.ย.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 10.15 น. วานนี้ (23 เม.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมแกนนำ และผู้ชุมนุมออกจากสวนลุมพินี เพื่อเดินทางไปสำนักงานใหญ่การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนมาแตร์เดอี โดยตลอดเส้นมี พนักงานบริษัท ประชาชน ออกมายืนรอทักทายให้กำลังเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
เมื่อเดินทางไปถึง นายสุเทพ ได้ทำพิธี สักการะอนุสาวรีย์จอมพลและมหาอำมาตย์เอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) ผู้ริเริ่มนำไฟฟ้ามาใช้ในประเทศไทย โดยนายสุเทพ พร้อมผู้บริหาร กฟน. ได้วางพวงมาลัยดอกไม้ด้วย จากนั้นก็เดินเข้าไปหารือกับผู้บริหารกฟน. ภายในอาคาร โดยมีนายววิรัตน์ จันทร์ศิริพัฒนา รองผู้ว่าฯกฟน. พร้อมสหภาพรัฐวิสาหกิจ กฟน. ให้การต้อนรับ
นายสุเทพ ชี้แจงว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อเชิญให้ไปร่วมกันขจัดเภทภัยให้บ้านเมือง ซึ่งกปปส.จะนัดนัดชุมนุมใหญ่ครั้งต่อไป เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย เนื่องจากยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข และปฏิรูป แต่เราคิดว่าต้องเอาเรื่องจำเป็นเร่งด่วน และทำไม่นาน เราสู้มาเกือบ 6 เดือนแล้ว และได้แสดงพลังประชาชนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ แต่เขาก็ยังไม่ออกไป ซึ่งเราพยายามให้ข้อมูลต่อประชาชนผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งการเดินที่คาดว่าจะมาแล้วกว่า 500-600 กิโลเมตรแล้ว ทำให้คนรู้ความจริงมาก ทำให้จำนวนคนที่เข้าร่วมกับมวลมหาประชาชน เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ซึ่งการนัดชุมนุมครั้งนี้ ต้องเอาให้จบ รู้แพ้รู้ชนะ รู้ดำรู้แดง และได้ขอให้มวลชนได้เตรียมตัว จากเดิม ตั้งใจจะให้จบในวันที่ 30 เม.ย. แต่จากการพูดคุย ก็ขอปรับเวลา และ วันที่ 30 เม.ย. จะประกาศแนวทางให้ชัดเจน ซึ่งมั่นใจว่าครั้งนี้ จะออกกันมามาก และอยู่กันหลายวัน และการต่อสู้นัดเผด็จศึก การเสนอแนะความรู้จากรัฐวิสาหกิจ มีประโยชน์กับเรามาก เพราะมีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าพวกตน
ต่อมานายสุเทพได้ปราศรัยบนรถขยายเสียงบริเวณด้านหน้าอาคาร ของการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) สำนักงานใหญ่ ขอบคุณพนักงานและเจ้าหน้าที่ กฟน.ทุกคน ที่ให้การต้อนรับ กปปส.อย่างดี ถือว่าประสบความสำเร็จในการส่งเทียบเชิญอย่างเป็นทางการให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ออกมาแสดงพลังร่วมกันต่อสู้และชุมนุมใหญ่ครั้งสำคัญกับประชาชน ซึ่งจะมีการส่งสัญญาณนัดรวมพลังครั้งสุดท้าย จึงขอให้รอฟังการนัดหมายอีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลหมดทางไปแล้วและได้กดดันคุกคามการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ทำให้ประชาชนต้องออกมาปกป้อง ไม่ให้องค์กรอิสระต่างๆ ถูกรัฐบาลแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมทั้ง ได้โจมตีการเสนอข่าวสารที่ผิดพลาดของ ช่อง TNN ส่งผลให้ กปปส. ได้รับความเสียหาย และเข้าใจผิดจากสังคม
จากนั้นนายสุเทพ ได้นำมวลชน เดินเท้ากลับเวทีสวนลุมพินี โดยใช้เส้นทางกลับออกจาก กฟน. เลี้ยวขวาเข้าถนนหลังสวนมุ่งหน้าเข้าถนนพระราม 4 เพื่อกลับสวนลุมพินี

**"ปู"จะวางมือเพราะรู้ตัวอยู่ต่อไม่ได้

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศพร้อมวางมือทางการเมือง โดยไม่ยึดติดตำแหน่ง แต่ขอให้สังคมยึดกติกา เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ว่า เป็นการประกาศที่สายเกินไป คงเพราะเริ่มรู้ว่า ไม่สามารถหลุดคดีความของตัวเอง ที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ และ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงวางแผนกลเกมการเมือง เพื่อให้คณะของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังรักษาอำนาจของตัวเองต่อไปได้ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งการประกาศวางมือดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการแสดงความรับผิดชอบตามวิสัยของผู้นำที่ดีที่ควรทำ
ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรออกมายอมรับความจริงว่า ต้นตอปัญหาเกิดจากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลไม่ยึดกติกา พยายามใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยให้ทุจริต พยายามช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้รอดพ้นจากความผิดต่าง ๆ โดยใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือเข้าสู่อำนาจ
ส่วนที่ นายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ระบุ หากไม่มีการเลือกตั้งโดยเร็ว จะทำให้ประเทศเกิดกลียุคนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า แม้จะให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาเช่นกัน เพราะจะมีมวลชนที่ต้องการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งมาคัดค้านการเลือกตั้งเหมือนกับวันที่ 2 ก.พ. ถ้าจะไม่ให้เกิดกลียุค ต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย ไม่เช่นนั้นการเลือกตั้ง จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดวิกฤติบ้านเมือง

**ศอ.รส.ขู่มีเหตุร้าย ต้องเลิกชุมนุม

วานนี้ (23เม.ย.) นายธันว์ พีรวุฒิ คณะทำงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงผลการประชุม ศอ.รส. ว่า ศอ.รส.ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ความวุ่นวายระหว่างกลุ่มมวลชน กปปส. กับกลุ่ม กวป. ที่ต้องการมายื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ บริเวณศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งศอ.รส. มีความกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์นี้ เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงการเผชิญหน้ากัน ระหว่างมวลชนสองฝ่าย ตามที่ ศอ.รส. ได้ ระบุไว้ในแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ว่า จะเกิดความรุนแรงและเหตุร้ายขึ้น โดยเฉพาะการระดมจัดมวลชนให้มีการชุมนุมใหญ่ทั้งของ กปปส. และ นปช. และกลุ่มอื่นๆ ในลักษณะท้าทายและแข่งขันกัน ภายใต้เงื่อนไขสำคัญ คือ การวินิจฉัยขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ 2 องค์กร คือ คณะกรรมการป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น ศอ.รส. จึงขอเรียกร้องให้แกนนำทุกกลุ่ม ยุติการชุมนุม และไม่ปลุกระดมเรียกคนเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ เพราะจะเป็นความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดการกระทบกระทั่ง และก่อเหตุร้ายต่อกัน ซึ่งหากแกนนำยังคงฝ่าฝืน จนเกิดเหตุร้าย แกนนำทุกคนทุกกลุ่มจะต้องรับผิดชอบต่อการทำผิดกฎหมาย ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง
นายธันว์ กล่าวด้วยว่า ศอ.รส. ได้รับรายงานเกี่ยวกับการประชุมระหว่างกกต. กับผู้แทนพรรคการเมือง เพื่อหารือการกำหนดวันเลือกตั้งส.ส. ซึ่งจากการประชุมดังกล่าว ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องวันเลือกตั้ง ศอ.รส.จึงขอเรียกร้องให้กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อจะได้มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้กกต. ดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันการขัดขวางการเลือกตั้งซ้ำอีก ซึ่งศอ.รส. ยินดีให้การสนับสนุน กกต. เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากมีการร้องขอ อย่างไรก็ตาม หากมีการขัดขวางการเลือกตั้งเกิดขึ้นซ้ำอีก ผู้กระทำผิด จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
นายธันว์ กล่าวอีกว่า บทวิเคราะห์การเมืองไทย โดยเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ ระบุว่า วิกฤตทางการเมืองของไทยมาถึงขั้นอันตรายสูงสุด เมื่อกลุ่มต่อต้านนายกรัฐมนตรี ผลักดันให้เกิดรัฐประหาร โดยองค์กรตัดสิน เสี่ยงที่จะนำประเทศไปสู่เผด็จการ หรือสงครามกลางเมือง โดยศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และ กกต. กำลังนำสถานการณ์เข้าสู่จุดสำคัญของการต่อสู้ระหว่างชนชั้นนำ กับผู้ออกเสียงเลือกตั้งในชนบท ที่ดำเนินมานาน 8 ปี โดยใช้คดี ความ 2 กรณี ซึ่งมีกำหนดจะชี้ขาดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งบทวิเคราะห์นี้ สอดคล้องกับความเห็นของ ศอ.รส. ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้น ศอ.รส. โดยผู้อำนวยการ ศอ.รส. และประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. จึงขอเรียกร้องให้ทุกองค์กร และทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างตรงไปตรงมา โดยเห็นแก่ความถูกต้องและชาติบ้านเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น