วานนี้ (21 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย เพื่อวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ทางการเมือง โดยมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ภายหลังการประชุมพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ "ทางออกของประเทศ คือการเลือกตั้ง" โดยนายโภคิน พลกุล ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์ว่า
1. ความขัดแย้งในสังคมไทยขณะนี้ มีแนวโน้มไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นกลียุคได้นั้น พรรคเพื่อไทย เห็นพ้องว่ามีสาเหตุหลักมาจากความพยายามของกลุ่มบุคคล พรรคการเมืองบางพรรค ที่ไม่ต้องการระบอบประชาธิปไตย ไม่เคารพอำนาจอธิปไตย และการตัดสินใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ร่วมมือกันปฏิเสธการเลือกตั้ง ขัดขวางการเลือกตั้งทุกขั้นตอน โดยได้รับการร่วมมือจากหลายองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ในลักษณะสมคบคิดกันให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง สถาปนาตนเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ผ่านวิธีใดวิธีหนึ่งใน 3 วิธีการ คือ 1. การยึดอำนาจรัฐโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. 2. การใช้กระบวนการวุฒิสภา ที่ขัดรัฐธรรมนูญเสนอให้มีนายกฯ ที่มิได้มาจากการเลือกตั้ง 3. การขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7
2. การสมคบคิดเพื่อไปสู่ความมุ่งหมายดังกล่าว เป็นต้นเหตุสำคัญของความพินาศของชาติ เพราะเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักสากล และระบอบประชาธิปไตย ยั่วยุให้เกิดความแตกแยก เกลียดชังในหมู่ประชาชน ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
3. ทางออกจากความขัดแย้งมีเพียงวิธีเดียว คือ การเลือกตั้ง และการออกเสียงประชามติตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยไว้ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 49
4. พรรคเพื่อไทย หวังว่า การหารือระหว่าง กกต.กับพรรคการเมืองในวันที่ 22 เม.ย. จะนำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้นจะเป็นการสมประโยชน์ของทฤษฎีสมคบคิด ที่มุ่งให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง และการบริหาร จะกระทบต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ซึ่งปกติสภาผู้แทนราษฎร จะเริ่มพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ดังกล่าวในเดือนพ.ค. และเป็นกฎหมายใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค. 57 ดังนั้น การขับเคลื่อนประเทศในทุกส่วนจะติดขัดหมด ประชาชนจะเดือดร้อนอย่างหนัก
5. ศาลรัฐธรรมนูญ มิได้วินิจฉัยว่า การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 เป็นไปโดยไม่สุจริต แต่ให้เหตุผลว่า การเลือกตั้งไม่เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นช่วงที่มีความขัดแย้ง แตกแยกของชนในชาติอย่างรุนแรง มีการขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น ขอให้ฝ่ายที่ขัดขวางการเลือกตั้ง อย่าอ้างว่า ถ้ามีการเลือกตั้งแล้วจะไม่สุจริตและเที่ยงธรรม เพราะเท่ากับเป็นการดูถูกกกต.ว่า ไม่สามารถจัดเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมได้
6. พรรคเพื่อไทย ขอให้ทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความร่วมมือในทุกขั้นตอนของกระบวนการเลือกตั้ง
7. ขอให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐยืนหยัดพิทักษ์ไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใช้วิจารณญาณโดยสุจริตในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้ ขอให้ทราบว่า หากมีบุคคลใดหรือองค์กรใด การกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ทุกคนมีสิทธิต่อต้านการกระทำดังกล่าวโดยสันติวิธี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรอบการหารือที่พรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองต่างๆ จะไปหารือกับ กกต.ในวันที่ 22 เม.ย. คืออะไร นายโภคิน ตอบว่า พรรคต้องการให้ กกต.จัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ต้องการให้ กกต. เตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้ง ถ้าเกิดปัญหาติดขัดในการรับสมัคร ขอให้มีการรับสมัครในพื้นที่ปลอดภัย เช่น ค่ายทหาร หรือรับสมัครทางอินเตอร์เนต และมีมาตรการชัดเจน ดำเนินการกับกลุ่มที่ขัดขวางการเลือกตั้ง
ส่วนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เสนอให้มีจัดเลือกตั้งในวันที่ 20 ก.ค.ถือว่าเนิ่นนานเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อการจัดทำงบประมาณปี 58 ถ้า กกต.ไปห่วงว่า ต้องให้ประเทศสงบก่อ แล้วจึงจัดเลือกตั้ง ขอถามว่าแล้วทางออกที่จะให้ประเทศสงบ คืออะไร เพราะทางออกที่ให้ประเทศสงบ คือ การเลือกตั้ง ฝ่ายพรรคการเมือง ไม่ต้องการให้เกิดสุญญากาศ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. กล่าวว่า ถ้ากกต. อยากเห็นการเลือกตั้งสำเร็จได้ ในเขตกทม. และปริมณฑล เรากำลังคิดที่จะเชิญ กกต. มาเพื่อให้คำแนะนำ เพราะเรามีสิทธิ์ในหน้าที่ ศอ.รส. ซึ่งสามารถเชิญหน่วยงานภาครัฐ องค์กรอิสระต่างๆ มาได้ โดยจะให้คำแนะนำว่าจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งสำเร็จได้ เพราะเรารู้วิธี แต่ทุกครั้ง กกต.ไม่ยอมฟังเหตุผล ยึดมั่นเอาแนวคิดตัวเอง ซึ่งในวันนี้
ที่ กกต.จะหารือกับพรรคการเมือง ได้มีเสียงจากหลายฝ่ายอยากให้มีการเลือกตั้งในเดือนมิ.ย. แต่กกต.จะเอาเดือนก.ค. แล้วจะประชุมกันไปทำไมให้เสียเวลา กกต. ก็กำหนดวันไปเลย
ส่วนกรณีที่มีการประท้วง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ตามต่างจังหวัดนั้น ตนคิดว่า นายสมชัยควรจะรู้ตัวเองว่า เป็นคนพูดมาก และคำพูดที่ใช้นั้น สมควรหรือไม่ และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ถ้าตนเป็นนายสมชัย จะตบปากตัวเองให้สังคมได้เห็นเป็นการขอโทษ
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะเพื่อนๆ ส.ส.บางคนอยากลงเลือกตั้งใจจะขาด และได้โทรหาตนว่าอยากลงเลือกตั้ง แต่ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เอา ฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ต้องบอกสังคมให้ได้ว่า เป็นพรรคเก่าแก่ในระบอบประชาธิไตย กินเงินภาษีราษฎร และไม่ลงเลือกตั้ง ใช้ข้ออ้างจนฟังไม่ขึ้น และขอให้ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ หยุดขัดขวางการเลือกตั้ง
1. ความขัดแย้งในสังคมไทยขณะนี้ มีแนวโน้มไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นกลียุคได้นั้น พรรคเพื่อไทย เห็นพ้องว่ามีสาเหตุหลักมาจากความพยายามของกลุ่มบุคคล พรรคการเมืองบางพรรค ที่ไม่ต้องการระบอบประชาธิปไตย ไม่เคารพอำนาจอธิปไตย และการตัดสินใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ร่วมมือกันปฏิเสธการเลือกตั้ง ขัดขวางการเลือกตั้งทุกขั้นตอน โดยได้รับการร่วมมือจากหลายองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ในลักษณะสมคบคิดกันให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง สถาปนาตนเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ผ่านวิธีใดวิธีหนึ่งใน 3 วิธีการ คือ 1. การยึดอำนาจรัฐโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. 2. การใช้กระบวนการวุฒิสภา ที่ขัดรัฐธรรมนูญเสนอให้มีนายกฯ ที่มิได้มาจากการเลือกตั้ง 3. การขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7
2. การสมคบคิดเพื่อไปสู่ความมุ่งหมายดังกล่าว เป็นต้นเหตุสำคัญของความพินาศของชาติ เพราะเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักสากล และระบอบประชาธิปไตย ยั่วยุให้เกิดความแตกแยก เกลียดชังในหมู่ประชาชน ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
3. ทางออกจากความขัดแย้งมีเพียงวิธีเดียว คือ การเลือกตั้ง และการออกเสียงประชามติตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยไว้ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 49
4. พรรคเพื่อไทย หวังว่า การหารือระหว่าง กกต.กับพรรคการเมืองในวันที่ 22 เม.ย. จะนำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้นจะเป็นการสมประโยชน์ของทฤษฎีสมคบคิด ที่มุ่งให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง และการบริหาร จะกระทบต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ซึ่งปกติสภาผู้แทนราษฎร จะเริ่มพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ดังกล่าวในเดือนพ.ค. และเป็นกฎหมายใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค. 57 ดังนั้น การขับเคลื่อนประเทศในทุกส่วนจะติดขัดหมด ประชาชนจะเดือดร้อนอย่างหนัก
5. ศาลรัฐธรรมนูญ มิได้วินิจฉัยว่า การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 เป็นไปโดยไม่สุจริต แต่ให้เหตุผลว่า การเลือกตั้งไม่เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นช่วงที่มีความขัดแย้ง แตกแยกของชนในชาติอย่างรุนแรง มีการขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น ขอให้ฝ่ายที่ขัดขวางการเลือกตั้ง อย่าอ้างว่า ถ้ามีการเลือกตั้งแล้วจะไม่สุจริตและเที่ยงธรรม เพราะเท่ากับเป็นการดูถูกกกต.ว่า ไม่สามารถจัดเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมได้
6. พรรคเพื่อไทย ขอให้ทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความร่วมมือในทุกขั้นตอนของกระบวนการเลือกตั้ง
7. ขอให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐยืนหยัดพิทักษ์ไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใช้วิจารณญาณโดยสุจริตในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้ ขอให้ทราบว่า หากมีบุคคลใดหรือองค์กรใด การกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ทุกคนมีสิทธิต่อต้านการกระทำดังกล่าวโดยสันติวิธี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรอบการหารือที่พรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองต่างๆ จะไปหารือกับ กกต.ในวันที่ 22 เม.ย. คืออะไร นายโภคิน ตอบว่า พรรคต้องการให้ กกต.จัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ต้องการให้ กกต. เตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้ง ถ้าเกิดปัญหาติดขัดในการรับสมัคร ขอให้มีการรับสมัครในพื้นที่ปลอดภัย เช่น ค่ายทหาร หรือรับสมัครทางอินเตอร์เนต และมีมาตรการชัดเจน ดำเนินการกับกลุ่มที่ขัดขวางการเลือกตั้ง
ส่วนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เสนอให้มีจัดเลือกตั้งในวันที่ 20 ก.ค.ถือว่าเนิ่นนานเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อการจัดทำงบประมาณปี 58 ถ้า กกต.ไปห่วงว่า ต้องให้ประเทศสงบก่อ แล้วจึงจัดเลือกตั้ง ขอถามว่าแล้วทางออกที่จะให้ประเทศสงบ คืออะไร เพราะทางออกที่ให้ประเทศสงบ คือ การเลือกตั้ง ฝ่ายพรรคการเมือง ไม่ต้องการให้เกิดสุญญากาศ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. กล่าวว่า ถ้ากกต. อยากเห็นการเลือกตั้งสำเร็จได้ ในเขตกทม. และปริมณฑล เรากำลังคิดที่จะเชิญ กกต. มาเพื่อให้คำแนะนำ เพราะเรามีสิทธิ์ในหน้าที่ ศอ.รส. ซึ่งสามารถเชิญหน่วยงานภาครัฐ องค์กรอิสระต่างๆ มาได้ โดยจะให้คำแนะนำว่าจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งสำเร็จได้ เพราะเรารู้วิธี แต่ทุกครั้ง กกต.ไม่ยอมฟังเหตุผล ยึดมั่นเอาแนวคิดตัวเอง ซึ่งในวันนี้
ที่ กกต.จะหารือกับพรรคการเมือง ได้มีเสียงจากหลายฝ่ายอยากให้มีการเลือกตั้งในเดือนมิ.ย. แต่กกต.จะเอาเดือนก.ค. แล้วจะประชุมกันไปทำไมให้เสียเวลา กกต. ก็กำหนดวันไปเลย
ส่วนกรณีที่มีการประท้วง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ตามต่างจังหวัดนั้น ตนคิดว่า นายสมชัยควรจะรู้ตัวเองว่า เป็นคนพูดมาก และคำพูดที่ใช้นั้น สมควรหรือไม่ และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ถ้าตนเป็นนายสมชัย จะตบปากตัวเองให้สังคมได้เห็นเป็นการขอโทษ
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะเพื่อนๆ ส.ส.บางคนอยากลงเลือกตั้งใจจะขาด และได้โทรหาตนว่าอยากลงเลือกตั้ง แต่ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เอา ฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ต้องบอกสังคมให้ได้ว่า เป็นพรรคเก่าแก่ในระบอบประชาธิไตย กินเงินภาษีราษฎร และไม่ลงเลือกตั้ง ใช้ข้ออ้างจนฟังไม่ขึ้น และขอให้ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ หยุดขัดขวางการเลือกตั้ง