พักเล่นน้ำก่อนศึกยกสุดท้าย

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

เทศกาลสงกรานต์ปีนี้อากาศร้อนจัด เป็นช่วงเวลาของการพักรบระหว่างฝ่ายรณรงค์หนักหวังล้มรัฐบาลนางโพยปูโพรกเน่าใน และฝ่ายเครือข่ายขี้ข้าบักเหลี่ยม ซึ่งมีอาชญากรทุกระดับไว้รับใช้พรรคการเมืองกุมอำนาจรัฐขณะนี้

หลังจากกำนันสุเทพยกกองทัพนกหวีดออกมารุกใหญ่ ผลัดกันได้เปรียบเสียเปรียบ ชาวบ้านเสียชีวิต 21 ราย บาดเจ็บกว่า 700 ราย ยังไม่มีใครแพ้ชนะ ศึกชิงเมืองยืดเยื้อนานกว่า 5 เดือน จนเข้าสู่โค้งสุดท้ายใกล้วันปิดเกมโอเวอร์

เห็นได้ชัดว่าระยะหลังบักเหลี่ยมพลาดท่าในจังหวะการก้าวย่าง ความเหิมเกริม กล้าโกงกินคำโต ทรยศชาวนา ฐานคะแนนเสียงระดับรากหญ้าชนบท ทำให้ผู้สนับสนุนหลีกลี้หนีหน้า แปรสภาพพวกเดียวกันให้เป็นเจ้าหนี้

ชาวนาหลายหมื่นคนต้องผลัดกันเข้ากรุงมาทวงเงินรับจำนำข้าว รัฐบาลอาชญากรได้พยายามยื้อ ซื้อเวลา กุมอำนาจรัฐให้นานที่สุด หวังพลิกแต้มต่อ แต่โดยสภาพแล้ว เมื่อสิ้นเงินก็สิ้นคนรัก เกรงใจ ชาวนาจึงทวงหนี้หนักหน่วง

แม่นางโพยเองก็ดวงตก กรรมไล่ตามทัน รอวันโดนบี้โดย ปปช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ ตัวเองจะตกเก้าอี้ แถมยังเสี่ยงต่อคดีอาญาร้ายแรงติดคุกยาวนาน

ขี้ข้า ขี้ครอก อาชญากรหลากสายพันธุ์สวมหัวโขนชูคอเป็นเสนาบดีกำมะลอรับใช้องค์กรอาชญากรรมคุมโดยบักเหลี่ยมยังตีสีหน้าระรื่น ปากกล้า แต่พยายามซ่อนอาการขาสั่น เหมือนรู้ชะตากรรมว่าต้องนับถอยหลังอำลาแล้ว

พวกขี้ข้าม้าใช้ปลายแถวยังไม่รู้ว่าจะจบได้สวย มีเวลาให้หนีเอาตัวรอดทันหรือไม่ พวกแกนนำแนวหน้าได้โอกาสสะสมความมั่งคั่งจากภารกิจสู้แล้วรวยยังพอมีลู่ทางหนีคุก หนีตายไปอยู่ต่างแดนตั้งรกรากหนีคดีร้ายแรงได้

พวกขี้ข้าระดับกระจอกไม่มีทางให้เลือกมากนัก อาจหลบตามชายขอบ เขตแดนประเทศ เมื่อไม่มีเงิน ไม่มีใครอยากต้อนรับ จะหวังให้บักฮุนเซนอ้าแขนรับอย่างแดงเดนแผ่นดินรุ่นก่อน คงยากเมื่อบักเหลี่ยมไปทำแสบไว้มาก

เสียงร่ำลือว่าบักเหลี่ยมไปเม้ม หรือทำอะไรให้บักฮุนเซนสูญเสียลาภก้อนใหญ่ จึงเกิดสภาวะปีนเกลียว ความสัมพันธ์ร้าวฉานหนัก ส่งผลกระทบให้แผนการเมืองต้องติดขัด ญาติพี่น้องหวังลี้ภัยในกัมพูชาจำต้องเสี่ยงด้วยเช่นกัน

สงกรานต์ปีนี้บักเหลี่ยมเรียกพวกขี้ข้าไปรับแผนชั่วร้ายที่ฮ่องกง ถือว่าร่วมชะตากรรมเดียวกัน ถ้านางปูโพรกถูกเด็ดขาโดยศาลรัฐธรรมนูญ มีอันเป็นไป เท่ากับว่าอาณาจักรกังฉิน เครือข่ายอาชญากรโดนเช็คบิลโหดแน่นอน

การไปฮ่องกงถือว่าหนีอากาศร้อน เตรียมแผนปฏิบัติการหลังสงกรานต์ ซึ่งเชื่อกันว่าศาลรัฐธรรมนูญจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ไม่หวั่นกับคำขู่ของขี้ข้าบักเหลี่ยม หรือพวกนางโพยที่ไม่ยอมรับคำพิพากษา

บักเหลี่ยมน่าจะรู้ว่าเงินทองทุ่มเทไปเพื่อรักษารัฐบาลนางโพยหรือค่ำฐานการเมืองไม่ง่ายนักเมื่อชาวบ้านรากหญ้าตาสว่าง ไม่ยอมเป็นเหยื่ออีกต่อไป ก่อนหน้านี้เงินหว่านซื้อใจมวลชนโดนแกนนำอม เหลือเศษให้ชาวบ้าน

เครือข่ายบักเหลี่ยมต้องสูญเสียสมุนหลักนักล้มเจ้า เช่น “ตั้ง อาชีวะ” และ “โกตี๋ เรดการ์ด” ซึ่งหลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เพราะปากไม่ดี ประกาศหมิ่นสถาบัน แต่หนักข้อกว่าเก่า คิดล้มล้างอย่างเป็นระบบนั่นเลย

กำนันสุเทพประกาศปิดเกม ขี้ข้าบักเหลี่ยมอ้างว่าจะระดมมวลชนมาเป็นล้านๆ ถ้าเกิดประจันหน้ากันก็พร้อมแลกเลือดและชีวิตเพื่อนางโพยได้อยู่ แต่จะมีคนมามากอีกหรือไม่ ช่วงการชุมนุมที่ถนนอักษะน่าจะเป็นตัวชี้วัด

ชนเผ่าเสื้อแดงถึงคราวเผชิญความเสื่อม ความตกต่ำสุดขีด!

ไม้ตายสุดท้ายของบักเหลี่ยมคือ ต้องพร้อมแลก การต่อสู้ต้องให้สุดซอย ใช้กองกำลังเถื่อนป่วนกรุง ทำร้ายคนดี ไม่ให้ชีวิตเป็นปกติสุข เจ๊งเป็นเจ๊ง! แกนนำเสื้อแดงแสดงความฮึกเหิม พร้อมกับขอเบิกงบต่อสู้ก้อนใหญ่

คงบอกว่า “คราวที่แล้วท่านไม่จ่ายหนัก ทำให้คนมาชุมนุมบนถนนอักษะน้อยเกินคาด จากที่หวังไว้ 5 แสน กลายเป็นเพียงหมื่นห้าเท่านั้น”

นับเป็นจังหวะไม่เหมาะสำหรับการรุกเพื่อการคงอยู่ของขบวนการบักเหลี่ยม เพราะกองพล 1 เพิ่งได้นายใหม่คือ “ผู้การแดง” ซึ่งมีความหลังฝังลึกคาใจกับแกนนำชนเผ่าเสื้อแดงยุคการศึกทุ่งหน้าอาคารไทยคมปี 2553 โน่น

กำนันสุเทพบอกว่า ถ้าชนเผ่าเสื้อแดงมาท้าตีท้าต่อย ตัวเองจะพามวลมหาประชาชนกลับไปนอนบ้าน ปล่อยให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองรับมือแทน ชาวบ้านทั่วไปก็เดายากว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขอเวลาสนุกกับสงกรานต์ก่อน

จากนั้นอะไรจะเกิดก็พร้อมรับ ดีกว่าปล่อยให้การศึกยืดเยื้อ เศรษฐกิจเสียหายทุกแนว นั่นหมายความว่านางสงกรานต์ นางโคราคะเทวีจะโชว์พลังหรือกระหายเลือดมากหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความโหดของพวกขี้ข้าบักเหลี่ยม

ท่าทีของข้าราชการจะเป็นตัวชี้ให้เห็นว่ากำนันสุเทพมีโอกาสชนะใสหรือไม่ ที่ผ่านมาถือว่าการตอบรับไม่เลวนัก เพราะข้าราชการรู้เห็นเป็นใจไม่น้อย ทำให้ขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมหวั่นไหว ต้องเรียกไปติวหลังสงกรานต์

บักปึ้งหัวเหม่งรับงานกำราบ แต่ดูแนวโน้มแล้วน่าจะเอาไม่อยู่! นางโพยน่าจะหาทางหนีก่อนจะโดนปิดเส้นทางโพยคดีอาญา โดนยึดทรัพย์สิน นั่นเท่ากับว่าตระกูลเหลี่ยมพ่ายศึกชิงเมือง ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศจนวันตาย