"ยิ่งลักษณ์" กำชับดูแลความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สั่งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มข้น ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขระดมแพทย์-พยาบาล รับมืออุบัติเหตุทั่วประเทศ ด้านศิลปินแห่งชาติฝากคนไทยอนุรักษ์รากเหง้าประเพณีสงกรานต์
วานนี้ (10 เม.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ร่วมกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้มอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงคมนาคม (คค.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นหน่วยงานหลักดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์
พร้อมกันนี้ ได้กำชับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทางจังหวัดและท้องถิ่น เตรียมการ และจัดระเบียบต่างๆ ในการเล่นน้ำ โดยเน้นทางถนน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และเป็นการสร้างความปลอดภัย รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมที่ดีของไทย
"รัฐบาลมีความห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ดังนั้น เพื่อให้การบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนช่วงควบคุมอย่างเข้มข้น ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2557 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริการด้านสุขอนามัย โดยเฉพาะห้องสุขา และกำหนดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ (Zoning) ที่ปลอดจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน" นายกรัฐมนตรี ระบุ
*** สตช.ระดมกำลังดูแลจราจรช่วงสงกรานต์
วานนี้ (10 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.หญิงวิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยบูรณาการการทำงาน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด โดยใช้ศูนย์ปฏิบัติการทุกระดับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการการทำงานร่วมกัน พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ทั้งถนนสายหลัก สายรอง และทางเลี่ยง เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย และดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เน้นการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตั้งเป้าลดจำนวนอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ ให้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยจะมีการระดมกำลังตำรวจ 90,669 นาย ในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ด้วยการจัดกำลังตามจุดเสี่ยง 2,380 จุด จุดตรวจ 5,242 จุด จุดบริการประชาชน 2,866 จุดชุดเคลื่อนที่เร็ว 1,846 ชุด และชุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,468 ชุด
***บช.น พร้อมรับมือเทศกาลสงกรานต์
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. กล่าวว่า บช.น.ได้เตรียมความพร้อมและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลสงกรานต์2557 ในหัวข้อ"ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สงกรานต์ทั่วไทย ไร้อุบัติเหตุ" และในวันที่ 11-17 เม.ย. 57 จะกำหนดเป็นวันเป็นวันแห่งความปลอดภัย ซึ่งในทุกๆปีจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดต่างๆ
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ทางบช.น ได้จัดจุดป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความสงบสุขของพี่น้อง รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร จึงกำหนดแผนการปฏิบัติคือ 1.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยจะระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกวาดล้างอาชญากรรม เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 57 ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเน้นการตรวจตราในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุ การป้องกันเหตุ เช่น ร้านทอง, ธนาคาร, หมู่บ้านจัดสรร, ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น และ2.ควบคุมดูแลการจราจร ทางบช.น ได้กำหนดมาตราการในการอำนวยความสะดวกของประชาชน ที่เดินทางเข้า-ออก กทม.โดยการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตามสถานีขนส่งทุกแห่ง ทั้งนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ บริเวณที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์แล้ว 30 แห่ง โดยเฉพาะจุดที่คาดว่าจะมีการจราจรหนาแน่น และกำหนดให้เดือนเมษายน 2557 เป็นเดือนแห่งการเมาไม่ขับ และจัดตั้งจุดตรวจแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้นทั่วกทม.
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้สถานีตำรวจทั่วกทม.จับกุมการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522ฯ โดยเน้นรถกระบะที่มีการสาดน้ำ ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนหรือผู้ที่สัญจรไปมา ทั้งนี้ทางบช.น ได้จัดจุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 18 จุด ซึ่งได้มอบหมายให้บก.น.1-9 กำหนดจุดเสี่ยง พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจอย่างเคร่งครัด และหากต้องการสอบถามเส้นทางการจราจร สามารถติดต่อที่หมายเลข 1197
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (10เม.ย.) ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) ได้จัดพิธีปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรรับเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และในวันที่ 11เม.ย.57 พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.) และคณะ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจทางหลวง จังหวัดสระบุรี
***สธ.ระดมแพทย์-พยาบาล รับมืออุบัติเหตุ
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 11 -17 เม.ย.นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ให้หน่วยงานในสังกัดทุกจังหวัด วางมาตรการความพร้อมไว้ 3 ระบบ ได้แก่ 1.การจัดบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ทุกระดับ มีทีมและรถพยาบาลฉุกเฉิน พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ประมาณ 14,000 ทีม ประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน โทรขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลข 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง หลังรับแจ้ง ทีมแพทย์กู้ชีพ สามารถออกเดินทางถึงที่เกิดเหตุภายใน 10 นาที เพื่อปฏิบัติการดูแลช่วยชีวิตแบบมืออาชีพ และนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ อย่างปลอดภัยที่สุด
2.ให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศ ซึ่งมี 855 แห่ง จัดแพทย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุ ประจำการห้องฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมแพทย์เชี่ยวชาญการผ่าตัดทุกสาขา พยาบาล เจ้าหน้าที่อื่นๆ รวมกว่า 160,000 คน สำรองเตียงผู้ป่วย ห้องไอซียู เครื่องช่วยหายใจ ห้องผ่าตัด คลังเลือดทุกหมู่ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่
3.มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรวจเตือน และขอความร่วมมือร้านค้าทุกประเภทให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และระดมพลังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.กว่า 1 ล้านคน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งด่านสกัดคนเมาในหมู่บ้าน เป็นต้น
*** ศิลปินแห่งชาติฝากอนุรักษ์รากเหง้า
ด้านศูนย์วัฒนธรรมแห่งวประเทศไทย มีพิธีจัดงานสืบสานประเพณีไทยสงกรานต์ ประจำปี 2557 โดยมีกิจกรรมรดน้ำดำหัวขอพรศิลปินแห่งชาติ และผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการสืบสานคุณค่าวัฒนธรรมไทย โดยมีศิลปินแห่งชาติเข้าร่วมงานกว่า 30 คน นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่างเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสประเพณีวันขึ้นปีใหม่ไทย จึงขอเชิญชวนคนไทยให้ร่วมกับตระหนักและเห็นคุณค่าของกิจกรรมที่ดีในวาระขึ้นปีใหม่ไทย เพื่อเป็นโอกาสอันดีในการเริ่มต้นการทำสิ่งดีๆในชีวิต ซึ่งการรดน้ำดำหัว หรือ ขอพรผู้ใหญ่ ถือเป็นการแสดงออกทางความรัก ความผูกพัน และ ความกตัญญูกตเวที ต่อผู้มีพระคุณ ซึ่งการที่สวธ. จัดกิจกรรมรดน้ำดำหัวศิลปินแห่งชาติขึ้น ก็เพื่อที่จะเป็นต้นแบบการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันสืบสานประเพณีอันดีงามที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาอย่างยาวนานนี้ไว้ ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลขึ้นกับชีวิตตนเอง
นายสุประวัติ ปัทมสูต ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง กล่าวว่า แม้ว่า ประเทศอื่นๆ อย่าง สิงคโปร์ จะนำประเพณีสงกรานต์ของเราไปจัด ก็ไม่สามารถนำเอกลักษณ์ที่ดีของความเป็นไทยไปได้ เพราะเค้าไม่มีรากเหง้าของประเพณี จึงขอฝากคนไทยทุกคนให้ช่วยผดุงอนุรักษ์ประเพณีวันสงกรานต์ ทั้งการรดน้ำดำหัว การขอพรผู้ใหญ่ และการเล่นน้ำอย่างสุภาพ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี และไม่ควรคิดว่าการเล่นน้ำสงกรานต์เป็นเพียงความสนุกสนาน หรือเป็นการแสดงความห้าวหาญของวัยรุ่นหนุ่มสาวเท่านั้น แต่จะต้องคำนึงถึงอัตลักษณ์คุณค่าความเป็นไทยไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ช่าวต่างชาตินำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควร และยังจะเป็นการทำลายวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง
**นครเชียงใหม่ห้ามขายปืนแรงดันสูง
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ออกตรวจร้านจำหน่ายปืนฉีดน้ำและอุปกรณ์เล่นน้ำสงกรานต์ ย่านตลาดวโรรส โดยห้ามจำหน่ายปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และอุปกรณ์เล่นน้ำที่อาจจะเป็นอันตราย ซึ่งร้านค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่นำสินค้าต้องห้ามมาจำหน่าย
นายทัศนัย กล่าวว่า เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่จะมาเล่นสงกรานต์ว่าจะมีความปลอดภัย ไม่ได้รับอันตรายจากอุปกรณ์ต้องห้าม ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจตราอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดสงกรานต์ หากพบลักลอบจำหน่ายหรือนำมาเล่น จะจับกุมและดำเนินคดีทันที เพราะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ขณะเดียวกันขอความร่วมมือให้เล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสุภาพ สืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามด้วย
วานนี้ (10 เม.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ร่วมกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้มอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงคมนาคม (คค.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นหน่วยงานหลักดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์
พร้อมกันนี้ ได้กำชับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทางจังหวัดและท้องถิ่น เตรียมการ และจัดระเบียบต่างๆ ในการเล่นน้ำ โดยเน้นทางถนน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และเป็นการสร้างความปลอดภัย รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมที่ดีของไทย
"รัฐบาลมีความห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ดังนั้น เพื่อให้การบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนช่วงควบคุมอย่างเข้มข้น ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2557 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริการด้านสุขอนามัย โดยเฉพาะห้องสุขา และกำหนดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ (Zoning) ที่ปลอดจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน" นายกรัฐมนตรี ระบุ
*** สตช.ระดมกำลังดูแลจราจรช่วงสงกรานต์
วานนี้ (10 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.หญิงวิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยบูรณาการการทำงาน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด โดยใช้ศูนย์ปฏิบัติการทุกระดับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการการทำงานร่วมกัน พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ทั้งถนนสายหลัก สายรอง และทางเลี่ยง เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย และดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เน้นการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตั้งเป้าลดจำนวนอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ ให้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยจะมีการระดมกำลังตำรวจ 90,669 นาย ในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ด้วยการจัดกำลังตามจุดเสี่ยง 2,380 จุด จุดตรวจ 5,242 จุด จุดบริการประชาชน 2,866 จุดชุดเคลื่อนที่เร็ว 1,846 ชุด และชุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,468 ชุด
***บช.น พร้อมรับมือเทศกาลสงกรานต์
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. กล่าวว่า บช.น.ได้เตรียมความพร้อมและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลสงกรานต์2557 ในหัวข้อ"ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สงกรานต์ทั่วไทย ไร้อุบัติเหตุ" และในวันที่ 11-17 เม.ย. 57 จะกำหนดเป็นวันเป็นวันแห่งความปลอดภัย ซึ่งในทุกๆปีจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดต่างๆ
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ทางบช.น ได้จัดจุดป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความสงบสุขของพี่น้อง รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร จึงกำหนดแผนการปฏิบัติคือ 1.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยจะระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกวาดล้างอาชญากรรม เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 57 ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเน้นการตรวจตราในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุ การป้องกันเหตุ เช่น ร้านทอง, ธนาคาร, หมู่บ้านจัดสรร, ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น และ2.ควบคุมดูแลการจราจร ทางบช.น ได้กำหนดมาตราการในการอำนวยความสะดวกของประชาชน ที่เดินทางเข้า-ออก กทม.โดยการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตามสถานีขนส่งทุกแห่ง ทั้งนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ บริเวณที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์แล้ว 30 แห่ง โดยเฉพาะจุดที่คาดว่าจะมีการจราจรหนาแน่น และกำหนดให้เดือนเมษายน 2557 เป็นเดือนแห่งการเมาไม่ขับ และจัดตั้งจุดตรวจแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้นทั่วกทม.
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้สถานีตำรวจทั่วกทม.จับกุมการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522ฯ โดยเน้นรถกระบะที่มีการสาดน้ำ ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนหรือผู้ที่สัญจรไปมา ทั้งนี้ทางบช.น ได้จัดจุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 18 จุด ซึ่งได้มอบหมายให้บก.น.1-9 กำหนดจุดเสี่ยง พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจอย่างเคร่งครัด และหากต้องการสอบถามเส้นทางการจราจร สามารถติดต่อที่หมายเลข 1197
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (10เม.ย.) ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) ได้จัดพิธีปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรรับเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และในวันที่ 11เม.ย.57 พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.) และคณะ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจทางหลวง จังหวัดสระบุรี
***สธ.ระดมแพทย์-พยาบาล รับมืออุบัติเหตุ
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 11 -17 เม.ย.นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ให้หน่วยงานในสังกัดทุกจังหวัด วางมาตรการความพร้อมไว้ 3 ระบบ ได้แก่ 1.การจัดบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ทุกระดับ มีทีมและรถพยาบาลฉุกเฉิน พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ประมาณ 14,000 ทีม ประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน โทรขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลข 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง หลังรับแจ้ง ทีมแพทย์กู้ชีพ สามารถออกเดินทางถึงที่เกิดเหตุภายใน 10 นาที เพื่อปฏิบัติการดูแลช่วยชีวิตแบบมืออาชีพ และนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ อย่างปลอดภัยที่สุด
2.ให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศ ซึ่งมี 855 แห่ง จัดแพทย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุ ประจำการห้องฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมแพทย์เชี่ยวชาญการผ่าตัดทุกสาขา พยาบาล เจ้าหน้าที่อื่นๆ รวมกว่า 160,000 คน สำรองเตียงผู้ป่วย ห้องไอซียู เครื่องช่วยหายใจ ห้องผ่าตัด คลังเลือดทุกหมู่ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่
3.มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรวจเตือน และขอความร่วมมือร้านค้าทุกประเภทให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และระดมพลังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.กว่า 1 ล้านคน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งด่านสกัดคนเมาในหมู่บ้าน เป็นต้น
*** ศิลปินแห่งชาติฝากอนุรักษ์รากเหง้า
ด้านศูนย์วัฒนธรรมแห่งวประเทศไทย มีพิธีจัดงานสืบสานประเพณีไทยสงกรานต์ ประจำปี 2557 โดยมีกิจกรรมรดน้ำดำหัวขอพรศิลปินแห่งชาติ และผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการสืบสานคุณค่าวัฒนธรรมไทย โดยมีศิลปินแห่งชาติเข้าร่วมงานกว่า 30 คน นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่างเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสประเพณีวันขึ้นปีใหม่ไทย จึงขอเชิญชวนคนไทยให้ร่วมกับตระหนักและเห็นคุณค่าของกิจกรรมที่ดีในวาระขึ้นปีใหม่ไทย เพื่อเป็นโอกาสอันดีในการเริ่มต้นการทำสิ่งดีๆในชีวิต ซึ่งการรดน้ำดำหัว หรือ ขอพรผู้ใหญ่ ถือเป็นการแสดงออกทางความรัก ความผูกพัน และ ความกตัญญูกตเวที ต่อผู้มีพระคุณ ซึ่งการที่สวธ. จัดกิจกรรมรดน้ำดำหัวศิลปินแห่งชาติขึ้น ก็เพื่อที่จะเป็นต้นแบบการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันสืบสานประเพณีอันดีงามที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาอย่างยาวนานนี้ไว้ ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลขึ้นกับชีวิตตนเอง
นายสุประวัติ ปัทมสูต ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง กล่าวว่า แม้ว่า ประเทศอื่นๆ อย่าง สิงคโปร์ จะนำประเพณีสงกรานต์ของเราไปจัด ก็ไม่สามารถนำเอกลักษณ์ที่ดีของความเป็นไทยไปได้ เพราะเค้าไม่มีรากเหง้าของประเพณี จึงขอฝากคนไทยทุกคนให้ช่วยผดุงอนุรักษ์ประเพณีวันสงกรานต์ ทั้งการรดน้ำดำหัว การขอพรผู้ใหญ่ และการเล่นน้ำอย่างสุภาพ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี และไม่ควรคิดว่าการเล่นน้ำสงกรานต์เป็นเพียงความสนุกสนาน หรือเป็นการแสดงความห้าวหาญของวัยรุ่นหนุ่มสาวเท่านั้น แต่จะต้องคำนึงถึงอัตลักษณ์คุณค่าความเป็นไทยไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ช่าวต่างชาตินำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควร และยังจะเป็นการทำลายวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง
**นครเชียงใหม่ห้ามขายปืนแรงดันสูง
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ออกตรวจร้านจำหน่ายปืนฉีดน้ำและอุปกรณ์เล่นน้ำสงกรานต์ ย่านตลาดวโรรส โดยห้ามจำหน่ายปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และอุปกรณ์เล่นน้ำที่อาจจะเป็นอันตราย ซึ่งร้านค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่นำสินค้าต้องห้ามมาจำหน่าย
นายทัศนัย กล่าวว่า เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่จะมาเล่นสงกรานต์ว่าจะมีความปลอดภัย ไม่ได้รับอันตรายจากอุปกรณ์ต้องห้าม ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจตราอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดสงกรานต์ หากพบลักลอบจำหน่ายหรือนำมาเล่น จะจับกุมและดำเนินคดีทันที เพราะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ขณะเดียวกันขอความร่วมมือให้เล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสุภาพ สืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามด้วย
