ASTVผู้จัดการรายวัน - ตลาดคอนเสิร์ตหวังฟื้นตัวครึ่งปีหลังพร้อมกลับมาโต10%เท่าปีก่อนหลังไตรมาสแรกสะดุดเกมการเมืองเลื่อน-ยกเลิกจัดงานไปกว่า50งาน “ไทยทิคเก็ตฯ”หนักใจเล็ง ปรับเป้ารายได้ทรงตัวเท่าปีก่อน
นายคมกริช ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคอนเสิร์ตในปี 2557 นี้เชื่อว่าถึงสิ้นปีน่าจะยังเติบโตได้ 10% เท่าปีก่อน โดยจะมาจากคอนเสิร์ตไทย 70% และต่างประเทศ 30% ภายใต้สถานการณ์ปกติหรือไม่มีเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้น แม้ว่าในช่วงต.ค.56 จนถึงปัจจุบันจะพบว่าการชุมนุมของกลุ่มกปปส.จะทำให้ตลาดคอนเสิร์ตกระทบบ้าง แต่ก็เฉพาะคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นในใจกลางเมืองกรุงเทพฯเท่านั้นอย่าง สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ในต่างจังหวัดยังดีอยู่
“ตั้งแต่เดือนต.ค.56-มี.ค.57 พบว่ามีการเลื่อนและยกเลิกจัดคอนเสิร์ตไปกว่า 50 งานและเป็นการยกเลิกแบบไม่มีกำหนดถึง 25 งาน จากปกติช่วงไตรมาสหนึ่งจะเป็นช่วงที่มีการจัดคอนเสิร์ตไม่มากนักหรือมีการจัดงานคอนเสิร์ตทั่วประเทศราว 100 งานเท่านั้น พบว่าขณะนี้เหลืออยู่เพียง 50 งานเท่านั้น ซึ่งในต่างจังหวัดยังดีอยู่แต่ในกรุงเทพฯหายไปกว่า 50% โดยเฉพาะคอนเสิร์ตต่างประเทศเช่น “อีริค แคปตัน” ที่ยกเลิกไปเลยเนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์การเมืองของไทยแต่คอนเสิร์ตไทยยังพร้อมจัดขึ้นแต่จะเลื่อนไปจัดหลังไตรมาสสองถึงสามแทน”
ดังนั้นภาพรวมตลาดคอนเสิร์ตเชื่อว่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้หลังเดือนเม.ย.นี้ เป็นต้นไปและครึ่งปีหลังจะมีการจัดคอนเสิร์ตขึ้นแบบติดๆกันหลายงานทำให้เกิด ปัญหาพื้นที่จัดงานค่อนข้างเต็มตามมารวมถึงปัญหาด้านกำลังซื้อถึงแม้ว่าจะ เริ่มเห็นกำลังซื้อหันมาซื้อบัตรชมคอนเสิร์ตมากขึ้นบ้างแล้วในช่วงนี้ แต่ในครึ่งปีหลังที่จะมีหลายคอนเสิร์ตอาจจะทำให้ผู้ชมมีกำลังซื้อไม่เพียงพอที่จะสามารถซื้อบัตรชมคอนเสิร์ตได้ทุกคอนเสิร์ตที่ต้องการได้
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้จัดงาน บีอีซี-เทโร ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่รายหนึ่งในการจัดงานคอนเสิร์ต-อี เวนต์ ทั้งแบบจัดขึ้นเองและนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งในช่วงไตรมาสหนึ่งนี้จะไม่ค่อยมีงานมากนัก แต่ครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะมีการจัดงานขึ้นมาอีกหลายงานภายใต้การปรับแผนการจัดงานปีนี้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยรวมแล้วบีอีซี-เทโร น่าจะมีการจัดงานคอนเสิร์ต-อีเวนต์มากกว่าปีที่ผ่านม าส่วนหนึ่งมาจากบีอีซี-เทโรได้ควบรวมกับโซนี่ มิวสิคไทย เข้ามาเมื่อปีก่อน ขณะที่งานอีเวนต์จากต่างประเทศยังเป็นไปตามแผนเดิมเช่น คอนเสิร์ตของ “บลูโนมาร์” ที่จัดขึ้นวันที่ 20 มี.ค.นี้รวมถึง ดิสนีย์ ออนไอซ์ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 27-30 มี.ค.นี้ด้วยเช่นกัน
นายคมกริช กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมรายได้ของไทยทิคเก็ตเมเจอร์นั้นขึ้นอยู่กับ สถานการณ์ของตลาดคอนเสิร์ตเป็นหลักเนื่องจากรายได้หลักของบริษัทมาจากการ จำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆหากปีนั้นมีการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์น้อยรายได้ก็จะลดลงตาม โดยภาพรวมของปีนี้เดิมบริษัทตั้งเป้าเติบโต 10%
แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาคงต้องมีการปรับเป้ารายได้ กันใหม่โดยอาจจะวางไว้แค่ทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมาที่ปิดไป 250 ล้านบาท
นายคมกริช ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคอนเสิร์ตในปี 2557 นี้เชื่อว่าถึงสิ้นปีน่าจะยังเติบโตได้ 10% เท่าปีก่อน โดยจะมาจากคอนเสิร์ตไทย 70% และต่างประเทศ 30% ภายใต้สถานการณ์ปกติหรือไม่มีเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้น แม้ว่าในช่วงต.ค.56 จนถึงปัจจุบันจะพบว่าการชุมนุมของกลุ่มกปปส.จะทำให้ตลาดคอนเสิร์ตกระทบบ้าง แต่ก็เฉพาะคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นในใจกลางเมืองกรุงเทพฯเท่านั้นอย่าง สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ในต่างจังหวัดยังดีอยู่
“ตั้งแต่เดือนต.ค.56-มี.ค.57 พบว่ามีการเลื่อนและยกเลิกจัดคอนเสิร์ตไปกว่า 50 งานและเป็นการยกเลิกแบบไม่มีกำหนดถึง 25 งาน จากปกติช่วงไตรมาสหนึ่งจะเป็นช่วงที่มีการจัดคอนเสิร์ตไม่มากนักหรือมีการจัดงานคอนเสิร์ตทั่วประเทศราว 100 งานเท่านั้น พบว่าขณะนี้เหลืออยู่เพียง 50 งานเท่านั้น ซึ่งในต่างจังหวัดยังดีอยู่แต่ในกรุงเทพฯหายไปกว่า 50% โดยเฉพาะคอนเสิร์ตต่างประเทศเช่น “อีริค แคปตัน” ที่ยกเลิกไปเลยเนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์การเมืองของไทยแต่คอนเสิร์ตไทยยังพร้อมจัดขึ้นแต่จะเลื่อนไปจัดหลังไตรมาสสองถึงสามแทน”
ดังนั้นภาพรวมตลาดคอนเสิร์ตเชื่อว่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้หลังเดือนเม.ย.นี้ เป็นต้นไปและครึ่งปีหลังจะมีการจัดคอนเสิร์ตขึ้นแบบติดๆกันหลายงานทำให้เกิด ปัญหาพื้นที่จัดงานค่อนข้างเต็มตามมารวมถึงปัญหาด้านกำลังซื้อถึงแม้ว่าจะ เริ่มเห็นกำลังซื้อหันมาซื้อบัตรชมคอนเสิร์ตมากขึ้นบ้างแล้วในช่วงนี้ แต่ในครึ่งปีหลังที่จะมีหลายคอนเสิร์ตอาจจะทำให้ผู้ชมมีกำลังซื้อไม่เพียงพอที่จะสามารถซื้อบัตรชมคอนเสิร์ตได้ทุกคอนเสิร์ตที่ต้องการได้
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้จัดงาน บีอีซี-เทโร ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่รายหนึ่งในการจัดงานคอนเสิร์ต-อี เวนต์ ทั้งแบบจัดขึ้นเองและนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งในช่วงไตรมาสหนึ่งนี้จะไม่ค่อยมีงานมากนัก แต่ครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะมีการจัดงานขึ้นมาอีกหลายงานภายใต้การปรับแผนการจัดงานปีนี้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยรวมแล้วบีอีซี-เทโร น่าจะมีการจัดงานคอนเสิร์ต-อีเวนต์มากกว่าปีที่ผ่านม าส่วนหนึ่งมาจากบีอีซี-เทโรได้ควบรวมกับโซนี่ มิวสิคไทย เข้ามาเมื่อปีก่อน ขณะที่งานอีเวนต์จากต่างประเทศยังเป็นไปตามแผนเดิมเช่น คอนเสิร์ตของ “บลูโนมาร์” ที่จัดขึ้นวันที่ 20 มี.ค.นี้รวมถึง ดิสนีย์ ออนไอซ์ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 27-30 มี.ค.นี้ด้วยเช่นกัน
นายคมกริช กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมรายได้ของไทยทิคเก็ตเมเจอร์นั้นขึ้นอยู่กับ สถานการณ์ของตลาดคอนเสิร์ตเป็นหลักเนื่องจากรายได้หลักของบริษัทมาจากการ จำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆหากปีนั้นมีการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์น้อยรายได้ก็จะลดลงตาม โดยภาพรวมของปีนี้เดิมบริษัทตั้งเป้าเติบโต 10%
แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาคงต้องมีการปรับเป้ารายได้ กันใหม่โดยอาจจะวางไว้แค่ทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมาที่ปิดไป 250 ล้านบาท