เลิกรากันไปแล้วครับ เป็นการหยุดชั่วคราวสำหรับมหกรรมสำแดงพลัง “แดงอาบแดด” กลางถนนอักษะ ถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทย หลังจากการชุมนุมของชนเผ่าแดงอาบแดด 2 วัน ก็ถูกแปรสภาพให้เป็นถนนที่สกปรกที่สุด มีขยะเกลื่อน กลิ่นเยี่ยวฟุ้ง
ถ้าไม่สกปรกด้วยขยะ ก็ไม่ใช่การชุมนุมของมวลชนแดงอาบแดด ซึ่งได้แสดงนิสัยไร้อารยธรรมความสะอาดประจำชนเผ่า ชุมนุมที่ไหนทิ้งขยะเกลื่อนที่นั่น สร้างภาระให้ผู้อื่นเก็บกวาด ผู้นำชนเผ่าเช่นหม่องตู่ หม่องเต้น หม่องเหวง ผู้นำพรรคถ่อยไม่รู้สึกอายเป็นสุดยอดความโสโครก สกปรกรกโลกของกากเดนคนสิ้นคิดหนักแผ่นดินจริงๆ!
ถือว่าเป็นเทศกาล “ขยะมนุษย์” ตามมาด้วยขยะสิ่งของจากการเสพ บริโภค หาความสุขจากเงินเบี้ยเลี้ยง ขณะที่ฟังผู้นำชนเผ่าสำรอกสำรากความกักขฬะ ถ่อยสถุลแบบไร้สติ ไร้เหตุผลบนเวที เป็นรูปแบบความโหดเถื่อนเพื่อเรียกเสียงโห่ฮาของชนเผ่า
ชุมนุม 2 วันคราวนี้ชนเผ่าบูชาส้นตีนแดงได้ยกระดับและขยายความถ่อยอาเพศกว่าเดิม เปิดมหกรรม “ถังขี้ ถังเยี่ยว” ลอยฟ้าอยู่เหนือหัว ไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าทำไมต้องยกถังส้วมไว้สูงกว่าหัว หรือเพื่อเพิ่มความขลังให้พิธีกรรมเสริมนิสัยถ่อยของชนเผ่า
คราวนี้หม่องตู่ หม่องเต้น ต้องยอมรับสภาพหน้าแหกหมอตอนควายไม่รับเย็บ ก่อนการชุมนุมทั้งคู่แหกปากประกาศปาวๆ ว่าชนเผ่าแดงจะสำแดง “วันมามาก” 5 แสนคน เหมือนเลือดประจำเดือน... เอ๊ย...ลาวาภูเขาไฟไหลนองทั่วทั้งแผ่นดินนั่นเลย
แล้วไง? มีชนเผ่าแดงสาวกลัทธิบูชาส้นตีนแดงมาหย่อมหนึ่งของถนนยาวเหยียด ตัวเลขประเมินโดยหลายกลุ่มด้วยความเกรงใจมีหลายระดับ จาก 15,000 ถึง 2 หมื่นคนโดยตำรวจสันติบาล อย่างมากไม่เกิน 3 หมื่น ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมาย
ก่อนการชุมนุมหัวหน้าตำรวจ “อับดุล” ประเมินว่าจะมีประมาณ 6 หมื่นคน แค่นั้นหม่องตู่และหม่องเต้นก็รู้สึกเสียเส้นพอแล้ว เมื่อถึงวันมามาก “ย้อย” รองของ “อับดุล” เอ่ยด้วยความเกรงใจสูงสุดว่า “ไม่ถึงแสน” ทั้งๆ ที่น่าจะพูดว่า “ไม่ถึง 4-5 หมื่น”
คงเป็นเพราะทั่นเกรงชนเผ่าแดงพิโรธ รู้นิสัยสันดานดีว่าพวกหม่องตู่ หม่องเต้น ไม่ยอมรับความเป็นจริงของชีวิต นอกจากไม่ยอมรับคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระถ้าไม่ถูกใจ หรือถ้าบักเหลี่ยมนายเงินเสียประโยชน์ และนางดอกงิ้วของกำนันสุเทพเสียหาย
หม่องเหลิมหายหน้าไปช่วง 2 วันอย่างน่าสงสัย ไม่ฮึกเหิม หลังจากได้ปั่นกระแส “ผมไม่ได้ปลุกระดมนะ แต่ยุยงให้ นปช.มากันเยอะๆ ถ้าใครรักเฉลิมก็ให้มาชุมนุมกันมากๆ” หม่องเหลิมก็วางแผนหรูเลิศว่าจะไปตั้งเซฟเฮาส์ย่านถนนอักษะชมวันมามาก
นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านั้นหม่องเหลิมถูกร่ำลือปนนินทาว่าได้สั่งเร้นลับให้สมุนจัดการกำชับให้เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมย่านอ้อมน้อย อ้อมใหญ่ นครปฐม และสมุทรสาคร ระดมแรงงานต่างด้าวมาร่วมชุมนุม และรับภาระจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงให้ด้วย
นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงเลือกถนนอักษะให้เป็นจุดชุมนุมชนเผ่า เพราะอยู่ใกล้แหล่งแรงงานต่างด้าวซึ่งมีชาวพม่า เขมร ลาว กะเหรี่ยง มอญ ไทยใหญ่ มากถึง 3-4 แสนคน เชื่อมั่นว่าจะสะดวกโยธิน ทำให้หม่องตู่ประกาศว่าจะมีแดงมาถึงครึ่งล้าน
คุยทับกำนันสุเทพ ซึ่งเคยชักชวนมวลชนให้ออกมาหลายล้านคน รวม 4 ครั้ง สร้างประวัติศาสตร์การชุมนุมทางการเมืองของโลกว่ามีคนออกมามากขนาดนั้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการขับไล่รัฐบาลกลุ่มอาชญากรกังฉินชั่วร้ายขายชาติหน้าด้าน
ต่อให้ออกมาสิบๆ ล้านคนก็ไม่ทำให้นางบาปขยับก้นบานๆ ให้พ้นเก้าอี้รักษาการนายกฯ และเก้าอี้กระทรวงกลาโหม แม้มวลชนเสียชีวิต 21 ราย บาดเจ็บกว่า 700 คน ชาวนาฆ่าตัวตายสิบกว่าคน ทนทุกข์ทั้งแผ่นดินเพราะนางบาปไม่จ่ายเงินกว่าแสนล้าน
นางบาปออกลีลาแก้เคล็ดย้อนเกล็ด การลื่นหกล้มก้นจ้ำเบ้าหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาทที่เชียงใหม่ทำให้สมองแล่นไหล อ้างว่าเส้นเอ็นข้อเท้าอักเสบ รักษาเท่าไหร่ไม่ยอมหาย ใส่เฝือกอ่อนราคาแพง ให้พวกหัวหงอกหัวดำ เตี้ยต่ำล่ำสูงเข็นเก้าอี้ให้นางนั่งสบายเป็นสัญลักษณ์ว่า “ฉันต้องมีขี้ข้าบริวาร พวกเสือหิว อุ้ม ประคอง เข็นดิฉันให้คงอยู่กุมอำนาจรัฐ” ให้นานแสนนาน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน แม้ชาติบ้านเมืองพินาศบรรลัย ฆ่าฟันทำให้คนบาดเจ็บล้มตายอย่างไรก็ไม่แยแสใส่ใจ ขอให้ได้อยู่โกงกินต่อไป
เมื่อชนเผ่ามาชุมนุมน้อย แกนนำเช่นหม่องตู่ หม่องเต้น และระดับรองถ่อยๆ จึงต้องชดเชยด้วยความหยาบช้า กักขฬะ ลำพอง โจมตีบุคคล องค์กรต่างๆ ปลุกระดมให้สาวกยกระดับความโหดกระหายเลือดลืมความเป็นคน รับงานโหดเพื่อเงินรอบต่อไป
หม่องเต้นประกาศอย่างอหังการ... ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินชะตากรรมนางบาปวันไหนก็จะเป็นวันชุมนุมใหญ่ของชนเผ่าบูชาส้นตีนแดง และในวันนั้นใครจะทำอะไรก็ทำไป ทหารจะยึดอำนาจก็ยึดไป เพราะวันนั้นคือวัน “ไทยแลนด์โอเพ่นเดย์” วันเปิดประเทศไทย วันนั้นใครจะทำอะไรก็ทำไป ใครจะชุมนุมก็ชุมนุม ใครจะทำอะไรก็ทำไป...
แต่หม่องเต้นไม่ได้บอกว่า “ใครจะหนี ก็หนีไป” เพราะหลังจาก “สู้แล้วรวย” ติดคุกติดตะราง มีคดีร้ายแรงรออยู่ การแสดงออกของหม่องเต้น หม่องตู่ ผิดจากการแสดงออกของคนรักชีวิต อยากอยู่ใช้เงินหลายร้อยล้าน บ้านหลังใหญ่หาความสุขใส่ตัว
ป่าวร้องนัดชุมนุมใหญ่หลังสงกรานต์หวังหลอกชนเผ่าแดงมาตายเหมือนปี 2553 แต่หวังโกยเงินจากบักเหลี่ยมอีกรอบ รู้ดีว่าศึกครั้งสุดท้ายถ้าไม่หนีก็ตาย หรือติดคุกแน่! พวกแกนนำหลอกแดงรู้ดีว่าชะตากรรมอะไรรออยู่ เผาเมืองอีกครั้งก็มีป๊อปคอร์นรออยู่
วันนั้นชนเผ่าแดงหน้าโง่รอดูก็แล้วกัน หม่องตู่หรือหม่องเต้นจะเผ่นหนีตายก่อน!