กำนันสุเทพประกาศเดินอุ่นเครื่องเริ่มวันจันทร์นี้ถึงวันศุกร์ วันรุ่งขึ้น 29 มีนาคม ระดมพลังมวลมหาประชาชนชุมนุมเดินขบวนขับไล่นางเจตนารมณ์ ผลักดันให้มีการปฏิรูปการเมือง และภาคส่วนอื่นๆ ก่อนเริ่มบทการเมืองใหม่ไร้สามานย์
การเดินวันจันทร์ผ่านถนนสุรวงศ์ สีลม การตอบรับของประชาชน 2 ข้างทางยังถือว่าใช้ได้ มีคนยืนรอสมทบทุนเพื่อการต่อสู้ แต่ไม่หนักแน่นเหมือนเดิม อาจเป็นเพราะอากาศร้อนหรือขาดความตื่นเต้น การชุมนุมยืดเยื้อนานเกินไป
ต้องรอดูว่าการรณรงค์จนถึงวันศุกร์ กำนันและพวกจะปลุกเร้าอารมณ์มวลชนให้ออกมาเป็นแสนๆ ล้านๆ คนวันเสาร์ เหมือน 3 รอบใหญ่ที่ผ่านมาหรือไม่ มวลชนบางกลุ่มต้องการความชัดเจนว่ากำนันสุเทพมีหมัดเด็ดน็อกมั้ย
คนออกมาเดินเป็นล้านๆ 3 รอบ จากนั้นกลับไปตั้งหลายเวทีกลางเมือง จนเกิดความเสี่ยงอันตรายเพราะการโจมตีโดยกองกำลังเถื่อน การต่อสู้เรื้อรังมีคนเสียชีวิตมากกว่า 20 ราย บาดเจ็บเกือบพัน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะชนะอย่างไร
การรอองค์กรอิสระให้เล่นงานรัฐบาลนางเจตนารมณ์ ก็ไม่สะเด็ดน้ำ ทำให้รัฐบาลรักษาการชั่วถาวรยังกุมอำนาจรัฐอย่างเหนียวแน่น ไล่อย่างไรก็ยังอยู่ ใครจะว่าหน้าด้าน นางเจตนารมณ์และพวกก็ด้านหน้าสู้ไม่ถอย ไม่อาย ไม่หนี
เพียงหลบหน้าหลบตา ไม่เผชิญหน้า ไม่ยอมตกอยู่ในวงล้อมมวลชน!
ตามแผนที่ประกาศ กำนันสุเทพบอกว่าวันเสาร์จะนำมวลชนเดินไปลานพระบรมรูปทรงม้า และสักการะอนุสาวรีย์ ร. 7 ในบริเวณรัฐสภา เพื่อรำลึกถึงพระคุณของทั้ง 2 พระองค์ จากนั้นจะทำอย่างไรต่อไป ยังไม่มีคำประกาศชัด
หรือแยกย้ายกันกลับที่ตั้ง กำนันปักหลักอยู่ในสวนลุมพินีเหมือนเดิม?
ถ้าเป็นอย่างนั้น กำนันอาจเสี่ยงต่อสภาวะขาลง การขาดความเชื่อมั่นของมวลชน เพราะทุกวันนี้ประชาชนไม่จำเป็นต้องให้กระตุ้นแล้ว หลังจากออกมา 3 รอบใหญ่หลายล้านคน แต่อยากรู้ว่าออกมาแล้วจะทำอะไรต่างหาก
การเดินไปมาในเมือง นอกจากเมื่อยล้า อากาศร้อน ยังไม่เห็นการแตกหักเอาชนะรัฐบาลนางเจตนารมณ์ซึ่งได้กระทำความผิดกฎหมายซ้ำซาก ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระ สร้างความเสียหายมหาศาลให้บ้านเมือง
ถ้ารอบที่ 4 แล้วยังไม่รู้ว่าจะชนะเมื่อไหร่ การหวังให้มีรอบที่ 5 ประชาชนออกมาเต็มพื้นที่คงเป็นไปได้ยาก เว้นแต่จะเปลี่ยนยุทธการให้ถึงจุดแตกหักจนเห็นลู่ทางชนะขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมกุมอำนาจรัฐ เกิดความเปลี่ยนแปลง
ประชาชนอยากให้กำนันสุเทพและขบวนการต่อสู้เพื่อกำจัดระบอบขี้ข้าทักษิณให้สิ้นไปจากแผ่นดินโดยเร็ว การยื้อ ยืดเยื้อ มีแต่ทำให้กำลังของประชาชนแผ่วล้า หมดหวังเมื่อมองไม่เห็นหนทางชนะสงครามกับบักเหลี่ยม
ทำอย่างไร? มีหนทางที่จะกระตุ้นประชาชนให้ออกมาสู้เต็มที่ แต่กำนันและเครือข่ายต้องกล้าหาญ ไปหาการสนับสนุนจากกลุ่มพลังแท้จริงเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย กำหนดมิตร แยกศัตรูออกไปให้เห็นชัดเพื่อเผด็จศึกให้ได้
เมื่อกำลังของประชาชนสนับสนุนกำนันสุเทพไม่เพียงพอที่จะโค่นล้มรัฐบาลชั่วถาวรได้ จำเป็นที่จะต้องไปหาความชัดเจนจากผู้นำกองทัพซึ่งได้ประกาศว่า “ยืนอยู่ข้างประเทศไทย” ให้บอกชัดๆ ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่
คำว่า “ยืนอยู่ข้างประเทศไทย” ฟังแล้วดูเหมือนดี มีหลักการโอ่อ่า สูงส่งด้วยคุณค่า เพียงแต่ว่าชาวบ้านไม่เข้าใจว่าหมายความถึงอะไร เพราะประเทศไทยกำลังมีปัญหา ประชาชนแบ่งเป็นฝักฝ่าย อย่างน้อยก็มี 3 กลุ่มหลัก
ประเภทแรกคือพวก “เอาทักษิณ” ซึ่งมีนักการเมืองอาชญากรคอปกขาว เครือข่ายบริวารขี้ข้าหลายระดับในสังคม อีกกลุ่มคือพวก “ไม่เอาทักษิณ” พวกที่เหลือคือกลุ่ม “ไม่เอาใคร เป็นกลาง แทงกั๊ก ไม่สนใจการเมือง ฯลฯ”
ทุกวันนี้ประเทศไทยเหมือนเครื่องบินมาเลเซียมีนางบาปอารมณ์แปรปรวนคุ้มดีคุ้มร้ายเป็นกัปตัน บินอย่างไร้ทิศทาง หลบหลีกการตรวจสอบ มีผู้โดยสารเป็นตัวประกัน หาสนามบินลงไม่ได้ น้ำมันหมดใกล้โหม่งโลกแล้ว
กลุ่มที่มีพลังชี้ชะตาว่าใครแพ้ชนะคือกองทัพ ดังนั้นกำนันควรยกพวกไปถามผู้นำเหล่าทัพวันเสาร์ ถ้ามีมวลชนหลายแสนคนหรือล้านคน ก็แบ่งมวลชนไป 3 เหล่าทัพและกองบัญชาการกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ถามว่าประชาชนควรทำอย่างไรกับรัฐบาลอาชญากรขายชาติบ่อนทำลายความมั่นคง เกษตรกรรมข้าว โกงชาวนา หน้าด้าน ไม่ยอมลาออก เอาก้นทากาวติดเก้าอี้ แม้จะมีมวลชนออกมาหลายล้านคนขับไล่ก็ยังดื้อด้านอยู่
ถามว่า “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง” นั้น ทำอย่างไร ขอชี้แนะให้ชัดเจนเพื่อจัดการรัฐบาลนางเจตนารมณ์ เปิดทางให้แก้ปัญหาของบ้านเมือง และถามด้วยว่า “ท่านผู้นำเหล่าทัพมีหนทางอย่างไรให้นางพ้นจากอำนาจ”
มวลมหาประชาชนเหนื่อยล้า นอกจากถูกกองกำลังเถื่อนฆ่าฟันแล้ว ตำรวจขี้ข้าระบอบบักเหลี่ยมยังคอยรังควาญต่อเนื่องทั้งเร้นลับ เปิดเผย ดังนั้นกองทัพต้องแยกแยะใครดีชั่ว และเลือกว่าจะอยู่ข้างประชาชนหรือไม่
ต้องปักหลักหน้ากองทัพ เอาคำตอบให้ได้ ไม่ได้ไม่เลิก! กำนันกล้ามั้ย?
การเดินวันจันทร์ผ่านถนนสุรวงศ์ สีลม การตอบรับของประชาชน 2 ข้างทางยังถือว่าใช้ได้ มีคนยืนรอสมทบทุนเพื่อการต่อสู้ แต่ไม่หนักแน่นเหมือนเดิม อาจเป็นเพราะอากาศร้อนหรือขาดความตื่นเต้น การชุมนุมยืดเยื้อนานเกินไป
ต้องรอดูว่าการรณรงค์จนถึงวันศุกร์ กำนันและพวกจะปลุกเร้าอารมณ์มวลชนให้ออกมาเป็นแสนๆ ล้านๆ คนวันเสาร์ เหมือน 3 รอบใหญ่ที่ผ่านมาหรือไม่ มวลชนบางกลุ่มต้องการความชัดเจนว่ากำนันสุเทพมีหมัดเด็ดน็อกมั้ย
คนออกมาเดินเป็นล้านๆ 3 รอบ จากนั้นกลับไปตั้งหลายเวทีกลางเมือง จนเกิดความเสี่ยงอันตรายเพราะการโจมตีโดยกองกำลังเถื่อน การต่อสู้เรื้อรังมีคนเสียชีวิตมากกว่า 20 ราย บาดเจ็บเกือบพัน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะชนะอย่างไร
การรอองค์กรอิสระให้เล่นงานรัฐบาลนางเจตนารมณ์ ก็ไม่สะเด็ดน้ำ ทำให้รัฐบาลรักษาการชั่วถาวรยังกุมอำนาจรัฐอย่างเหนียวแน่น ไล่อย่างไรก็ยังอยู่ ใครจะว่าหน้าด้าน นางเจตนารมณ์และพวกก็ด้านหน้าสู้ไม่ถอย ไม่อาย ไม่หนี
เพียงหลบหน้าหลบตา ไม่เผชิญหน้า ไม่ยอมตกอยู่ในวงล้อมมวลชน!
ตามแผนที่ประกาศ กำนันสุเทพบอกว่าวันเสาร์จะนำมวลชนเดินไปลานพระบรมรูปทรงม้า และสักการะอนุสาวรีย์ ร. 7 ในบริเวณรัฐสภา เพื่อรำลึกถึงพระคุณของทั้ง 2 พระองค์ จากนั้นจะทำอย่างไรต่อไป ยังไม่มีคำประกาศชัด
หรือแยกย้ายกันกลับที่ตั้ง กำนันปักหลักอยู่ในสวนลุมพินีเหมือนเดิม?
ถ้าเป็นอย่างนั้น กำนันอาจเสี่ยงต่อสภาวะขาลง การขาดความเชื่อมั่นของมวลชน เพราะทุกวันนี้ประชาชนไม่จำเป็นต้องให้กระตุ้นแล้ว หลังจากออกมา 3 รอบใหญ่หลายล้านคน แต่อยากรู้ว่าออกมาแล้วจะทำอะไรต่างหาก
การเดินไปมาในเมือง นอกจากเมื่อยล้า อากาศร้อน ยังไม่เห็นการแตกหักเอาชนะรัฐบาลนางเจตนารมณ์ซึ่งได้กระทำความผิดกฎหมายซ้ำซาก ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระ สร้างความเสียหายมหาศาลให้บ้านเมือง
ถ้ารอบที่ 4 แล้วยังไม่รู้ว่าจะชนะเมื่อไหร่ การหวังให้มีรอบที่ 5 ประชาชนออกมาเต็มพื้นที่คงเป็นไปได้ยาก เว้นแต่จะเปลี่ยนยุทธการให้ถึงจุดแตกหักจนเห็นลู่ทางชนะขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมกุมอำนาจรัฐ เกิดความเปลี่ยนแปลง
ประชาชนอยากให้กำนันสุเทพและขบวนการต่อสู้เพื่อกำจัดระบอบขี้ข้าทักษิณให้สิ้นไปจากแผ่นดินโดยเร็ว การยื้อ ยืดเยื้อ มีแต่ทำให้กำลังของประชาชนแผ่วล้า หมดหวังเมื่อมองไม่เห็นหนทางชนะสงครามกับบักเหลี่ยม
ทำอย่างไร? มีหนทางที่จะกระตุ้นประชาชนให้ออกมาสู้เต็มที่ แต่กำนันและเครือข่ายต้องกล้าหาญ ไปหาการสนับสนุนจากกลุ่มพลังแท้จริงเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย กำหนดมิตร แยกศัตรูออกไปให้เห็นชัดเพื่อเผด็จศึกให้ได้
เมื่อกำลังของประชาชนสนับสนุนกำนันสุเทพไม่เพียงพอที่จะโค่นล้มรัฐบาลชั่วถาวรได้ จำเป็นที่จะต้องไปหาความชัดเจนจากผู้นำกองทัพซึ่งได้ประกาศว่า “ยืนอยู่ข้างประเทศไทย” ให้บอกชัดๆ ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่
คำว่า “ยืนอยู่ข้างประเทศไทย” ฟังแล้วดูเหมือนดี มีหลักการโอ่อ่า สูงส่งด้วยคุณค่า เพียงแต่ว่าชาวบ้านไม่เข้าใจว่าหมายความถึงอะไร เพราะประเทศไทยกำลังมีปัญหา ประชาชนแบ่งเป็นฝักฝ่าย อย่างน้อยก็มี 3 กลุ่มหลัก
ประเภทแรกคือพวก “เอาทักษิณ” ซึ่งมีนักการเมืองอาชญากรคอปกขาว เครือข่ายบริวารขี้ข้าหลายระดับในสังคม อีกกลุ่มคือพวก “ไม่เอาทักษิณ” พวกที่เหลือคือกลุ่ม “ไม่เอาใคร เป็นกลาง แทงกั๊ก ไม่สนใจการเมือง ฯลฯ”
ทุกวันนี้ประเทศไทยเหมือนเครื่องบินมาเลเซียมีนางบาปอารมณ์แปรปรวนคุ้มดีคุ้มร้ายเป็นกัปตัน บินอย่างไร้ทิศทาง หลบหลีกการตรวจสอบ มีผู้โดยสารเป็นตัวประกัน หาสนามบินลงไม่ได้ น้ำมันหมดใกล้โหม่งโลกแล้ว
กลุ่มที่มีพลังชี้ชะตาว่าใครแพ้ชนะคือกองทัพ ดังนั้นกำนันควรยกพวกไปถามผู้นำเหล่าทัพวันเสาร์ ถ้ามีมวลชนหลายแสนคนหรือล้านคน ก็แบ่งมวลชนไป 3 เหล่าทัพและกองบัญชาการกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ถามว่าประชาชนควรทำอย่างไรกับรัฐบาลอาชญากรขายชาติบ่อนทำลายความมั่นคง เกษตรกรรมข้าว โกงชาวนา หน้าด้าน ไม่ยอมลาออก เอาก้นทากาวติดเก้าอี้ แม้จะมีมวลชนออกมาหลายล้านคนขับไล่ก็ยังดื้อด้านอยู่
ถามว่า “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง” นั้น ทำอย่างไร ขอชี้แนะให้ชัดเจนเพื่อจัดการรัฐบาลนางเจตนารมณ์ เปิดทางให้แก้ปัญหาของบ้านเมือง และถามด้วยว่า “ท่านผู้นำเหล่าทัพมีหนทางอย่างไรให้นางพ้นจากอำนาจ”
มวลมหาประชาชนเหนื่อยล้า นอกจากถูกกองกำลังเถื่อนฆ่าฟันแล้ว ตำรวจขี้ข้าระบอบบักเหลี่ยมยังคอยรังควาญต่อเนื่องทั้งเร้นลับ เปิดเผย ดังนั้นกองทัพต้องแยกแยะใครดีชั่ว และเลือกว่าจะอยู่ข้างประชาชนหรือไม่
ต้องปักหลักหน้ากองทัพ เอาคำตอบให้ได้ ไม่ได้ไม่เลิก! กำนันกล้ามั้ย?