xs
xsm
sm
md
lg

บึ้ม4จุดกลางเมืองยะลาคาร์บอมบ์ถล่มไฟลุกท่วมแม่ทัพภาค4สั่งปิดเมืองล่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTผู้จัดการรายวัน - คาร์บอมบ์-จยย.บอมบ์รวม 4 จุดกลางเมืองยะลา ร้านเฟอร์นิเจอร์วอดพร้อมอาคารข้างเคียงอย่างน้อย 5 หลัง เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ เจ็บอีกกว่า 28 ราย ฝ่ายความมั่นคงได้แค่สั่งตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ป้องกันคนร้ายกดระเบิดซ้ำขณะดับเพลิง คาดคนร้ายลองของหลังนครยะลาถูกคุมเข้มทุกจุด ด้านแม่ทัพภาค 4 สั่งปิดเมืองล่ามือวางบึ้ม

เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (6 เม.ย.) ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมือง จ.ยะลา รับแจ้งว่าเหตุระเบิดที่บริเวณร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ ถนนสิโรรส ตัดกับถนน ณ นคร เขตเทศบาลนครยะลา เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารข้างเคียง จึงประสานพ.ต.อ.ประยงค์ โครตสาขา ผกก.สภ.เมือง นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร นายอำเภอเมือง ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ภ.จว.ยะลา ทหารชุดเฉพาะกิจอโนทัย ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 และหน่วยกู้ภัยแม่กอเหนี่ยว แม่ทับทิมยะลา และดับเพลิงไประงับเหตุ แต่ไม่ถึง 10 นาทีก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ร้านฟ้าใสประดับเรือน ซึ่งเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ริมถนนสิโรรสตัดถนนทางเข้าตลาดเมืองใหม่เป็นจุดที่ 2 ตามมาด้วยจุดที่ 3 บริเวณตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย หน้าสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ยะลา ถนนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมือง และจุดที่ 4 บริเวณแยกโคลีเซียม

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ต่างระดมกำลังและรถดับเพลิงนับสิบคัน เข้าไปยังร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นอาคารไม้ ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะระงับเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นมีอาคารเสียหายกว่า 5 หลังคาเรือน รถยนต์ของชาวบ้านที่จอดในที่เกิดเหตุเสียหายหลายคัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลยะลาเป็นการด่วน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย อยู่ใต้ท้องรถยนต์โตโยต้า วีออส ที่จอดอยู่ตรงกันข้ามที่ฝั่งตรงข้ามร้าน ในสภาพไหม้เกรียม

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ที่หน้าร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ มีซากรถกระบะ คาดว่าเป็นรถที่คนร้ายประกอบระเบิดมาใช้งาน ที่หน้าร้านฟ้าใสประดับเรือน พบซากรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เช่นเดียวกับที่ตู้เอทีเอ็มที่ซุกระเบิดไว้ในรถจักรยานยนต์ ยังไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ หลังเขตเทศบาลนครยะลา ได้รับการคุมเข้มมาโดยตลอด ซึ่งหลังเกิดเหตุฝ่ายความมั่นคงสั่งตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันคนร้ายจุดชนวนระเบิดซ้ำ

ขณะที่โรงพยาบาลยะลา สรุปตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุระเบิดหน้าร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ ว่า มีผู้เสียบาดเจ็บ 28 ราย พักรักษาตัวในโรงพยาบาล 5 ราย คือ น.ส.สนีวาตี สาเมาะ อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนขวา นายมิง ตาเยะ อายุ 18 ปี เท้าซ้ายขาด ไฟไหม้ทั้งตัว อาการสาหัส นายบือราเฮง โต๊ะกียา อายุ 59 ปี สะเก็ดระเบิดที่หลัง นางวิพร แซ่เอีย อายุ 53 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา และน.ส.สรีนา แมเราะ อายุ 32 ปี มีแผลที่แก้มซ้าย ที่เหลือแพทย์ทำแผลแล้วอนุญาตให้กลับบ้านได้

ส่าสุด ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายนิคม กาเจ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ถนนวิฑูรย์อุทิศ 11 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเจ้าหน้าที่วิทยาลัยสาธารณสุขสิรินธรยะลา ขณะเกิดเหตุขับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ ทะเบียน ขกว ยะลา 777 ผ่านมาพอดี จึงถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นไปติดอยู่ใต้ท้องรถ

ด้านพ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งปิดทางเข้าออกรอบเมืองยะลา เพื่อติดตามล่าตัวคนร้าย และกันไม่ให้ประชาชนเข้าพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบพบว่าคนร้ายนำระเบิดประกอบกับจักรยานยนต์พ่วงข้างเป็นจักรยานยนต์บอมบ์ และประกอบรถยนต์เป็นคาร์บอมบ์

เมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน ที่บริเวณที่ทำการชุดปฏิบัติการเพชรคูหา ชุมชนคูหามุข เขตเทศบาลนครยะลา พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาค 4 พล.ต.ปราการ ชลยุทธ รองแม่ทัพภาค 4 พล.ต.เกษม ธนาภรณ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้เดินทางมาร่วมในงานวันผู้สูงอายุ ที่ทางชุมชมคูหามุขจัดขึ้น เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรม ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ โดยมีกิจกรรมทำบุญเลี้ยงพระ และพิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ เพื่อความเป็นสิริมงคล

พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า ในกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ของชุมชนคูหามุข ครั้งนี้ตนเองก็มีความต้องการที่จะมาพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะที่ชุมชนคูหามุข ที่ถือว่าเป็นชุมชนเข้มแข็งชุมชนหนึ่ง จึงอยากมาพบปะ ให้กำลังใจรวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่

“ส่วนกรณีที่เกิดเหตุร้ายกับชาวบ้านไทยพุทธในช่วงที่ผ่านมานั้น ตนเองก็ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจหมายเลขสองตัวในพื้นที่ เพิ่มมาตรการในการดูแลชุมชนต่างๆ อย่างเต็มที่แล้ว รวมทั้งการประสานงานกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อที่จะสามารถดูแลรักษาความปลอดภัยได้อย่างครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตนเองก็ได้สั่งการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” แม่ทัพภาค 4 กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น