ASTVผู้จัดการรายวัน-กอง บก. สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ขอโทษ "สนธิ ลิ้มทองกุล" หลังนำเสนอข่าวพลาดทำเสียหาย เจ้าตัวโอดโดนด่าฟรี ยันถ้าจะวิพากษ์ จะพูดตรงหน้า พร้อมชมมาขอโทษถือว่ากล้าหาญ ให้อภัยได้
วานนี้ (2 เม.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ คณะผู้บริหารสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น นำโดยนายศักดา จิวัธยากูล บรรณาธิการบริหารกองบรรณาธิการข่าว นายสุปัน รักเชื้อ บรรณาธิการบริหารกองบรรณาธิการข่าวอิเล็กทรอนิกส์ และนายธนัช วงศาโรจน์ บรรณาธิการข่าวอาชญากรรม เดินทางเข้าพบ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เพื่อมอบดอกไม้ขอขมาหลังจากนำเสนอข่าวนายสนธิคลาดเคลื่อนจนก่อให้เกิดความเสียหาย
นายสนธิกล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น คือ คนที่ไม่รู้เรื่อง เสพข่าวไม่ทันคิด จะอ่านจากลักษณะข่าว ทำให้มีความรู้สึกว่า ตนตำหนิ เตะตัดขา กปปส. จึงนำข่าวนั้นมาลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊กเพื่อด่าโคตรพ่อโคตรแม่ตน ตรงนี้ คือ สิ่งที่เสียหาย ซึ่งถ้าตนจะวิจารณ์นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ตนจะพูดเอง อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ทำไม่ถูกต้อง ตนก็เปิดโปง นับประสาอะไรกับนายสุเทพ ถ้าเขาทำไม่ดี ตนก็ตำหนิ แต่ยืนยันว่าตนไม่เคยให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ถึงแม้ตนจะไม่เห็นด้วยกับท่าทีบางอย่าง แต่ตนก็ยังคงสนับสนุนการเคลื่อนไหว กปปส.
ทั้งนี้ สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นเป็นของนายบุญชัย เบญจรงคกุล อดีตผู้บริหารดีแทค ในอดีตนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นผู้บริหาร ซึ่งตนไม่อยากโยงว่านายสนธิญาณ รับงานมา เพราะสื่อในเครือตนวิพากษ์ กปปส.ซึ่งถ้ามีความเป็นธรรมต้องคิดได้ เพราะที่นี่ไม่เคยห้ามใครแสดงความเห็น แม้แต่นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) สื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ยังเห็นแย้งกับตนในเรื่องของนายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรข่าวสำนักข่าวเนชั่น ที่ตนสั่งสื่อในเครือห้ามนำเสนอข่าว แต่นายจิตตนาถ กลับออกมาแสดงความเห็นในเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ให้นายกนก ออกมาชี้แจง
"ช่วยไปบอกว่าไม่ต้องกังวล ถ้าวิจารณ์จะพูดตรงหน้า เรื่องตรรกะเรามาเถียงกันได้ การที่มาขอโทษนี้ ถือว่ากล้าหาญ เอาเป็นว่าคุณเอาข่าวมาจากไหนผมไม่สนใจ ผมให้อภัยได้ คน กปปส. ด่าผมฟรี ก็ไม่เป็นไร ก็ขอบคุณที่คุณทำได้คือสิ่งที่กล้าหาญ"นายสนธิกล่าว
ด้านนายสุปันได้ชี้แจงพร้อมขอบคุณนายสนธิที่ได้ให้โอกาสในการทำความเข้าใจ ซึ่งในสิ่งที่กังวลเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวก็ต้องไปปรึกษากัน แต่เจตนารมณ์ก็คือยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
จากนั้นนายสนธิได้กล่าวตอบว่า สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นเป็นข่าวด่วน ต้องระวัง ตนไม่เคยพูดฝากใคร ตนมีเอเอสทีวี มีเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ ถ้าจะพูดก็พูดผ่านสื่อแล้ว ถ้าไม่ได้ตั้งใจ ตนก็ให้อภัยได้ รู้ตัวแล้วมาขอโทษ ก็โอเคแล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 21:26 น. วันที่ 28 มี.ค.2557 เว็บไซต์ INN ได้โพสต์ข่าวพาดหัวว่า "สนธิมอง กปปส. เคลื่อนฉากสุดท้ายพร้อมรบ" มีเนื้อความสรุปได้ว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มองการชุมนุมเดินขบวนในวันที่ 29 มี.ค.2557 ของ กปปส.เป็นฉากสุดท้ายทั้ง 2 ฝ่าย รัฐบาล และ กปปส. เองด้วย กปปส.ได้เกณฑ์คนภาคใต้ขึ้นมาช่วยคนกรุงเทพฯ คัดค้านการเลือกตั้งเพื่อล้มรัฐบาลนั้น เป็นแค่ละครหนัง ที่แท้จริงก็ใช้องค์กรอิสระที่ตระเตรียมการไว้รับลูกรับช่วงกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คือ ปฏิวัติโดยศาล และคงจะนำความน่าเกลียดมาเหมือนเดิม เพื่อให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปิดฉากกลับบ้าน เกมของ กปปส. ยังเดินเกมเส้นทางเดิม คือ จะให้ปฏิรูปการเมืองเป็นแค่วาทกรรมลวงเฉยๆ เพื่อดึงเวลา ขอให้ได้หาโอกาสปฏิวัติ โดยใช้กำลังทหาร แล้วฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ออกคำสั่งคณะปฏิวัติยกเลิก และให้อภัยโทษให้กับพวกตน ให้คนประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทำผิดคดีทางการเมือง
จากนั้น เมื่อเวลา 09.06 น. ของวันที่ 29 มี.ค.2557 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่นที่ 2 ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ชี้แจงข่าวอย่างเป็นทางการว่า นายสนธิ ได้แจ้งว่า เป็นข่าวเท็จ นายสนธิไม่ได้ให้สัมภาษณ์อะไรเลย และตำหนิสำนักข่าว INN ว่า เป็นสำนักข่าวที่ห่วย ปั้นข่าวเท็จขึ้นมาอย่างไร้ยางอาย เพียงต้องการตอบสนองการปลุกปั่นของคนที่อยู่เบื้องหลัง
วานนี้ (2 เม.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ คณะผู้บริหารสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น นำโดยนายศักดา จิวัธยากูล บรรณาธิการบริหารกองบรรณาธิการข่าว นายสุปัน รักเชื้อ บรรณาธิการบริหารกองบรรณาธิการข่าวอิเล็กทรอนิกส์ และนายธนัช วงศาโรจน์ บรรณาธิการข่าวอาชญากรรม เดินทางเข้าพบ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เพื่อมอบดอกไม้ขอขมาหลังจากนำเสนอข่าวนายสนธิคลาดเคลื่อนจนก่อให้เกิดความเสียหาย
นายสนธิกล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น คือ คนที่ไม่รู้เรื่อง เสพข่าวไม่ทันคิด จะอ่านจากลักษณะข่าว ทำให้มีความรู้สึกว่า ตนตำหนิ เตะตัดขา กปปส. จึงนำข่าวนั้นมาลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊กเพื่อด่าโคตรพ่อโคตรแม่ตน ตรงนี้ คือ สิ่งที่เสียหาย ซึ่งถ้าตนจะวิจารณ์นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ตนจะพูดเอง อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ทำไม่ถูกต้อง ตนก็เปิดโปง นับประสาอะไรกับนายสุเทพ ถ้าเขาทำไม่ดี ตนก็ตำหนิ แต่ยืนยันว่าตนไม่เคยให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ถึงแม้ตนจะไม่เห็นด้วยกับท่าทีบางอย่าง แต่ตนก็ยังคงสนับสนุนการเคลื่อนไหว กปปส.
ทั้งนี้ สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นเป็นของนายบุญชัย เบญจรงคกุล อดีตผู้บริหารดีแทค ในอดีตนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นผู้บริหาร ซึ่งตนไม่อยากโยงว่านายสนธิญาณ รับงานมา เพราะสื่อในเครือตนวิพากษ์ กปปส.ซึ่งถ้ามีความเป็นธรรมต้องคิดได้ เพราะที่นี่ไม่เคยห้ามใครแสดงความเห็น แม้แต่นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) สื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ยังเห็นแย้งกับตนในเรื่องของนายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรข่าวสำนักข่าวเนชั่น ที่ตนสั่งสื่อในเครือห้ามนำเสนอข่าว แต่นายจิตตนาถ กลับออกมาแสดงความเห็นในเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ให้นายกนก ออกมาชี้แจง
"ช่วยไปบอกว่าไม่ต้องกังวล ถ้าวิจารณ์จะพูดตรงหน้า เรื่องตรรกะเรามาเถียงกันได้ การที่มาขอโทษนี้ ถือว่ากล้าหาญ เอาเป็นว่าคุณเอาข่าวมาจากไหนผมไม่สนใจ ผมให้อภัยได้ คน กปปส. ด่าผมฟรี ก็ไม่เป็นไร ก็ขอบคุณที่คุณทำได้คือสิ่งที่กล้าหาญ"นายสนธิกล่าว
ด้านนายสุปันได้ชี้แจงพร้อมขอบคุณนายสนธิที่ได้ให้โอกาสในการทำความเข้าใจ ซึ่งในสิ่งที่กังวลเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวก็ต้องไปปรึกษากัน แต่เจตนารมณ์ก็คือยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
จากนั้นนายสนธิได้กล่าวตอบว่า สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นเป็นข่าวด่วน ต้องระวัง ตนไม่เคยพูดฝากใคร ตนมีเอเอสทีวี มีเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ ถ้าจะพูดก็พูดผ่านสื่อแล้ว ถ้าไม่ได้ตั้งใจ ตนก็ให้อภัยได้ รู้ตัวแล้วมาขอโทษ ก็โอเคแล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 21:26 น. วันที่ 28 มี.ค.2557 เว็บไซต์ INN ได้โพสต์ข่าวพาดหัวว่า "สนธิมอง กปปส. เคลื่อนฉากสุดท้ายพร้อมรบ" มีเนื้อความสรุปได้ว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มองการชุมนุมเดินขบวนในวันที่ 29 มี.ค.2557 ของ กปปส.เป็นฉากสุดท้ายทั้ง 2 ฝ่าย รัฐบาล และ กปปส. เองด้วย กปปส.ได้เกณฑ์คนภาคใต้ขึ้นมาช่วยคนกรุงเทพฯ คัดค้านการเลือกตั้งเพื่อล้มรัฐบาลนั้น เป็นแค่ละครหนัง ที่แท้จริงก็ใช้องค์กรอิสระที่ตระเตรียมการไว้รับลูกรับช่วงกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คือ ปฏิวัติโดยศาล และคงจะนำความน่าเกลียดมาเหมือนเดิม เพื่อให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปิดฉากกลับบ้าน เกมของ กปปส. ยังเดินเกมเส้นทางเดิม คือ จะให้ปฏิรูปการเมืองเป็นแค่วาทกรรมลวงเฉยๆ เพื่อดึงเวลา ขอให้ได้หาโอกาสปฏิวัติ โดยใช้กำลังทหาร แล้วฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ออกคำสั่งคณะปฏิวัติยกเลิก และให้อภัยโทษให้กับพวกตน ให้คนประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทำผิดคดีทางการเมือง
จากนั้น เมื่อเวลา 09.06 น. ของวันที่ 29 มี.ค.2557 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่นที่ 2 ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ชี้แจงข่าวอย่างเป็นทางการว่า นายสนธิ ได้แจ้งว่า เป็นข่าวเท็จ นายสนธิไม่ได้ให้สัมภาษณ์อะไรเลย และตำหนิสำนักข่าว INN ว่า เป็นสำนักข่าวที่ห่วย ปั้นข่าวเท็จขึ้นมาอย่างไร้ยางอาย เพียงต้องการตอบสนองการปลุกปั่นของคนที่อยู่เบื้องหลัง