วานนี้ (2เม.ย.) ที่บ้านพักเมืองทองธานี ของนายเสนาะ เทียนทอง ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นำกระเช้าดอกไม้ เข้าอวยพรวันเกิดครบ 81 ปี ของนายเสนาะ เทียนทอง โดยนายเสนาะ กล่าวว่า สิ่งที่จะทำให้เกิดความปรองดองในชาติ คือ ทุกฝ่ายต้องหันมาคุยกันแบบพี่น้อง และอาสาเข้ามาหาทางออกของบ้านเมือง ทั้งข้าราชการ นักการเมือง และประชาชน ซึ่งทางออกปัญหาในประเทศสำคัญอยู่ที่คนกลาง และสถานบันหลักของบ้านเมือง ที่ต้องมีความเป็นกลาง รวมทั้งองค์กรอิสระ และศาลด้วย ที่ผ่านมาตนเคยคัดค้านรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ให้อำนาจองค์กรอิสระมากเกินไป จึงขอเตือนสติว่า คนที่ถือกฎหมาย อย่าบิดเบือน เหตุการณ์บ้านเมืองครั้งนี้ ถือเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว หากผู้ใหญ่ไม่รักษาคุณธรรม ประเทศก็จะแตกแยกกว่าเดิม
สำหรับข้อเสนอให้ตั้งรัฐบาลคนกลางนั้น นายเสนาะ กล่าวว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะถ้ากระบวนการยุติธรรมยังไม่เปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้ประเทศพินาศ ขณะนี้ประเทศชาติได้ล้มละลายทางเกียรติยศแล้ว ส่วนข้อเสนอให้คนในตระกูลชินวัตร เว้นวรรคทางการเมือง 1 ปีนั้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ส่วนตัวแล้วเห็นด้วย ว่าควรถอย แต่ไม่ใช่การหนีปัญหา เป็นการถอยเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง
"ถึงแม้ผมจะอายุ 81 ปี แต่ก็ยังแข็งแรง และไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง อยากเห็นคุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.) หันหน้ามาพูดคุยกัน เพราะถือเป็นพี่เป็นน้อง ที่ผ่านมาผมอาจเก็บตัวเงียบ แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาพูด เพราะถ้าปล่อยให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ต่อไป 2-3 เดือน ประเทศก็จะเสียหาย" นายเสนาะ กล่าว
**ชี้มูล308ส.ส.-ส.ว.ภายในเม.ย.นี้
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงการพิจารณาคดีถอดถอน 308 ส.ส. และ ส.ว.ร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญ โดยคาดว่าจะทยอยชี้มูลถอดถอนได้ภายในเดือนเม.ย.นี้ ส่วนจะชี้มูลได้ก่อนสงกรานต์ หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลักฐานพยานครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งขั้นตอนเหลือเพียงพิจารณาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของแต่ละคน ว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอต่อการวินิจฉัยหรือไม่
ขณะที่ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ของรัฐบาล ว่า กระบวนการขั้นตอนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และไต่สวนพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ โดยคาดว่าภายในเดือนเม.ย.นี้ จะมีความชัดเจนในการแจ้งข้อกล่าวหา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เช่นเดียวกัน
**”เหลิม”เชื่อเสียงส.ว.ไม่พอถอดถอน”ปู”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช. มีมติไม่ให้ตนไปเป็นพยานให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหายว่า ไม่ให้ไป ก็ไม่มีสิทธิ์ไป จะไปทำอะไรได้ แต่เชื่อว่านายกฯ ไม่ผิด การละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีหน้าที่ นายกฯเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ไม่ใช่ รมว.พาณิชย์ รมช.พาณิชย์ ปลัดกระทรวง หรืออธิบดี แต่นายกฯ เป็นระดับนโยบาย เชื่อว่าป.ป.ช.ให้ความเป็นธรรม อย่างน้อยต้องภูมิใจว่า ป.ป.ช.ไม่ได้มองนายกฯทุจริต ตรงนี้เป็นหลักประกัน เป็นการตบหน้านายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ โดยป.ป.ช. เป็นผู้ตบเอง
ส่วนเรื่องการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ต้องดูว่านายกฯมีหน้าที่หรือไม่ แต่ตนมองว่าเรื่องความผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่กับความผิดเรื่องซ่องโจรนั้นกว้าง ต่อไปหากมีโอกาสต้องยกเลิก อย่างไรก็ตาม หากป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ถามว่าจะใช้เสียงที่ไหนมาถอดถอน เพราะต้องใช้เสียง 3 ใน 5 ดังนั้น เสียงไม่พอ
** โวยป.ป.ช.ชี้มูล"สมศักดิ์"ไม่เป็นธรรม
ด้านนายสมชาติ ธรรมศิริ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะโฆษกสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กรณีเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หลังจากนี้ เชื่อว่านายสมศักดิ์ จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่ทางวุฒิสภาได้กำหนดต่อไป แต่โดยยส่วนตัวเห็นว่า การชี้มูลความผิดเพราะเหตุแห่งการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับที่แตกต่างจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สมาชิกรัฐสภาได้เข้าชื่อยื่นครั้งแรก และการนับวันแปรญัตติย้อนหลังนั้น เป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมกับนายสมศักดิ์ เพราะทั้ง 2 กรณีดังกล่าวนั้น ถือเป็นการปฏิบัติภายใต้ข้อบังคับการประชุม และตามข้อเสนอแนะของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในฐานะเลขาธิการรัฐสภาที่ยึดแนวปฏิบัติเหมือนที่ผ่านมาในอดีต ดังนั้นนายสมศักดิ์ จึงไม่มีทางปฏิบัติอื่น
สำหรับข้อเสนอให้ตั้งรัฐบาลคนกลางนั้น นายเสนาะ กล่าวว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะถ้ากระบวนการยุติธรรมยังไม่เปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้ประเทศพินาศ ขณะนี้ประเทศชาติได้ล้มละลายทางเกียรติยศแล้ว ส่วนข้อเสนอให้คนในตระกูลชินวัตร เว้นวรรคทางการเมือง 1 ปีนั้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ส่วนตัวแล้วเห็นด้วย ว่าควรถอย แต่ไม่ใช่การหนีปัญหา เป็นการถอยเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง
"ถึงแม้ผมจะอายุ 81 ปี แต่ก็ยังแข็งแรง และไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง อยากเห็นคุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.) หันหน้ามาพูดคุยกัน เพราะถือเป็นพี่เป็นน้อง ที่ผ่านมาผมอาจเก็บตัวเงียบ แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาพูด เพราะถ้าปล่อยให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ต่อไป 2-3 เดือน ประเทศก็จะเสียหาย" นายเสนาะ กล่าว
**ชี้มูล308ส.ส.-ส.ว.ภายในเม.ย.นี้
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงการพิจารณาคดีถอดถอน 308 ส.ส. และ ส.ว.ร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญ โดยคาดว่าจะทยอยชี้มูลถอดถอนได้ภายในเดือนเม.ย.นี้ ส่วนจะชี้มูลได้ก่อนสงกรานต์ หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลักฐานพยานครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งขั้นตอนเหลือเพียงพิจารณาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของแต่ละคน ว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอต่อการวินิจฉัยหรือไม่
ขณะที่ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ของรัฐบาล ว่า กระบวนการขั้นตอนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และไต่สวนพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ โดยคาดว่าภายในเดือนเม.ย.นี้ จะมีความชัดเจนในการแจ้งข้อกล่าวหา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เช่นเดียวกัน
**”เหลิม”เชื่อเสียงส.ว.ไม่พอถอดถอน”ปู”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช. มีมติไม่ให้ตนไปเป็นพยานให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหายว่า ไม่ให้ไป ก็ไม่มีสิทธิ์ไป จะไปทำอะไรได้ แต่เชื่อว่านายกฯ ไม่ผิด การละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีหน้าที่ นายกฯเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ไม่ใช่ รมว.พาณิชย์ รมช.พาณิชย์ ปลัดกระทรวง หรืออธิบดี แต่นายกฯ เป็นระดับนโยบาย เชื่อว่าป.ป.ช.ให้ความเป็นธรรม อย่างน้อยต้องภูมิใจว่า ป.ป.ช.ไม่ได้มองนายกฯทุจริต ตรงนี้เป็นหลักประกัน เป็นการตบหน้านายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ โดยป.ป.ช. เป็นผู้ตบเอง
ส่วนเรื่องการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ต้องดูว่านายกฯมีหน้าที่หรือไม่ แต่ตนมองว่าเรื่องความผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่กับความผิดเรื่องซ่องโจรนั้นกว้าง ต่อไปหากมีโอกาสต้องยกเลิก อย่างไรก็ตาม หากป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ถามว่าจะใช้เสียงที่ไหนมาถอดถอน เพราะต้องใช้เสียง 3 ใน 5 ดังนั้น เสียงไม่พอ
** โวยป.ป.ช.ชี้มูล"สมศักดิ์"ไม่เป็นธรรม
ด้านนายสมชาติ ธรรมศิริ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะโฆษกสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กรณีเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หลังจากนี้ เชื่อว่านายสมศักดิ์ จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่ทางวุฒิสภาได้กำหนดต่อไป แต่โดยยส่วนตัวเห็นว่า การชี้มูลความผิดเพราะเหตุแห่งการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับที่แตกต่างจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สมาชิกรัฐสภาได้เข้าชื่อยื่นครั้งแรก และการนับวันแปรญัตติย้อนหลังนั้น เป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมกับนายสมศักดิ์ เพราะทั้ง 2 กรณีดังกล่าวนั้น ถือเป็นการปฏิบัติภายใต้ข้อบังคับการประชุม และตามข้อเสนอแนะของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในฐานะเลขาธิการรัฐสภาที่ยึดแนวปฏิบัติเหมือนที่ผ่านมาในอดีต ดังนั้นนายสมศักดิ์ จึงไม่มีทางปฏิบัติอื่น
