นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงแนวทางในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ว.เลือกตั้ง ชุดใหม่ว่า ขี้นอยู่กับกกต. จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้เกิน 95 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนส.ว.เลือกตั้งทั้งหมดได้เมื่อไร ก็สามารถเข้าปฏิญานตน และปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที หากมีการประชุมวุฒิสภา ซึ่งในขณะนี้วุฒิสภา มีเหตุที่จะต้องเปิดประชุมให้ได้ภายใน 20 วัน หากหนังสือรายงานการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลความผิด นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา มาถึงสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งจากการประสานของเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมาถึงในวันนี้ (31 มี.ค.) และเมื่อรายงานดังกล่าวมาถึง ก็จะประสานไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อขอให้ ตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เปิดประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญตาม มาตรา 132 ทันที แต่ถ้าในระหว่างนี้ กกต. ยังไม่สามารถประกาศรับรองผลได้ครบตามจำนวนดังกล่าว ก็จะต้องเรียก ส.ว.เลือกตั้งชุดเก่า มาประชุมไปก่อน
เมื่อถามว่า ในการประชุมสมัยวิสามัญ ตามมาตรา 132 จะสามารถเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ได้เลยหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว มีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งมองว่าหาก ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่แล้ว ก็สามารถเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ได้ เพราะการเลือกประธานวุฒิสภา เป็นกิจกรรมภายในของวุฒิสภา ไม่เกี่ยวข้องกับ มาตรา 132
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งมองว่า ข้อกำหนดในการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ตามมาตรา132 ไม่ได้กำหนดให้มีการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ได้ ซึ่งกรณีนี้ยังเป็นประเด็นปัญหาทางข้อกฎหมายที่ยังไม่ได้ข้อยุติ
เมื่อถามว่า ในการประชุมสมัยวิสามัญ ตามมาตรา 132 จะสามารถเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ได้เลยหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว มีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งมองว่าหาก ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่แล้ว ก็สามารถเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ได้ เพราะการเลือกประธานวุฒิสภา เป็นกิจกรรมภายในของวุฒิสภา ไม่เกี่ยวข้องกับ มาตรา 132
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งมองว่า ข้อกำหนดในการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ตามมาตรา132 ไม่ได้กำหนดให้มีการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ได้ ซึ่งกรณีนี้ยังเป็นประเด็นปัญหาทางข้อกฎหมายที่ยังไม่ได้ข้อยุติ
