00 สังเกตหรือไม่ว่า เวลานี้จะได้ยินแต่เสียงเรียกร้องให้มีการ "เจรจา" กันมากขึ้น คนนั้นก็พูด คนนี้ก็พูด สรุปรวมว่าให้ "คู่ขัดแย้ง" หันหน้ามาเจรจากัน ที่น่าจับตาก็คือ คำพูดของ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เรียกร้องให้ ทั้ง รัฐบาล และ กปปส. ถอยกันคนละก้าว แล้วหันหน้ามาเจรจากัน และในเวลาต่อมา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ออกมารับลูก ทำนองว่าให้ทุกฝ่ายหันเข้าสู่ระบบ เนื่องจากประเทศเสียโอกาสมามากแล้ว จากนั้นก็มีสัญญาณลอยลมมาจากแดนใกล จาก"หัวหน้า โจรใหญ่" ทักษิณ ชินวัตร ไฟเขียวให้ ยิ่งลักษณ์ เจรจา โดยเล่นบทเสียสละแลกกับการ "เว้นวรรค" การเมือง 1 ปี
00 ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีการโยนหินถามทาง ดักคอผ่านทาง "ขี้ข้าปลายแถว" ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เปิดเผยชื่อ นายกฯคนกลาง ออกมานับสิบชื่อ ซึ่งหากไม่อคติจนเกินไป บางชื่อมันก็เข้าเค้า เป็นไปได้เหมือนกัน อย่างไรก็ดี ในคำพูดแบบดักคอดังกล่าวมันก็แฝงมาด้วยความพยายามในการ "ต่อรอง" ทำนองว่า หากมีนายกฯคนกลาง ก็ต้องให้ ทักษิณ เห็นชอบด้วย อะไรประมาณนี้
00 นอกจากนี้ หากสังเกตเพิ่มเติมก็ยังมีเสียงเรียกร้องจาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เสนอให้ ยิ่งลักษณ์ และ สุเทพ เจรจากันทางทีวี แม้ว่าจะเป็นความเห็นที่สอดคล้องกับคำพูดของ สุเทพ ก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่คราวนี้ น่าจะเป็นความหมายที่เปลี่ยนไป ฟังดู"ทะแม่ง" พิกล โดยเฉพาะการเดินเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง หากมีการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ซึ่งมันก็เป็นไปได้ หากพลพรรคปชป. มีความคิดว่าบรรยากาศเวลานี้การเมืองมีความ "สูสี" มากขึ้น อย่างน้อยก็ไม่"แพ้ขาด" เหมือนแต่ก่อน ยังมีโอกาสที่จะดึงพรรคการเมืองขนาดกลาง และขนาดเล็ก มาร่วมจัดตั้ง "รัฐบาลผสม" ภายใต้การอุปถัมภ์ของบิ๊กกองทัพบางคน มันก็เป็นไปได้ อย่าทำเป็นเล่นไป ถามว่า คนอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา จะไม่คิดวอกแวกเชียวหรือ
00 ดังนั้น หากให้พิจารณากันอย่างสรุปรวมๆ กันในตอนนี้ก็ต้องบอกว่า มีโอกาส "เจรจา" เกิดขึ้นสูงมาก อย่างน้อยก็มีการส่งสัญญาณชัดเจนออกมาจาก "ตัวจริง" คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เสนอให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เจรจา โดยแย้มว่า เพื่อแลกกับการ "เว้นวรรค" การเมือง 1 ปี ส่วน "ความหมาย" นอกเหนือจากนั้นค่อยมาว่ากันอีกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อน้องสาวตัวเองกำลัง "คอพาดเขียง" โดน ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ในคดีทุจริตจำนำข้าวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
00 จะเป็นเพราะรู้ว่า"โดนแน่" และขาข้างหนึ่งกำลังก้าวเข้าคุกอยู่หรือไม่ จึงต้อง"เปลี่ยนเกม" กระทันหัน ถอยออกมาก่อน ชั่วคราว อย่างน้อยก็เพื่อสะสมกำลัง เพราะมั่นใจว่าอย่างน้อย "การปฏิรูป" ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง และยังเชื่อว่า นายกฯคนกลาง หากเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายชื่อที่จุดพลุขึ้นมานั้น มันก็คงมีบรรยากาศไม่ต่างจาก ยุค"ขิงแก่" ที่เป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการกลับมาอีกครั้งของระบอบทักษิณ และคราวนี้คงจะ "เบ็ดเสร็จ" กว่าเดิม
ทุกอย่างมันไม่หนีไปจากนี้หรอก ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ !!
00 ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีการโยนหินถามทาง ดักคอผ่านทาง "ขี้ข้าปลายแถว" ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เปิดเผยชื่อ นายกฯคนกลาง ออกมานับสิบชื่อ ซึ่งหากไม่อคติจนเกินไป บางชื่อมันก็เข้าเค้า เป็นไปได้เหมือนกัน อย่างไรก็ดี ในคำพูดแบบดักคอดังกล่าวมันก็แฝงมาด้วยความพยายามในการ "ต่อรอง" ทำนองว่า หากมีนายกฯคนกลาง ก็ต้องให้ ทักษิณ เห็นชอบด้วย อะไรประมาณนี้
00 นอกจากนี้ หากสังเกตเพิ่มเติมก็ยังมีเสียงเรียกร้องจาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เสนอให้ ยิ่งลักษณ์ และ สุเทพ เจรจากันทางทีวี แม้ว่าจะเป็นความเห็นที่สอดคล้องกับคำพูดของ สุเทพ ก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่คราวนี้ น่าจะเป็นความหมายที่เปลี่ยนไป ฟังดู"ทะแม่ง" พิกล โดยเฉพาะการเดินเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง หากมีการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ซึ่งมันก็เป็นไปได้ หากพลพรรคปชป. มีความคิดว่าบรรยากาศเวลานี้การเมืองมีความ "สูสี" มากขึ้น อย่างน้อยก็ไม่"แพ้ขาด" เหมือนแต่ก่อน ยังมีโอกาสที่จะดึงพรรคการเมืองขนาดกลาง และขนาดเล็ก มาร่วมจัดตั้ง "รัฐบาลผสม" ภายใต้การอุปถัมภ์ของบิ๊กกองทัพบางคน มันก็เป็นไปได้ อย่าทำเป็นเล่นไป ถามว่า คนอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา จะไม่คิดวอกแวกเชียวหรือ
00 ดังนั้น หากให้พิจารณากันอย่างสรุปรวมๆ กันในตอนนี้ก็ต้องบอกว่า มีโอกาส "เจรจา" เกิดขึ้นสูงมาก อย่างน้อยก็มีการส่งสัญญาณชัดเจนออกมาจาก "ตัวจริง" คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เสนอให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เจรจา โดยแย้มว่า เพื่อแลกกับการ "เว้นวรรค" การเมือง 1 ปี ส่วน "ความหมาย" นอกเหนือจากนั้นค่อยมาว่ากันอีกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อน้องสาวตัวเองกำลัง "คอพาดเขียง" โดน ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ในคดีทุจริตจำนำข้าวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
00 จะเป็นเพราะรู้ว่า"โดนแน่" และขาข้างหนึ่งกำลังก้าวเข้าคุกอยู่หรือไม่ จึงต้อง"เปลี่ยนเกม" กระทันหัน ถอยออกมาก่อน ชั่วคราว อย่างน้อยก็เพื่อสะสมกำลัง เพราะมั่นใจว่าอย่างน้อย "การปฏิรูป" ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง และยังเชื่อว่า นายกฯคนกลาง หากเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายชื่อที่จุดพลุขึ้นมานั้น มันก็คงมีบรรยากาศไม่ต่างจาก ยุค"ขิงแก่" ที่เป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการกลับมาอีกครั้งของระบอบทักษิณ และคราวนี้คงจะ "เบ็ดเสร็จ" กว่าเดิม
ทุกอย่างมันไม่หนีไปจากนี้หรอก ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ !!