ASTVผู้จัดการรายวัน – อ.ส.ค. ลั่นปี 57 นมวัวแดงต้องเติบโต 10% ทะลุ 7,100 ล้านบาท นี้บุกตลาดนมยูเอชทีหนัก ทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ พร้อมขยายตปท.รับเออีซี
นายสุชาติ จริยเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ องก์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อ.ส.ค. ) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค หรือนมวัวแดง เปิดเผยว่า ในปี 2557 นี้ อ.ส.ค.ตั้งเป้าหมายมีรายได้มาจากนมไทย-เดนมาร์ค ประมาณ 7,100 ล้านบาท เพิ่มจากยอดจำหน่ายปีที่แล้วที่มีประมาณ 6,700 ล้านบาท หรือเติบโต 10% (ไม่นับรายได้จากโครงการนมโรงเรียนที่มีประมาณ 1,200 ล้านบาท) ซึ่งมากกว่าตลาดรวมที่มีการเติบโตเฉลี่ย 3% เท่านั้นเอง
โดยปีนี้ตั้งงบการตลาดรวมไว้ที่ 130 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้ 120 ล้านบาท เพื่อทำตลาดเต็มที่ ทั้งการจัดกิจกรรม การโฆษณา การส่งเสริมการขาย การเพิ่มช่องทางจำหน่าย การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์หลักยังคงเป็น นมยูเอชทีพร้อมดื่ม ที่ อ.ส.ค. มีการเติบโต 10% จากตลาดรวมที่เติบโตเพียง 4% ซึ่งยังคงเป็นอันดับที่สองในตลาดมีส่วนแบ่งที่ 30% จากตลาดรวมมูลค่ามากกว่า 8,000 ล้านบาท โดยมีโฟร์โมสต์เป็นผู้ นำด้วยส่วนแบ่ง 42%
ขณะที่ผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต ที่ไทย-เดนมาร์ค เข้าตลาดปีที่แล้วนั้น มียอดขายเพียง 30 ล้านบาทเท่านั้นอ ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดรวมนมเปรี้ยวที่มีมากกว่า 8,000 ล้านบาท โดยมีดัชมิลล์เป็นผู้นำตลาด ซึ่งปีนี้ เตรียมที่จะขยายช่องทางจำหน่ายนมเปรี้ยวมากขึ้นเข้าสู่โมเดิร์นเทรดใหญ่เช่น เดือนหน้าวางจำหน่ายในบิ๊กซี และถัดไปก็เป็นเทสโก้โลตัส แม็คโคร และเทรดดิชันนัลเทรดทั้งหมด จากเดิมปีที่แล้วมีช่องทางเดียวคือขายเฉพาะในร้านเซเว่นอีเลฟเวน่ ซึ่งรับการตอบรับอย่างดี ปีนี้จึงตั้งเป้าหมายรายได้นมเปรี้ยวไว้ที่ 150 ล้านบาท และภายใน 5 ปีจากนี้คาดหวังจะมียอดขาย 1,000 ล้านบาท
นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะพยายามเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในแต่ละภาคให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน นมไทย-เดนมาร์ค เป็นผู้นำอันดับที่1ในตลาดภาคอีสาน ด้วยส่วนแบ่งกว่า 50% โดยมีโฟร์โมสต์เป็นอันดับสองมีแชร์ 40% ส่วนภาคกลางมีส่วนแบ่งประมาณ 30% ใกล้เคียงกับโฟร์โมสต์ ขณะที่ภาคเหนือตอนบนที่เดิมเรายังอ่อนอยู่ ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อรวมกับภาคเหนือตอนล่างที่เราขายดีอยู่แล้ว รวมเป็น 20% จากเดิม 15%
ส่วนภาคใต้ เดิมมีส่วนแบ่ง 3% แต่จากการทำตลาดอย่างหนักหน่วงปีเศษที่ผ่านมา มีแชร์เป็น 12% แล้ว แต่ก็ยังน้อยอยู่
สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น มีแผนที่จะขยายตลาดรับประชาคมเศรษฐกิจอาเชียนหรือเออีซีมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ทำตลาดที่กัมพูชามานานกว่า 7 ปี มียอดขายเติบโตเฉลี่ย 20-30% ทุกปี ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 400 ล้านบาท จากปีที่ทำได้ 300 ล้านบาท ซึ่งไทย-เดนมาร์คเป็นอันดับ1ด้วยแชร์ที่มากกว่าโฟร์โมสต์ในอันดับ2ประมาณ 10% ส่วนที่ตลาดลาวนั้น ก็เป็นตลาดที่เติบโตดีมียอดขายเฉลี่ย 50 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 70 ล้านบาท
นายสุชาติ จริยเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ องก์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อ.ส.ค. ) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค หรือนมวัวแดง เปิดเผยว่า ในปี 2557 นี้ อ.ส.ค.ตั้งเป้าหมายมีรายได้มาจากนมไทย-เดนมาร์ค ประมาณ 7,100 ล้านบาท เพิ่มจากยอดจำหน่ายปีที่แล้วที่มีประมาณ 6,700 ล้านบาท หรือเติบโต 10% (ไม่นับรายได้จากโครงการนมโรงเรียนที่มีประมาณ 1,200 ล้านบาท) ซึ่งมากกว่าตลาดรวมที่มีการเติบโตเฉลี่ย 3% เท่านั้นเอง
โดยปีนี้ตั้งงบการตลาดรวมไว้ที่ 130 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้ 120 ล้านบาท เพื่อทำตลาดเต็มที่ ทั้งการจัดกิจกรรม การโฆษณา การส่งเสริมการขาย การเพิ่มช่องทางจำหน่าย การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์หลักยังคงเป็น นมยูเอชทีพร้อมดื่ม ที่ อ.ส.ค. มีการเติบโต 10% จากตลาดรวมที่เติบโตเพียง 4% ซึ่งยังคงเป็นอันดับที่สองในตลาดมีส่วนแบ่งที่ 30% จากตลาดรวมมูลค่ามากกว่า 8,000 ล้านบาท โดยมีโฟร์โมสต์เป็นผู้ นำด้วยส่วนแบ่ง 42%
ขณะที่ผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต ที่ไทย-เดนมาร์ค เข้าตลาดปีที่แล้วนั้น มียอดขายเพียง 30 ล้านบาทเท่านั้นอ ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดรวมนมเปรี้ยวที่มีมากกว่า 8,000 ล้านบาท โดยมีดัชมิลล์เป็นผู้นำตลาด ซึ่งปีนี้ เตรียมที่จะขยายช่องทางจำหน่ายนมเปรี้ยวมากขึ้นเข้าสู่โมเดิร์นเทรดใหญ่เช่น เดือนหน้าวางจำหน่ายในบิ๊กซี และถัดไปก็เป็นเทสโก้โลตัส แม็คโคร และเทรดดิชันนัลเทรดทั้งหมด จากเดิมปีที่แล้วมีช่องทางเดียวคือขายเฉพาะในร้านเซเว่นอีเลฟเวน่ ซึ่งรับการตอบรับอย่างดี ปีนี้จึงตั้งเป้าหมายรายได้นมเปรี้ยวไว้ที่ 150 ล้านบาท และภายใน 5 ปีจากนี้คาดหวังจะมียอดขาย 1,000 ล้านบาท
นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะพยายามเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในแต่ละภาคให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน นมไทย-เดนมาร์ค เป็นผู้นำอันดับที่1ในตลาดภาคอีสาน ด้วยส่วนแบ่งกว่า 50% โดยมีโฟร์โมสต์เป็นอันดับสองมีแชร์ 40% ส่วนภาคกลางมีส่วนแบ่งประมาณ 30% ใกล้เคียงกับโฟร์โมสต์ ขณะที่ภาคเหนือตอนบนที่เดิมเรายังอ่อนอยู่ ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อรวมกับภาคเหนือตอนล่างที่เราขายดีอยู่แล้ว รวมเป็น 20% จากเดิม 15%
ส่วนภาคใต้ เดิมมีส่วนแบ่ง 3% แต่จากการทำตลาดอย่างหนักหน่วงปีเศษที่ผ่านมา มีแชร์เป็น 12% แล้ว แต่ก็ยังน้อยอยู่
สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น มีแผนที่จะขยายตลาดรับประชาคมเศรษฐกิจอาเชียนหรือเออีซีมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ทำตลาดที่กัมพูชามานานกว่า 7 ปี มียอดขายเติบโตเฉลี่ย 20-30% ทุกปี ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 400 ล้านบาท จากปีที่ทำได้ 300 ล้านบาท ซึ่งไทย-เดนมาร์คเป็นอันดับ1ด้วยแชร์ที่มากกว่าโฟร์โมสต์ในอันดับ2ประมาณ 10% ส่วนที่ตลาดลาวนั้น ก็เป็นตลาดที่เติบโตดีมียอดขายเฉลี่ย 50 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 70 ล้านบาท