**ทฤษฎีส้นตีน ของ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่เคยปราศรัยไว้บนเวทีกปปส. อย่างเมามัน ยังคงเป็นหลักชัยให้กลุ่มมวลมหาประชาชนต้องยึดเอาไว้เป็นโมเดลการเคลื่อนไหวด้วยสองเท้า ด้วยส้นตีน โดยปราศจากอาวุธ จะนำไปสู่เป้าหมายที่บรรลุผลอย่างสงบและยิ่งใหญ่ในชัยชนะการต่อสู้ของประชาชน
ยังต้องเอาใจช่วย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และมวลมหาประชาชน ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สวนลุมฯ อย่างยืดยาว เชื่อว่าอีกไม่นานชัยชนะจะมาถึงแล้ว เพราะอะไรๆ เริ่มเข้าล็อกเข้าทางมากขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้วว่า การเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่ฝ่ายรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หลับหูหลับตาเร่งรีบเดินหน้าลุยตามบัญชานายใหญ่นักโทษหนีคดีทักษิณ ชินวัตร เป็นโมฆะ ลากถูเลือกตั้ง ท่ามกลางไฟขัดแย้ง ท่ามกลางความเห็นที่ไม่ตรงกันของสังคม สภาพก็ออกมาทุลักทุเลอย่างที่เห็น เป็นบทเรียนสอนใจเครือข่ายระบอบทักษิณว่า บ้านเมืองยังมีขื่อมีแป
**แน่นอนว่า การเลือกตั้งโมฆะไปแล้ว สุดท้ายมันก็ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เพียงแต่ยังสรุปไม่ได้ว่าจะมีกันเมื่อไหร่ ต้องทอดระยะเวลาไปอีกยาวเท่าใด เบื้องต้น กกต.ก็ออกมาแย้มไต๋แล้วว่าไม่รีบร้อน เพราะเลือกไปก็เข้าอีหรอบเดิม ถ้ายังไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไร
นั่นก็เหมือนมีคำตอบให้พรรคประชาธิปัตย์ไปในตัว พรรคประชาธิปัตย์กำลังจะนัดประชุมเพื่อตัดสินอนาคตทางการเมือง ในวันที่ 29 มี.ค. ไฮไลต์สำคัญคือ การตกลงปลงใจจะลงเลือกตั้งหรือไม่ หากมีการกำหนดวันเลือกตั้งออกมาอีกครั้ง
**แต่เมื่อสำรวจตรวจตราปัจจัยแวดล้อมแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเปลี่ยนใจกลับมาลงเลือกตั้ง เพราะทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม รัฐบาลก็ยังยืนกรานรักษาการต่อไปตามเดิม กติกาก็เหมือนเดิม ดังนั้นถ้ายึดจุดยืนเดิมก็คือ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ลงเลือกตั้ง
ตอนนี้หลายคนในพรรคก็รู้สึกสับสนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เว้นวรรคไปแล้วรู้สึกแปลกๆ อยากจะลงเลือกตั้งจนตัวสั่น เพื่อที่จะได้เป็นผู้แทนตามอาชีพของตัวเอง เป็นเพราะรู้สึกหวั่นไหวไปกับเสียงวิจารณ์ว่าเป็นนักการเมืองแต่กลัวการเลือกตั้ง ฉะนั้นจึงอยากให้พรรคต้นสังกัดทบทวนท่าทีลงเลือกตั้งได้หรือไม่
แต่ถ้าขืนทำอย่างนั้น สิ่งที่ต่อสู้มาก็สูญเปล่า สิ่งที่กำลังต่อสู้อยู่และต้องการความเปลี่ยนแปลง ณ ยามนี้ คือ ระบบซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกันกับ กปปส. วันนี้เลิกปฏิเสธได้แล้วว่าเป็นเครือข่ายเดียวกัน เด็กอมมือดูก็รู้ เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นสลักสำคัญอะไร
สำคัญคือ เป้าหมายต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองประเทศไทย ถ้าร่วมมือกันแล้วทำให้เกิดการตื่นตัว ปรับแต่งไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องสนเสียงคนนินทาหมาดูถูก !!!
**ถ้าประชาธิปัตย์ตัดสินใจโดดลงสนาม ทุกอย่างก็จบ
**"อภิสิทธิ์" หักหลัง "เทพเทือก" ประชาธิปัตย์ หักหลังกปปส. จากที่เดินเกมรุกก็ต้องเป็นฝ่ายเดินเกมถอย จนสุดกระดานบ้าง
มันพิสูจน์มาแล้วว่าการเมืองในระบบรัฐสภาเดิมๆ สู้รบปรบมือกับพรรคเพื่อไทย ฝ่ายอำนาจทุนนิยมสามานย์ไม่ไหว หลายปีที่ผ่านมา มันได้สร้างระบบการซื้อ การเหมาเข่ง กวาดต้อนทุกองคาพยพให้เข้าพวกเป็นฝ่ายตัวเอง กินรวบประเทศไทยเบ็ดเสร็จ จนทุกฝ่ายขนานนามเป็นระบอบทักษิณ
**ก็รู้ ก็เห็น ก็เข้าใจกันดีอยู่แล้ว หากจะย้อนกลับไปสู่เกมอำนาจของฝ่ายตรงข้าม ก็เหมือนเดินเข้าหาซ่องโจร ฆ่าตัวตาย และหักหลังเพื่อน ทำแบบนั้นคงต้องเอาทฤษฎีส้นตีนมาประทับไว้บนใบหน้าของพรรคประชาธิปัตย์ !!!
เสือกระดาษ
ยังต้องเอาใจช่วย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และมวลมหาประชาชน ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สวนลุมฯ อย่างยืดยาว เชื่อว่าอีกไม่นานชัยชนะจะมาถึงแล้ว เพราะอะไรๆ เริ่มเข้าล็อกเข้าทางมากขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้วว่า การเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่ฝ่ายรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หลับหูหลับตาเร่งรีบเดินหน้าลุยตามบัญชานายใหญ่นักโทษหนีคดีทักษิณ ชินวัตร เป็นโมฆะ ลากถูเลือกตั้ง ท่ามกลางไฟขัดแย้ง ท่ามกลางความเห็นที่ไม่ตรงกันของสังคม สภาพก็ออกมาทุลักทุเลอย่างที่เห็น เป็นบทเรียนสอนใจเครือข่ายระบอบทักษิณว่า บ้านเมืองยังมีขื่อมีแป
**แน่นอนว่า การเลือกตั้งโมฆะไปแล้ว สุดท้ายมันก็ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เพียงแต่ยังสรุปไม่ได้ว่าจะมีกันเมื่อไหร่ ต้องทอดระยะเวลาไปอีกยาวเท่าใด เบื้องต้น กกต.ก็ออกมาแย้มไต๋แล้วว่าไม่รีบร้อน เพราะเลือกไปก็เข้าอีหรอบเดิม ถ้ายังไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไร
นั่นก็เหมือนมีคำตอบให้พรรคประชาธิปัตย์ไปในตัว พรรคประชาธิปัตย์กำลังจะนัดประชุมเพื่อตัดสินอนาคตทางการเมือง ในวันที่ 29 มี.ค. ไฮไลต์สำคัญคือ การตกลงปลงใจจะลงเลือกตั้งหรือไม่ หากมีการกำหนดวันเลือกตั้งออกมาอีกครั้ง
**แต่เมื่อสำรวจตรวจตราปัจจัยแวดล้อมแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเปลี่ยนใจกลับมาลงเลือกตั้ง เพราะทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม รัฐบาลก็ยังยืนกรานรักษาการต่อไปตามเดิม กติกาก็เหมือนเดิม ดังนั้นถ้ายึดจุดยืนเดิมก็คือ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ลงเลือกตั้ง
ตอนนี้หลายคนในพรรคก็รู้สึกสับสนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เว้นวรรคไปแล้วรู้สึกแปลกๆ อยากจะลงเลือกตั้งจนตัวสั่น เพื่อที่จะได้เป็นผู้แทนตามอาชีพของตัวเอง เป็นเพราะรู้สึกหวั่นไหวไปกับเสียงวิจารณ์ว่าเป็นนักการเมืองแต่กลัวการเลือกตั้ง ฉะนั้นจึงอยากให้พรรคต้นสังกัดทบทวนท่าทีลงเลือกตั้งได้หรือไม่
แต่ถ้าขืนทำอย่างนั้น สิ่งที่ต่อสู้มาก็สูญเปล่า สิ่งที่กำลังต่อสู้อยู่และต้องการความเปลี่ยนแปลง ณ ยามนี้ คือ ระบบซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกันกับ กปปส. วันนี้เลิกปฏิเสธได้แล้วว่าเป็นเครือข่ายเดียวกัน เด็กอมมือดูก็รู้ เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นสลักสำคัญอะไร
สำคัญคือ เป้าหมายต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองประเทศไทย ถ้าร่วมมือกันแล้วทำให้เกิดการตื่นตัว ปรับแต่งไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องสนเสียงคนนินทาหมาดูถูก !!!
**ถ้าประชาธิปัตย์ตัดสินใจโดดลงสนาม ทุกอย่างก็จบ
**"อภิสิทธิ์" หักหลัง "เทพเทือก" ประชาธิปัตย์ หักหลังกปปส. จากที่เดินเกมรุกก็ต้องเป็นฝ่ายเดินเกมถอย จนสุดกระดานบ้าง
มันพิสูจน์มาแล้วว่าการเมืองในระบบรัฐสภาเดิมๆ สู้รบปรบมือกับพรรคเพื่อไทย ฝ่ายอำนาจทุนนิยมสามานย์ไม่ไหว หลายปีที่ผ่านมา มันได้สร้างระบบการซื้อ การเหมาเข่ง กวาดต้อนทุกองคาพยพให้เข้าพวกเป็นฝ่ายตัวเอง กินรวบประเทศไทยเบ็ดเสร็จ จนทุกฝ่ายขนานนามเป็นระบอบทักษิณ
**ก็รู้ ก็เห็น ก็เข้าใจกันดีอยู่แล้ว หากจะย้อนกลับไปสู่เกมอำนาจของฝ่ายตรงข้าม ก็เหมือนเดินเข้าหาซ่องโจร ฆ่าตัวตาย และหักหลังเพื่อน ทำแบบนั้นคงต้องเอาทฤษฎีส้นตีนมาประทับไว้บนใบหน้าของพรรคประชาธิปัตย์ !!!
เสือกระดาษ