00 สังเกตหรือไม่ว่า ทั้งคนและสัตว์ก่อนที่จะตายมักจะดิ้นรนเฮือกสุดท้ายเสมอ ซึ่งก็เปรียบเหมือนกับ ระบอบทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ออกมาโวยวาย ข่มขู่ คุกคามองค์กรอิสระ และศาลหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะอยู่ในอาการดังกล่าว เหมือนกับว่ายิ่งใกล้ตายก็ยิ่งดิ้นรนหนักข้อจนเกือบจะหมดแรงแล้ว เหมือนอย่างในเฉพาะหน้าวันศุกร์นี้ ศาลรธน. มีกำหนดชี้ชะตาว่าการเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะหรือไม่ และเมื่อพิจารณาจากอาการที่แสดงออกมันก็เหมือนกับว่าใกล้ตายเต็มทีแล้ว
00 แม้ว่าไม่ใช่"เซียนกม.ชั้นอ๋อง" แต่เมื่อพิจารณาจากข้อกม. และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่าต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปพร้อมกัน มีการนับคะแนนพร้อมกัน และที่สำคัญต้องมีความยุติธรรม ไม่มีการใช้อำนาจเพื่อสร้างความได้เปรียบ เสียเปรียบกับผู้สมัครรายอื่น แต่กลายเป็นว่าในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้อำนาจนายกฯ ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้อำนาจพิเศษเอาเปรียบคนอื่น ดังนั้นไม่ว่ามองในมุมใหนมันก็ต้องผิด และฟันธงได้เลยว่า "โมฆะ" แน่นอน !!
00 น่าสนใจก็คือ คำพูดของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เถียงคอเป็นเอ็นว่า ยังไงก็"เลื่อนเลือกตั้งไม่ได้" ต้องเดินหน้าเลือกตั้งไปตามกำหนด แต่เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ศาลรธน.ก็ย้ำใส่หน้า พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ ในฐานะ "ทะแนะ" ที่ส่งไปเป็นตัวแทนแก้ต่างว่า "ที่ผ่านมาศาลฯเคยบอกให้เลื่อนได้ แล้วทำไมถึงไม่เลื่อนหือ" เพราะถ้ารู้ว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. มีปัญหาจะฆ่ากันตาย ก็สามารถออกกฤษฎีกาเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปใหม่ได้ เมื่อ"ชี้ช่องเป็น" ให้แล้ว แต่ไม่ยอมเดินจะ "เดินไปช่องตาย" ให้ได้ เมื่อถึงตอนนั้นแล้วจะมาโวยวายโทษใครไม่ได้แล้ว ขณะที่ประธาน กกต. ศุภชัย สมเจริญ ยืนยันว่า กกต. การออกกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ เป็นอำนาจของรัฐบาล และได้เสนอไปแล้วรัฐบาลไม่ยอมทำ ดันทุรังให้เลือกตั้งตามกำหนดเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเละอย่างที่เห็น คนที่ต้องรับผิดชอบก็หนีไม่พ้น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เคยพูดอย่างเท่ว่า "ขอตายคาประชาธิปไตย" นั่นแหละ
00 จะบอกว่าไม่เคยสรุปบทเรียน หรือเหิมเกริม ถือดี ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาก็ได้ เพราะทุกครั้งที่พอฝ่ายรัฐบาลตกเป็นจำเลยโดนคดีทุจริต ประพฤติมิชอบก็มักจะอ้างว่าหน่วยงานนั่น "ไม่มีอำนาจ" เช่น อ้างว่า ผู้ตรวจการไม่มีอำนาจในการเสนอเรื่องให้ศาลรธน. รวมทั้งอ้างว่าศาลรธน.ไม่มีอำนาจมาชี้ขาดเรื่องแบบนี้ หรือไปโวยวายอยู่ข้างนอกว่า ถูกกลั่นแกล้ง สารพัด แต่สุดท้ายก็เสร็จทุกที เห็นมาตั้งแต่ยุบพรรคไทยรักไทย เรื่อยมาแล้ว พาลพาโลไปเรื่อย คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อพิจารณาตามรูปการณ์ผลก็ไม่น่าแตกต่างกัน นั่นคือ โดนแน่ !!
00 คำพูดที่ส่อสันดานอันธพาลเดิมๆก็คือ คำพูดของ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ออกมาขู่ว่า ถ้าการเลือกตั้งโมฆะจะเกิดการ "นองเลือด" ซึ่งมันจะนองเลือดขึ้นได้ก็มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือ รัฐบาลเถื่อนถ่อยพวกนี้มันยุยงปลุกปั่นให้คนเสื้อแดง ให้กองกำลังติดอาวุธเสื้อแดงมาก่อจลาจล เพื่อหวังข่มขู่ให้เป็นตามความต้องการของตัวเอง ตามความต้องการของ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่านั้น อย่างไรก็ดี เมื่อออกอาการแบบนี้มันสะท้อนให้เห็นว่าเป็นการ "ดิ้นรนก่อนตาย" นั่นแหละ !!
00 แม้ว่าไม่ใช่"เซียนกม.ชั้นอ๋อง" แต่เมื่อพิจารณาจากข้อกม. และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่าต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปพร้อมกัน มีการนับคะแนนพร้อมกัน และที่สำคัญต้องมีความยุติธรรม ไม่มีการใช้อำนาจเพื่อสร้างความได้เปรียบ เสียเปรียบกับผู้สมัครรายอื่น แต่กลายเป็นว่าในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้อำนาจนายกฯ ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้อำนาจพิเศษเอาเปรียบคนอื่น ดังนั้นไม่ว่ามองในมุมใหนมันก็ต้องผิด และฟันธงได้เลยว่า "โมฆะ" แน่นอน !!
00 น่าสนใจก็คือ คำพูดของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เถียงคอเป็นเอ็นว่า ยังไงก็"เลื่อนเลือกตั้งไม่ได้" ต้องเดินหน้าเลือกตั้งไปตามกำหนด แต่เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ศาลรธน.ก็ย้ำใส่หน้า พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ ในฐานะ "ทะแนะ" ที่ส่งไปเป็นตัวแทนแก้ต่างว่า "ที่ผ่านมาศาลฯเคยบอกให้เลื่อนได้ แล้วทำไมถึงไม่เลื่อนหือ" เพราะถ้ารู้ว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. มีปัญหาจะฆ่ากันตาย ก็สามารถออกกฤษฎีกาเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปใหม่ได้ เมื่อ"ชี้ช่องเป็น" ให้แล้ว แต่ไม่ยอมเดินจะ "เดินไปช่องตาย" ให้ได้ เมื่อถึงตอนนั้นแล้วจะมาโวยวายโทษใครไม่ได้แล้ว ขณะที่ประธาน กกต. ศุภชัย สมเจริญ ยืนยันว่า กกต. การออกกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ เป็นอำนาจของรัฐบาล และได้เสนอไปแล้วรัฐบาลไม่ยอมทำ ดันทุรังให้เลือกตั้งตามกำหนดเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเละอย่างที่เห็น คนที่ต้องรับผิดชอบก็หนีไม่พ้น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เคยพูดอย่างเท่ว่า "ขอตายคาประชาธิปไตย" นั่นแหละ
00 จะบอกว่าไม่เคยสรุปบทเรียน หรือเหิมเกริม ถือดี ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาก็ได้ เพราะทุกครั้งที่พอฝ่ายรัฐบาลตกเป็นจำเลยโดนคดีทุจริต ประพฤติมิชอบก็มักจะอ้างว่าหน่วยงานนั่น "ไม่มีอำนาจ" เช่น อ้างว่า ผู้ตรวจการไม่มีอำนาจในการเสนอเรื่องให้ศาลรธน. รวมทั้งอ้างว่าศาลรธน.ไม่มีอำนาจมาชี้ขาดเรื่องแบบนี้ หรือไปโวยวายอยู่ข้างนอกว่า ถูกกลั่นแกล้ง สารพัด แต่สุดท้ายก็เสร็จทุกที เห็นมาตั้งแต่ยุบพรรคไทยรักไทย เรื่อยมาแล้ว พาลพาโลไปเรื่อย คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อพิจารณาตามรูปการณ์ผลก็ไม่น่าแตกต่างกัน นั่นคือ โดนแน่ !!
00 คำพูดที่ส่อสันดานอันธพาลเดิมๆก็คือ คำพูดของ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ออกมาขู่ว่า ถ้าการเลือกตั้งโมฆะจะเกิดการ "นองเลือด" ซึ่งมันจะนองเลือดขึ้นได้ก็มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือ รัฐบาลเถื่อนถ่อยพวกนี้มันยุยงปลุกปั่นให้คนเสื้อแดง ให้กองกำลังติดอาวุธเสื้อแดงมาก่อจลาจล เพื่อหวังข่มขู่ให้เป็นตามความต้องการของตัวเอง ตามความต้องการของ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่านั้น อย่างไรก็ดี เมื่อออกอาการแบบนี้มันสะท้อนให้เห็นว่าเป็นการ "ดิ้นรนก่อนตาย" นั่นแหละ !!