xs
xsm
sm
md
lg

ไม่รื้อบังเกอร์ M79ตกข้างบ้านตู่ ป๊อปคอร์นถูกจับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"เหลิม"ใส่ไฟ กปปส.-องค์กรอิสระ ผนึกกำลังล้มรัฐบาล ลั่นไม่ยอมแพ้ เตรียมระดมตำรวจมือดีไล่ล่าพวกมีหมายจับ ข้องใจ ป.ป.ช. ไต่สวน "ปู" ข้อหาปล่อย "จารุพงศ์-ณัฐวุฒิ" ปราศรัยปลุกปั่น อ้างเป็นลูกพรรคจะทำอะไรได้ แถมกองทัพก็แจ้งความแล้ว ทบ.ลั่นไม่มีทหารผีเบิกเบี้ยเลี้ยง ยันมีหลักฐานตรวจสอบได้ ย้ำคงบังเกอร์ 176 จุด เพื่อดูแลความเรียบร้อย เผยคนร้ายยิง M79 ถล่มเพื่อนบ้าน "ตู่" คาดยิงผิดบ้าน ตำรวจจับแล้วมือปืนป๊อปคอร์น

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เปิดเผยถึงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ว่า กปปส. เป็นองค์กรเถื่อน การชุมนุมเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นกลุ่มบุคคลที่ขัดขวางการเลือกตั้ง เป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด แต่องค์กรอิสระต่างๆ กลับแสดงท่าทียกย่องจะไปเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ทั้งที่เป็นผู้ต้องหากบฏ เรื่องนี้ไม่จบ เพราะพวกนี้รู้กัน จะล้มรัฐบาลให้ได้ เปรียบเหมือนต่อยมวย นายสุเทพกับพรรคประชาธิปัตย์ ต่อยมวยไทย รัฐบาลต่อยมวยสากล องค์กรอิสระต่างๆ ยังเอากุญแจมือมาใส่อีก แล้วบ้านเมืองจะไปได้อย่างไร ขัดสายตาคนดู

ทั้งนี้ หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้ตนเป็น ผอ.ศอ.รส. จากนี้ไปจะเพิ่มกำลังตำรวจจากต่างจังหวัด ตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง ทั้งก่อนเข้า-ออก สถานที่ชุมนุม เพื่อป้องกันการนำพาอาวุธเข้าไป แต่จะเว้นระยะห่างออกมาพอสมควร ยืนยันว่าไม่สลายการชุมนุม แต่หากพบสิ่งผิดกฎหมาย จะดำเนินคดี หลังจากนี้ จะเรียบเรียงหมายจับ และคดีอาญาทั่วไป ตนจะตั้งทีมนำนายตำรวจมือดี จากต่างจังหวัดมาดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับต่อไป

**ข้องใจป.ป.ช.รับไต่สวนนายกฯอีกคดี

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากไม่สั่งยับยั้ง และสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ไปปราศรัย ยุยง ให้เกิดความรุนแรงที่ จ.นครราชสีมา ว่า ตนตกใจว่าเป็นไปได้เชียวหรือ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแผ่งชาติ (นปช.) ชุมนุมที่จ.นครราชสีมา นายกฯ เกี่ยวอะไรด้วย เพราะเป็นลูกพรรค แต่นายจารุพงศ์ เป็นหัวหน้าพรรค ลูกพรรคจะไปสั่งหัวหน้าพรรคได้อย่างไร และ นปช. ไม่ใช่องค์กรพรรคเพื่อไทย แต่เป็นองค์กรหนึ่งที่รักความเป็นธรรม จะไปเอาผิดนายกฯ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไร เพราะไม่ใช่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา จะมีอำนาจไปจับใคร ส่วนที่บอกว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรมว.กลาโหม เรื่องนี้กองทัพบกไปแจ้งความแล้ว หากเป็นจริง บ้านเมืองไปไม่ได้ ไม่นานจะมีคนรวมตัวกันออกมาขับไล่องค์กรหนึ่งองค์กรใด ให้พ้นไปจากสารบบประเทศไทย วุ่นวายแน่ จากนี้ต่อไป ไม่มีใครยอมใคร

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คดีแบ่งแยกดินแดน ที่กองทัพบกไปแจ้งความ ถือว่าทำถูกต้องแล้ว ซึ่งตำรวจได้สืบสวนสอบสวน ตนได้เรียกผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 มาสอบถามแล้ว เบื้องต้นจากการสอบสวนสืบสวน ยังไม่พบว่า มีการแบ่งแยกดินแดน เป็นการประชดประชัน เหมือนละครเรื่องสามีตีตรา อย่าไปมองอะไรให้ซีเรียส

เมื่อถามถึงกรณีที่มีภาพ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับกองกำลังอาสาแบ่งแยกดินแดนสกลนคร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จะไปแบ่งแยกกับใคร ไอ้แรมโบ้ มันสนุกสนาน ไม่มีอะไร

**ศอ.รส.เดินหน้าดำเนินคดีกปปส.ต่อ

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขานุการ ศอ.รส. แถลงผลการประชุมว่า แม้จะยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว แต่การดำเนินคดีแกนนำ กปปส. ผู้กระทำผิดไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป เจ้าหน้าที่จะต้องนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อรับโทษต่อไป ทั้งความผิดร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันยุยงส่งเสริมให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ความผิดการขัดขวางการเลือกตั้ง และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง

ส่วนกรณีศาลอาญาธนบุรี ได้อนุมัติหมายจับนายชุมพล จุลใส แกนนำ กปปส. ในฐานขัดขวางการเลือกตั้ง จากการที่ได้เป็นแกนนำพามวลชนไปปิดล้อมหน่วยเลือกตั้ง สำนักงานเขตภาษีเจริญ ซึ่ง ศอ.รส. จะได้กำกับดูแล และเร่งรัดให้การดำเนินคดีเป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อเป็นการป้องปรามให้ผู้ที่กำลังกระทำความผิดอยู่ ยุติการกระทำผิดเสีย และมิให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ที่คิดจะกระทำผิดในอนาคต

** ทบ.ยันไม่มีทหารผี เบิกเบี้ยเลี้ยง

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ระบุว่า มีทหารผีที่มีชื่อ แต่ไม่มีตัวตนออกมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย แต่กลับมีการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 700 บาท ซึ่งมากกว่าทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการสงสัยเชิงกล่าวหา กองทัพบกยืนยันว่า เรื่องอัตราเบี้ยเลี้ยงดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบราชการ ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ภายใต้บัญชีกำลังของศูนย์รักษาความสงบ ที่จะได้รับในอัตราเดียวกันทั้งหมด โดยมีรัฐบาลเป็นผู้อนุมัติ และยืนยันว่า ยอดการเบิกก็ตรงกับผู้ปฏิบัติงานจริง มีบันทึกเป็นหลักฐานตรวจสอบได้

"ผู้ที่กล่าวถึง อาจได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อนจากผู้ไม่หวังดีที่พยายามสร้างความแตกแยก หรืออาจพยายามทำลายกองทัพ เพราะการเสนอข้อมูลลักษณะนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีผลกระทบองค์กร ไม่อยากให้ประเมิน หรือมองสิ่งต่างๆ โดยอาศัยเพียงทัศนคติส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว อยากขอให้ทุกฝ่ายลดการพูดจากล่าวหาให้ร้ายผู้บังคับบัญชา และกองทัพ โดยปราศจากหลักฐาน หรือได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน"รองโฆษกกองทัพบกกล่าว

**ย้ำเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินยังไม่รื้อบังเกอร์

รองโฆษกกองทัพบกกล่าว กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทหารยังคงตั้งจุดตรวจร่วมบริการประชาชน หรือบังเกอร์ จำนวน 176 จุดตามเดิม เนื่องจากต้องการดูแลรักษาความปลอดภัย และเฝ้าระวังเหตุต่างๆ ยังคงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจตามปกติ ซึ่งการปรับหรือลดบังเกอร์นั้น ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ และที่ผ่านมา ก็ได้พยายามปรับรูปแบบบังเกอร์ให้มีความกลมกลืนกับสถานที่นั้นๆ บางส่วนย้ายไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม โดยยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ยังคงต้องมีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยเหมือนเดิม

พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) ในฐานะผู้บัญชาการกำลังทหาร กล่าวว่า ถ้าจะให้ปรับลดจุดตรวจความมั่นคงทหารนั้น ต้องรอให้ได้ข้อสรุปจาก ศอ.รส. ที่ชัดเจนเสียก่อน

**ผู้ว่าฯกทม.ขอให้กองทัพคงบังเกอร์ไว้

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะที่เป็น ผอ.ศูนย์รักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร ได้ทำหนังสือถึงกองทัพ เพื่อให้ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ด้วยการคงมีบังเกอร์ทั้ง 176 จุดไว้ และเพิ่มการตรวจสอบด้วยกล้องวงจรปิด เพื่อให้มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชน เป็นไปอย่างเข้มข้นมากขึ้นด้วย หลังจากที่รัฐบาลได้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงแทน

** จับแล้วมือปืนป๊อปคอร์น

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.น 2 และ บช.ภ.1 ซึ่งเป็นชุดจับกุม สามารถจับกุมตัว นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือมือปืนป๊อปคอร์น ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องห้ามนำอาวุธปืนออกนอกเคหะสถาน กรณีเหตุการณ์ปะทะบริเวณแยกหลักสี่ ได้แล้ว หลังชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามโดยสามารถจับกุมได้ ขณะหลบหนีไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ กทม. และจะมีการแถลงข่าวการจับกุมในวันนี้ (20มี.ค.) ทั้งนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยืนยันว่า นายวิวัฒน์ ไม่ได้ต่อสู้ หรือขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด

**ยิงเอ็ม 79 ใส่เพื่อนบ้าน "ตู่"

พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น. 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ สินสูงสุด ผกก.สน.สายไหม พ.ต.ท.จิธณัท ชนะนนทกานต์ พงส.ผนพ. พ.ต.ท.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ สว.สส.สน.สายไหม เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เร่งเดินทางเข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 99/88 หมู่บ้านวิสต้า พาร์ค วัชรพล ถนนวัชพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. หลังได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืน สงครามยิงใส่ตัวบ้าน

โดยบ้านที่เกิดเหตุเป็นทาว์นโฮม 3 ชั้น ตรวจสอบพบบริเวณหน้าต่างห้องพระ ชั้นที่ 3 มีกระสุนปืนติดอยู่ที่ผนังปูน 1 หัว และที่พื้นอีก 1 หัว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บไปตรวจสอบ ก่อนพบว่า เป็นกระสุนปืนกล ขนาด 7.62 มม. ซึ่งใช้กับปืนไรเฟิล หรือใช้ปืนกลที่ติดรถฮัมวี่ ใช้ในราชการสงคราม

น.ส.ณรชต รชตะหิรัญกาล อายุ 34 ปี เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมสุขภาพ กล่าวว่า บ้านหลังนี้มีคนอยู่ 4 คน ในตอนเกิดเหตุตอนเวลาประมาณ 02.00 น. (19มี.ค.) ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด อีกราว 5 นาที ดังอีก 1 นัด พร้อมกับมีเสียงเศษปูนแตกที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องพระ ตนจึงเดินขึ้นไปดู ก็พบว่ามีร่องรอยการถูกยิงมาจากด้านนอก จึงได้ให้ทุกคนที่อยู่ในบ้านลงมาอยู่ที่บริเวณชั้นล่างทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย จนถึงเช้าจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน แต่ตั้งข้อสังเกตว่า บ้านของตน อยู่ติดกับบ้านของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ซึ่งคนร้ายน่าจะยิงผิดบ้านมากกว่า

ต่อมานายจตุพร พร้อมผู้ติดตามเดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งว่าบ้านติดกันถูกยิงถล่ม จึงเดินทางมาตรวจสอบบ้านของตนเอง เลขที่ 99/90-92 ตั้งอยู่ติดกันเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น

นายจตุพร กล่าวว่า คนร้ายน่าจะประสงค์ยิงบ้านตนเองอย่างแน่นอน แต่เป็นการผิดบ้านมากกว่า ซึ่งตนก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่า จะต้องโดนเข้าสักวัน เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการเมือง แต่คิดว่าไม่น่าเกี่ยวกับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ออกมาระบุว่า หากนปช.แรงมา จะแรงกลับ เพราะตนยังไม่แรงไป ท่านก็ไม่น่าจะแรงมา ส่วนเป็นฝีมือของกลุ่มใดนั้น ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบเอง ส่วนตนต้องรีบเดินทางไปทำงานทางภาคเหนือต่ออีก

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ได้รับแจ้งว่า มีเหตุระเบิดภายในบ้านเลขที่ 8/48-50 ภายในหมู่บ้านลัดดารมย์ ที่อยู่ติดกัน จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ พบสะเก็ดระเบิด ขนาด M79 ตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นสนามหญ้าทั้งสองหลัง พร้อมกับร่องรอยสะเก็ดระเบิด กระเด็นไปถูกกระจกในตัวบ้าน และรถยนต์ อีก 2 คัน เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น