วานนี้ (13มี.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เส้นทางใบเหลือง ของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. (วันเวลาที่ระบุ เป็นการประมาณการครับ ห้ามอ้างอิง) คือ
1.วันที่ 21-24 มีนาคม กกต. 5 คน ลงนาม ในหนังสือคำวินิจฉัยตามมติ กกต.ส่งศาลอุทธรณ์กลาง
2. ศาลอุทธรณ์กลาง ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ในการพิจารณาว่า จะรับคำร้องหรือไม่ ซึ่งน่าจะไม่เกินวันที่ 26 มี.ค. กรณีศาลไม่รับคำร้อง ถือว่า คำวินิจฉัยของกกต. ตกไป กรณีศาลรับคำร้อง ผู้ว่าฯ กทม.ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้รองผู้ว่าฯ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทน
3. กรณีรับคำร้อง ศาลจะใช้เวลาไต่สวนประมาณ 4-6 เดือน ในการพิจารณาพยานหลักฐาน และเปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายนำเสนอพยานของฝ่ายตนเอง หากพยานมากราย การพิจารณาก็จะใช้เวลายาวนานมากขึ้น
4. ประมาณ กันยายน 2557 ศาลน่าจะมีคำตัดสิน กรณีไม่ผิด ผู้ว่าฯ กลับมาทำหน้าที่ตามปกติ กรณี ผิด ผู้ว่าฯ ต้องพ้นตำแหน่ง และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ใน 60 วัน นับแต่มีคำพิพากษา
5. กรณีที่มีการเลือกตั้งใหม่ น่าจะเป็นประมาณเดือนพ.ย. หรือ ธ.ค. 57 ให้มีการรับสมัครใหม่ ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และ ผู้สมัครเดิมอื่นๆ จะลง หรือไม่ลงก็ได้ และผู้สมัครรายใหม่ สามารถสมัคร และมีการหาเสียงใหม่ ในการเลือกตั้งใหม่ที่เกิดขึ้น
6. ผู้ว่าฯ กทม. ที่มาจากการเลือกตั้งใหม่ จะมีวาระการทำงาน 4 ปี ไม่ใช่วาระต่อเนื่องจากที่เหลือ
ทั้งนี้ นายสมชัย ระบุทิ้งท้ายว่า " 2557 ปีแห่งการเลือกตั้งไม่รู้จบ "
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี กกต.มีมติ ให้ใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ว่า ต้องรอให้ศาลอุทธรณ์ มีคำตัดสินที่ชัดเจนออกมาก่อน พรรคจึงจะประชุมเพื่อกำหนดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. จะเป็น พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ปปส. หรือไม่ ต้องหารือก่อน แต่ยืนยันว่า จะส่งผู้สมัครลงแน่นอน ไม่กลัวว่าคะแนนเสียงจะลดลง เพราะพรรคการเมือง ต้องเคารพเสียงประชาชน อีกทั้งจะได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว ประชาชนคิดเห็นอย่างไร
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องไปยังหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เตรียมวางแผนสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ใหม่ดีกว่า ว่าจะหาเสียงอย่างไรให้ชนะ โดยไม่ต้องใส่ร้ายป้ายสีคู่แข่ง หากไม่ชี้หน้าด่าคนอื่นให้ตัวเองดูดี ไม่รู้ว่าจะชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ ตอนนี้ทางพรรคขอรอศาลมีคำพิพากษาออกมาก่อน ว่าจะให้เลือกตั้งใหม่หรือไม่ ภาคกทม.พร้อมต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งปีที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ ชนะ เพื่อไทย ไปไม่กี่เสียง ถ้าเปรียบเทียบว่า คนกทม. 100 คน เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 51 คน และเลือกพรรคเพื่อไทย 49 คน ดังนั้น หากพรรคประชาธิปัตย์ เล่นแฟร์เพลย์ ไม่ใส้ร้ายป้ายสี ก็คงไม่ต้องเสียงบประมาณในการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.ใหม่ อีกเป็นพันๆ ล้านบาท
ตอนนี้ผู้สมัครของพรรคยังเป็นพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ปปส. อยู่ โดยพรรคจะรอผลการพิพากษาของศาลก่อนที่จะกำหนดทิศทางการเตรียมการเลือกตั้ง และออกเป็นมติพรรคต่อไป
ส่วนที่มีข่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะลาออกนั้น ตนอยากเรียกร้อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อย่าเพิ่งลาออก เพราะเหมือนเป็นการตัดตอนคดี แต่หากลาออกจริง ทางคณะกรรมการปราบโกงของพรรคเพื่อไทย จะดำเนินการตรวจสอบการใช้งบประมาณของ รอง ผู้ว่าฯกทม.อย่างเข้มงวด
1.วันที่ 21-24 มีนาคม กกต. 5 คน ลงนาม ในหนังสือคำวินิจฉัยตามมติ กกต.ส่งศาลอุทธรณ์กลาง
2. ศาลอุทธรณ์กลาง ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ในการพิจารณาว่า จะรับคำร้องหรือไม่ ซึ่งน่าจะไม่เกินวันที่ 26 มี.ค. กรณีศาลไม่รับคำร้อง ถือว่า คำวินิจฉัยของกกต. ตกไป กรณีศาลรับคำร้อง ผู้ว่าฯ กทม.ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้รองผู้ว่าฯ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทน
3. กรณีรับคำร้อง ศาลจะใช้เวลาไต่สวนประมาณ 4-6 เดือน ในการพิจารณาพยานหลักฐาน และเปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายนำเสนอพยานของฝ่ายตนเอง หากพยานมากราย การพิจารณาก็จะใช้เวลายาวนานมากขึ้น
4. ประมาณ กันยายน 2557 ศาลน่าจะมีคำตัดสิน กรณีไม่ผิด ผู้ว่าฯ กลับมาทำหน้าที่ตามปกติ กรณี ผิด ผู้ว่าฯ ต้องพ้นตำแหน่ง และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ใน 60 วัน นับแต่มีคำพิพากษา
5. กรณีที่มีการเลือกตั้งใหม่ น่าจะเป็นประมาณเดือนพ.ย. หรือ ธ.ค. 57 ให้มีการรับสมัครใหม่ ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และ ผู้สมัครเดิมอื่นๆ จะลง หรือไม่ลงก็ได้ และผู้สมัครรายใหม่ สามารถสมัคร และมีการหาเสียงใหม่ ในการเลือกตั้งใหม่ที่เกิดขึ้น
6. ผู้ว่าฯ กทม. ที่มาจากการเลือกตั้งใหม่ จะมีวาระการทำงาน 4 ปี ไม่ใช่วาระต่อเนื่องจากที่เหลือ
ทั้งนี้ นายสมชัย ระบุทิ้งท้ายว่า " 2557 ปีแห่งการเลือกตั้งไม่รู้จบ "
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี กกต.มีมติ ให้ใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ว่า ต้องรอให้ศาลอุทธรณ์ มีคำตัดสินที่ชัดเจนออกมาก่อน พรรคจึงจะประชุมเพื่อกำหนดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. จะเป็น พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ปปส. หรือไม่ ต้องหารือก่อน แต่ยืนยันว่า จะส่งผู้สมัครลงแน่นอน ไม่กลัวว่าคะแนนเสียงจะลดลง เพราะพรรคการเมือง ต้องเคารพเสียงประชาชน อีกทั้งจะได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว ประชาชนคิดเห็นอย่างไร
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องไปยังหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เตรียมวางแผนสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ใหม่ดีกว่า ว่าจะหาเสียงอย่างไรให้ชนะ โดยไม่ต้องใส่ร้ายป้ายสีคู่แข่ง หากไม่ชี้หน้าด่าคนอื่นให้ตัวเองดูดี ไม่รู้ว่าจะชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ ตอนนี้ทางพรรคขอรอศาลมีคำพิพากษาออกมาก่อน ว่าจะให้เลือกตั้งใหม่หรือไม่ ภาคกทม.พร้อมต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งปีที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ ชนะ เพื่อไทย ไปไม่กี่เสียง ถ้าเปรียบเทียบว่า คนกทม. 100 คน เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 51 คน และเลือกพรรคเพื่อไทย 49 คน ดังนั้น หากพรรคประชาธิปัตย์ เล่นแฟร์เพลย์ ไม่ใส้ร้ายป้ายสี ก็คงไม่ต้องเสียงบประมาณในการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.ใหม่ อีกเป็นพันๆ ล้านบาท
ตอนนี้ผู้สมัครของพรรคยังเป็นพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ปปส. อยู่ โดยพรรคจะรอผลการพิพากษาของศาลก่อนที่จะกำหนดทิศทางการเตรียมการเลือกตั้ง และออกเป็นมติพรรคต่อไป
ส่วนที่มีข่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะลาออกนั้น ตนอยากเรียกร้อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อย่าเพิ่งลาออก เพราะเหมือนเป็นการตัดตอนคดี แต่หากลาออกจริง ทางคณะกรรมการปราบโกงของพรรคเพื่อไทย จะดำเนินการตรวจสอบการใช้งบประมาณของ รอง ผู้ว่าฯกทม.อย่างเข้มงวด