นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันนี้ (12มี.ค.) ซึ่งรัฐบาลมีท่าทีจะไม่รับผิดชอบ หากถูกชี้ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่แปลกใจกับท่าทีของรัฐบาล เพราะทุกเรื่องที่รัฐบาลจงใจทำผิดกฎหมาย หรือขัดรัฐธรรมนูญ ก็ไม่เคยแสดงท่าทีรับผิดชอบใดๆ ซึ่งต้องรอดูผลการวินิจฉัยว่า จะเป็นอย่างไร แต่ตนให้เหตุผลต่อศาลฯว่า รัฐบาลจงใจหลีกเลี่ยงวิธีการตามระบบงบประมาณ เพราะการจะกู้เงินมาใช้ แต่หลีกเลี่ยงกระบวนการตรวจสอบการใช้จ่าย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์สำคัญในหมวดเรื่องการเงิน การขัดรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องการสุ่มเสี่ยงต่อการเสียวินัยการเงินการคลังของรัฐ ซึ่งเป็นประเด็นที่เรามองว่า ขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน และเชื่อว่ารัฐบาลเองก็มองออกเช่นกัน เพียงแต่พยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ เพื่อได้ใช้เงินจำนวนมหาศาลนี้ อีกทั้งฝ่ายรัฐบาลเองก็ไม่ได้โต้แย้งว่า ประเด็นดังกล่าว ถือเป็นการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินด้วย
สำหรับประเด็นการลงคะแนนโหวตในสภา ที่มีการทุจริตนั้น คาดว่าจะเป็นผลเฉพาะตัวของผู้กระทำ เช่นเดียวกับคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมก่อนหน้านี้ แต่ก็จะเกี่ยวเนื่องถึงเนื้อหาสาระของ ร่าง พ.ร.บ.นี้ หากจะมีการใช้บรรทัดฐานเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายนี้ ก็จะถือเป็นโมฆะทันที
ส่วนที่ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และรมช.เกษตรฯ อ้างว่า กฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาแล้ว แม้จะถูกชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากดูแนววินิจฉัยของ ป.ป.ช. ที่ให้ความคุ้มครองกับคนลงมติ แต่กรณีของ ร่าง รัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. ศาลฯ ก็ชี้มูลความผิดกับคนที่เสนอร่างนี้ด้วย แต่กรณีนี้ เมื่อฝ่ายค้านพยายามแปรญัตติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แม้สภาจะเป็นผู้พิจารณา แต่รัฐบาลที่มีเสียงข้าง
มากในสภา ก็ยืนยันว่าไม่แก้ไข และเนื้อหาสาระที่ผิดมาตั้งแต่ที่รัฐบาลเสนอ ไม่ได้มีการแก้ไขในสภา อีกทั้งรัฐบาลต้องรับผิดชอบทุกครั้งที่มีการเสนอเกี่ยวกับกฎหมายการเงิน แต่ก็ไม่มีใครคาดหวังการแสดงความรับผิดชอบของรัฐบาล ส่วนจะมีการดำเนินคดีอาญาตามมาหรือไม่นี้น ต้องขอดูรายละเอียดในคำวินิจฉัยก่อน
นายกรณ์ จาติกวนิช อดีต รมว.คลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า กรณีที่ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรฯ อ้างว่าหากศาลรัฐธรรมนูญตี พ.ร.บ.กู้ 2ล้านล้านบาทตกไป รัฐบาลไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบ เพราะผ่านการพิจารณาของสภาฯไปแล้วนั้น เป็นการสะท้อนจิตสำนึกของรัฐบาลนี้เป็นอย่างดี กฎหมายนี้รัฐบาลเป็นคนเสนอ ทั้งๆ ที่มีคนเตือนแต่แรกว่า แนวโน้มจะขัดรัฐธรรมนูญ จากนั้น สภาฯ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นเสียงข้างมากก็ยกมือผ่านกฎหมายให้ ทั้งๆ ที่มีฝ่ายค้านพยายามทักท้วง ดังนั้นในกรณีที่ศาลมีมติว่า พ.ร.บ.กู้เงินนี้ขัดต่อกฎหมายสูงสุดของประเทศ ถ้าไม่ใช่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องออกมารับผิดชอบ แล้วจะเป็นใครที่ไหน ต้องรับผิดชอบครับ
"อย่าลืมว่า นี่คือพฤติกรรมของพรรคที่อ้างว่าจะไม่กู้เงิน วันนี้นอกจากจะไม่รับผิดชอบแล้วยังมีหน้ามาบอกด้วยว่า ประเทศจะไม่เจริญ ถ้าศาลไม่ให้กู้ เหลือเชื่อจริงๆ"
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ออกมาเป็น
ผลลบต่อรัฐบาล ว่า ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายโอกาส ที่ประเทศไทยของเราจะพัฒนา โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทิศทางในอนาคตต้องเรียนว่า แผนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน ทุกๆ เส้นทางที่เรานำมาเสนอ เป็นเส้นทางที่เราทำความเข้าใจ และเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ก็เชื่อว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็แล้วแต่รัฐบาลใหม่ จะรับไปพิจารณา
สำหรับประเด็นการลงคะแนนโหวตในสภา ที่มีการทุจริตนั้น คาดว่าจะเป็นผลเฉพาะตัวของผู้กระทำ เช่นเดียวกับคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมก่อนหน้านี้ แต่ก็จะเกี่ยวเนื่องถึงเนื้อหาสาระของ ร่าง พ.ร.บ.นี้ หากจะมีการใช้บรรทัดฐานเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายนี้ ก็จะถือเป็นโมฆะทันที
ส่วนที่ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และรมช.เกษตรฯ อ้างว่า กฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาแล้ว แม้จะถูกชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากดูแนววินิจฉัยของ ป.ป.ช. ที่ให้ความคุ้มครองกับคนลงมติ แต่กรณีของ ร่าง รัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. ศาลฯ ก็ชี้มูลความผิดกับคนที่เสนอร่างนี้ด้วย แต่กรณีนี้ เมื่อฝ่ายค้านพยายามแปรญัตติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แม้สภาจะเป็นผู้พิจารณา แต่รัฐบาลที่มีเสียงข้าง
มากในสภา ก็ยืนยันว่าไม่แก้ไข และเนื้อหาสาระที่ผิดมาตั้งแต่ที่รัฐบาลเสนอ ไม่ได้มีการแก้ไขในสภา อีกทั้งรัฐบาลต้องรับผิดชอบทุกครั้งที่มีการเสนอเกี่ยวกับกฎหมายการเงิน แต่ก็ไม่มีใครคาดหวังการแสดงความรับผิดชอบของรัฐบาล ส่วนจะมีการดำเนินคดีอาญาตามมาหรือไม่นี้น ต้องขอดูรายละเอียดในคำวินิจฉัยก่อน
นายกรณ์ จาติกวนิช อดีต รมว.คลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า กรณีที่ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรฯ อ้างว่าหากศาลรัฐธรรมนูญตี พ.ร.บ.กู้ 2ล้านล้านบาทตกไป รัฐบาลไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบ เพราะผ่านการพิจารณาของสภาฯไปแล้วนั้น เป็นการสะท้อนจิตสำนึกของรัฐบาลนี้เป็นอย่างดี กฎหมายนี้รัฐบาลเป็นคนเสนอ ทั้งๆ ที่มีคนเตือนแต่แรกว่า แนวโน้มจะขัดรัฐธรรมนูญ จากนั้น สภาฯ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นเสียงข้างมากก็ยกมือผ่านกฎหมายให้ ทั้งๆ ที่มีฝ่ายค้านพยายามทักท้วง ดังนั้นในกรณีที่ศาลมีมติว่า พ.ร.บ.กู้เงินนี้ขัดต่อกฎหมายสูงสุดของประเทศ ถ้าไม่ใช่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องออกมารับผิดชอบ แล้วจะเป็นใครที่ไหน ต้องรับผิดชอบครับ
"อย่าลืมว่า นี่คือพฤติกรรมของพรรคที่อ้างว่าจะไม่กู้เงิน วันนี้นอกจากจะไม่รับผิดชอบแล้วยังมีหน้ามาบอกด้วยว่า ประเทศจะไม่เจริญ ถ้าศาลไม่ให้กู้ เหลือเชื่อจริงๆ"
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ออกมาเป็น
ผลลบต่อรัฐบาล ว่า ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายโอกาส ที่ประเทศไทยของเราจะพัฒนา โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทิศทางในอนาคตต้องเรียนว่า แผนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน ทุกๆ เส้นทางที่เรานำมาเสนอ เป็นเส้นทางที่เราทำความเข้าใจ และเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ก็เชื่อว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็แล้วแต่รัฐบาลใหม่ จะรับไปพิจารณา