xs
xsm
sm
md
lg

จากล้มเจ้าถึงแยกประเทศ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 มีแต่ใช้ระยะเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ในตอนแรกคนที่รู้ทันแล้วออกมาเปิดโปงว่า ทักษิณ ชินวัตร เหิมเกริมคิดการใหญ่ หลังจาก "ร่ำรวยกอบโกย"ได้ที่แล้ว และแฉว่า "พวกซ้ายอกหัก" ที่อยู่รอบตัวเขานี่แหละเป็นพวก "ล้มเจ้า" และที่ผ่านมาในยุครัฐบาล ทักษิณ ตั้งแต่ปี 44 เป็นต้นมา มีเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน มี "ขบวนการล้มเจ้า" ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ในตอนนั้น สนธิ ลิ้มทองกุล เคยออกมาชี้ให้สังคมไทยได้รับรู้ถึงขบวนการ"อุบาทว์" พวกนี้ แต่ผลที่ได้รับก็คือ เสียงตำหนิ ประนามว่า "มีเจตนาโหนเจ้า" หรือ "จินตนาการเลยเถิด" ซึ่งน่าเจ็บปวดไปกว่านั้นก็คือ คนที่อยู่ใกล้ชิดสถาบันฯ กลับออกมาร่วมวงตำหนิกับเขาด้วย ทำนองว่าอย่าดึงสถาบันฯ มายุ่งกับการเมือง กล่าวหากันสารพัด
00 แล้ววันนี้เป็นไง ทุกเรื่องล้วนเป็นจริงหมด อย่างเรื่อง"แยกประเทศ" ก็ล้วนมาจาก "ระบอบทักษิณ" มี ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวนี้ เป็นศูนย์กลางทั้งสิ้น แม้ว่าบางเรื่องอาจมีการปรับแต่ง แตกแขนงแบบพัฒนาการ ลงจากเดิมจะเปลี่ยนเป็น "รัฐไทยใหม่" และตัวเองทะเยอทะยานอยากเป็น "ประธานาธิบดี" เมื่อถูกสังคมจับได้ และรุมกระทืบจนล่าสุดพยายาม"สร้างกระแส"ใหม่เป็น "สปป.ล้านนา" ห่าเหวอะไรนั่น ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เอาเป็นว่าเวลานี้ "แก๊งอุบาทว์" พวกนี้ กำลังถอยร่นไม่เป็นขบวน เป็นเพราะกาลเวลาได้ "ประจาน" ให้เห็นธาตุแท้ออกมาจนหมดเปลือกนั่นแหละ
00 ขณะเดียวกันเมื่อเวลาผ่านไปก็ยิ่งได้เห็นความทุเรศของคนพวกนี้มากขึ้นจนถึงกึ๋น จนบางครั้งก็นึกไม่ถึงว่าจะเลวได้ใจถึงเพียงนี้ รวมทั้งไม่น่าเชื่อว่าบางครั้งก็ไม่คิดว่าจะ"โชว์โง่" หรือคิดว่า "คนอื่นจะโง่เหมือนตัวเอง" หรือเปล่าไม่รู้ เพราะคำพูดเพ้อเจ้อว่า จะแยกแผ่นดินเป็น สปป.ล้านนา รวมถึง ประเทศ "อีสานล้านนา" มีหลักฐานทั้งคนพูด มีทั้งแผ่นป้ายเขียนข้อความกันอย่างดี ติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง เห็นกันจะจะแบบเย้ยกม. เพราะคงคิดว่าพวกตัวเองเป็นรัฐบาล คุมอำนาจรัฐ มีตำรวจเป็นลูกน้อง จึงไม่หวั่นเกรงอะไรทั้งสิ้น แต่กลายเป็นว่าหลักฐานดังกล่าวทำให้สังคมไทยได้เห็นถึงธาตุแท้ของคนพวกนี้ชัดแจ้ง และฉับพลันทันใด ก็เกิด "กระแสต้าน" แรงขึ้นกว่าเดิม จนพวกนี้ก็ใช้วิธีเดิมๆ นั่นคือ "โกหก" หน้าตาเฉยว่าไม่ได้พูด หรือโบ้ยว่า สื่อความหมายผิดเสียอีก ซึ่งหากเป็นยุคโบราณสัก 60 ปี อาจจะอ้างแบบนั้นได้ แต่ในยุคนี้มีทั้งภาพและเสียงพิสูจน์ได้ชัด ยิ่งปฏิเสธก็ยิ่ง "กวนบาทา" และชี้ให้เห็นว่า "มันเลวจริงๆ" และ "คบไม่ได้" จริงๆ
00 แต่ที่น่าสมเพชเวทนาก็คงไม่มีใครเกิน ที่เวลานี้กำลังถูกเขียนบทให้ต้อง "บากหน้า" ไปเผชิญหน้ากับผู้นำกองทัพ ที่กำลัง"เล่นบทเข้ม" กับพวกกบฎเสื้อแดง และ "รมต.ขี้ข้า" ของตัวเอง ที่บังอาจปลุกระดมแยกประเทศ และยุให้คนเสื้อแดงจับอาวุธ โดยเฉพาะ "จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" ที่กำลังชะตาขาด ถูกไล่บี้ให้ถูกดำเนินคดี ฐานกบฏ และปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แถมยังมีสิทธิ์กลายเป็นชนวนนำไปสู่การ "ยุบพรรคเพื่อไทย" กันอีก และนี่แหละ คือสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเข้าไปหยั่งท่าทีกองทัพกันในที่ประชุมสภากลาโหม ทำขึงขังให้ผู้นำเหล่าทัพอย่าเป็นเครื่องมือทางการเมือง ความหมายก็คือ อย่าเอาเรื่องกับ "พวกแดงกบฎ" ต้องการสร้างกระแสบิดเบือนให้เห็นว่า กองทัพกำลังเป็นเครื่องมือของ กปปส. และกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ หลังจากที่ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งกำลังทหารเข้ามาบล็อกไม่ให้ "โจรก่อการร้าย" ก่อเหตุได้ตามอำเภอใจอีกต่อไป แต่งานนี้มองอีกด้านหนึ่งมันเหมือนกำลังเข้าสู่วาระสุดท้ายของเธอเข้าไปทุกขณะแล้ว เพราะนับตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.เป็นต้นมาถือว่า "หลักลอย" พ้นจากความเป็นรักษการนายกฯ โดยสิ้นเชิงแล้ว และสงสัยคงไม่ได้ไปอยู่ สปป.ล้านนา แต่น่าจะระเห็จไป "คุก" มากกว่า !!
กำลังโหลดความคิดเห็น