ผ่าประเด็นร้อน
รับรองว่าหากใครที่พอมีสติปัญญาอยู่บ้างก็ต้องรับรู้กันดีว่าต้นตอของปัญหาความมั่นคงของชาติในทุกเรื่อง ล้วนมาจาก ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น เพราะเขาเป็นที่มาของ รัฐบาลที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นที่มาของคนเสื้อแดง
ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นที่มาของ “ระบอบทักษิณ” ที่ทำลายสิ่งดีๆ ที่บ้านเมืองนี้เคยมีมา และคนพวกนี้แหละคือ “ขบวนการล้มเจ้า” ที่เคลื่อนไหวและปรากฏตัวมาช้านานแล้ว นับตั้งแต่เป็นรัฐบาลตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ที่เห็นในวันนี้ล้วนเกิดขึ้นเป็นขบวนการ เป็นขั้นเป็นตอน และรู้เห็นเป็นใจหรือเข้าด้วยช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจและทหาร เป็นอย่างดี เพียงแต่บังเอิญว่าปรากฏการณ์ที่เห็นดังกล่าวมันเกิดขึ้นในช่วงที่ “ฝีแตก” เกิดในยุคที่ชาวบ้านเขาได้เห็น “สันดาน” เห็นธาตุแท้กันแทบหมดแล้ว และที่สำคัญเกิดขึ้นในช่วงที่ชาวบ้านได้รับรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว ทั้ง ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็น “ของปลอม” ไม่ได้เก่งกาจดุจเทวดา แต่เป็นเพียงคน “ขี้โกง” เอาเปรียบคนอื่นเท่านั้น
การประกาศแยกดินแดน เพ้อเจ้อจะตั้งเป็น สปป.ล้านนา ประเทศอีสานล้านนา อะไรนั่น ที่เห็นขึ้นป้ายกันโครมครามในหลายพื้นที่ การสวนสนามในลักษณะเหมือนกองกำลัง การปลุกระดมทั้งจากพวกแกนนำเสื้อแดง รวมไปถึงคนระดับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรครัฐบาล และเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอย่าง จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่ให้สมาชิกคนเสื้อแดง “จับอาวุธ” ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นขบวนการ และมีพัฒนาการของมันเรื่อยมา
ที่สำคัญคนพวกนี้ล้วนเกี่ยวข้องและเป็นพวกเดียวกันกับ “ขบวนการล้มเจ้า” ที่เคลื่อนไหวทั้งบนดินและใต้ดินมาอย่างต่อเนื่อง เป็นพวกเดียวกับนักวิชาการแดงที่ผลักดันให้แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ลงโทษคนที่บังอาจจงใจ “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” เท่านั้น แต่คนพวกนี้ก็อ้างว่าได้รับความเดือดร้อน เป็นการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงคิดเห็น ซึ่งความหมายของคนพวกนี้ก็คือการขัดขวางไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์คือการขัดขวางเสรีภาพ เพราะถ้าไม่มีใครไปล่วงละเมิดสถาบันที่เทิดทูน ก็ไม่มีความผิดอยู่แล้ว
ดังนั้นเจตนาของคนพวกนี้มีอยู่เรื่องเดียวก็คือต้องการทำลายสถาบันฯ เท่านั้น
สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร แน่นอนว่า หากใครที่ติดตามพฤติกรรมมาอย่างใกล้ชิดรับรองว่าจะต้องได้เห็นว่าเขามีพฤติกรรมจาบจ้วง พระเจ้าอยู่หัวมานานแล้ว มีหลักฐานปรากฏอย่างต่อเนื่อง ทั้งการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศหลังจากเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 49 เขาก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศให้ร้ายอย่างชัดเจน จนที่ผ่านมาเขาถูกดำเนินคดีในข้อหา “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” แต่ในที่สุดหลังจากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็มีการ “สั่งไม่ฟ้อง” ในคดีดังกล่าวหน้าตาเฉย
นั่นเป็นแบ็กกราวนด์ของ ทักษิณ ชินวัตร กับพวกลูกน้องหรือบรรดา “ขี้ข้า” ในหลายรูปแบบ ได้เห็นพฤติกรรมให้เห็นชัดเจนมานานหลายปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น และที่สำคัญปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็ซ้ำซากอยู่ตลอดเวลา เป็นคนแก๊งเดียวกันทั้งหมด และที่น่าสังเกตก็คือมีเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในปัจจุบันกลุ่มเดียวกันนี่แหละร่วมสมัยมาตลอด แม้ว่าในตอนนั้นอาจยังไม่ใช่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดก็ตาม แน่นอนว่า ในตอนนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ก็ยังเป็นตำรวจ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังเป็นนายทหารระดับสูงอยู่แน่นอน
หากพิจารณากันแบบไม่ต้องเกรงใจกัน หรือเอาอกเอาใจกันจนเลยเถิดก็ต้องย้ำว่าสาเหตุที่ “ขบวนการอุบาทว์” ก่อการเหิมเกริมได้ขนาดนี้ เป็นเพราะเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหารวางเฉย เอาหูไปนาเอาตาไปไร่หรือเปล่า เพราะถ้าเอาจริงเอาจังมาตั้งแต่ต้น ทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างคงเส้นคงวา ไม่เกรงใจ หรือบางครั้งหลิ่วตาให้กับคนพวกนี้เสียอีก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในเวลานี้จะเริ่มหันมาเอาจริงเอาจังมีการสั่งจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “กบฏ” กันไปแล้ว แต่นั่นเป็นแค่ระดับปลายแถว “กระจอก” เกินไป
เพราะหัวโจกก็คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เวลานี้กำลังชักใยสั่งการรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และยังอยู่ดีมีสุข ดังนั้นหากต้องการกำจัดขบวนโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนกลุ่มใหญ่นี้ทิ้งไปก็ต้องกำจัด ระบอบทักษิณ ออกไปให้เด็ดขาดเท่านั้น!!