เหิมเกริมในกำลังนอกระบบ นึกว่าไม่มีใครหาญกล้าท้าทายกลุ่มพลัง ด้วยเหตุนี้แกนนำกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่ภาคเหนือ อีสานจึงผยองหนักข้อ ประกาศแยกแผ่นดิน เป็นประเทศล้านนา สปป.ล้านนา หรือแคว้นอีสานล้านนา
ความคิดเช่นนี้เกิดขึ้นทั้งๆ ที่บักเหลี่ยมและรัฐบาลนางบาปยังกุมอำนาจรัฐ ก้นทากาวติดหนึบรักษาการ ไม่แยแสว่าชาวบ้านกว่าครึ่งค่อนแผ่นดินร้องระงมจากความทุกข์สารพัด มหกรรมโกงบ้านกินเมืองสร้างหนี้แทบล่มจม
ไม่มียุคไหนที่ชาวนาตรอมใจหนักต้องฆ่าตัวตายเพราะโดนรัฐบาลโกงเงินในโครงการรับจำนำข้าว ค้างจ่ายเกินกว่า 1 แสนล้านบาท ขณะที่นางบาปและพวกขี้ฉ้อ เสนาบดีถ่อยร้อยลิ้นกะลาวน แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปแต่ละวัน
ดิ้นรนหาเงินจนสิ้นหนทาง กู้จากธนาคารไหนก็ไม่ได้ ออกตราสารการเงินก็ไม่มีใครซื้อ ตกอยู่ในสภาวะล้มละลายด้านความน่าเชื่อถือส่วนตัวและสิ้นสภาพของขีดความสามารถในการกู้ยืม เหลือแต่คราบทุรชนคนบาป
แนวคิดแยกประเทศไม่ใช่เกิดจากความคิดหลังจากกินข้าวอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ แกนนำเสื้อแดงประกาศแยกแผ่นดินโดยไม่กลัวกฎหมายเอาผิด จากนั้นก็มีเสียงรับลูกเป็นทอดๆ กระจายในภาคอีสาน เหนือและเสนาบดีถ่อย
นึกว่ากุมอำนาจรัฐคงไม่มีใครกล้าหือ! คงไม่รู้ว่ามีคน “กะบด” พวกกบฏ
เมื่อต้องการแยกแผ่นดิน แสดงว่าไม่มีที่ยืนในเมืองหลวง หลังจากนางบาปไม่สามารถเข้าไปเหยียบในทำเนียบไทยคู่ฟ้านานกว่า 2 เดือน อยู่ในสภาวะเร่ร่อนเป็นเหมือนสัมภเวสีผีไม่มีศาล ตะลอนๆ ไปใช้สำนักงานคนอื่น
ยิ่งโดนบีบคั้น อยู่ไปแต่ละวันมองไม่เห็นหนทางที่จะยื้อเพื่อรักษาอำนาจไว้ได้ และไม่ยอมรับอำนาจขององค์กรอิสระ พวกขี้ข้าบักเหลี่ยมไม่อยากลี้ภัย จึงต้องหาทางออกด้วยการแยกดินแดน เอาอีสานและภาคเหนือไว้เป็นถิ่นที่อยู่
“โกตี๋” แกนนำแดงระดับถ่อยโอหังหนักข้อ ประกาศให้เสื้อแดงแห่ไปปิดล้อมจับ ผบ.กองพล 1 และผู้การกรม 11 รอ. ด้านแกนนำภาคเหนือขึ้นป้ายแยกดินแดน จัดขบวนแห่อวดศักดาด้วยความห่ามห้าว ท้าทายกฎหมาย
แล้วก็มีปฏิกิริยาสนองตอบ แม่ทัพบก และแม่ทัพภาค 3 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความตำรวจให้เอาผิดพวกกร่างแบ่งแยกประเทศ ซึ่งมีโทษหนักขั้นประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวัน
โดนการใช้อำนาจกฎหมายของ กอ.รมน.แกนนำเสื้อแดงก็ร้องเอ๋งๆ ชิ่งหลบคดี อ้างแบบหน้าด้านๆ ว่าเป็นเพียงวาทกรรมการเมือง ไม่มีความหมายชัดเจน ทั้งๆ ที่พฤติกรรมเห็นชัดว่าเป็นความผิดสำเร็จมีหลักฐานหนักแน่น
ใครก็กลัวคุก กลัวโทษประหารชีวิต! นางบาปก็ไม่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ ช่วงแรกนางบาปทำเป็นวางเฉย ไม่ใส่ใจ การอยู่นิ่งเหมือนเป็นการให้ท้าย เพราะตัวเองจะได้ประโยชน์เต็มๆ จากการปลุกระดมมวลชนค้ำอำนาจ
ไอ้ริดยุคใหม่ไม่กินเหล้าแบล็ก กินแต่อามิสสินจ้างตอบแทนความเป็นขี้ข้า จึงวางเฉย ทำหน้าด้านเหมือนกับว่าการประกาศแบ่งแยกดินแดน เป็นเพียงข่าวฝนตกแดดออก ถ้าไม่จริงก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นจริงตัวเองก็ได้ประโยชน์เช่นกัน
หัวโจก ขี้ข้าบักเหลี่ยมในสภาความมั่นคงเห็นพวกเดียวกันพลาด เสี่ยงคดีอาญาร้ายแรง ก็อ้างหน้าตาเฉยว่าเป็นเพียงการแสดงออกทางอารมณ์ ถ้าจะฟ้องร้องทำคดี ศาลต้องใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์เพื่อความเที่ยงธรรม
พฤติกรรมแดงผยองมีทั้งการจัดตั้งกองกำลังตำรวจบ้าน 8,300 คนในจังหวัดพะเยา การระดมคนในโคราชและจังหวัดในอีสานโดยเจ้าของฉายา “แรมบ้า” หวังจัดตั้งกองกำลังถ้ามีเงื่อนไขขัดแย้งจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง
แกนนำเสื้อแดงแข่งกันชักนำชาวบ้านเข้าร่วมขบวนการอย่างจริงจัง มีทั้งสายใหญ่ สายย่อย แต่ละคนต่างต่อท่อน้ำเลี้ยงตรงจากบักเหลี่ยม ซึ่งยังโดนต้ม แลกกับความฝันลมๆ แล้งๆ ว่าจะยังมีโอกาสได้กลับมาเหยียบแผ่นดินเกิด
ดูสภาพแล้วคำว่า “ระบอบทักษิณ” น่าจะเป็นการยกย่องกันเกินไป อันที่จริงเป็นเพียงกลุ่มทุรชน โจรในระดับต่างๆ มารวมตัวกันเป็นแก๊งชุมโจรปล้นทรัพย์สินแผ่นดิน ตัวการใหญ่งาบคำโต ตัวจ้อยได้กินเพียงเศษเนื้อข้างเขียง
เมื่อผูกขาดโกงกินต่อเนื่องจากโครงการต่างๆ รวมทั้งกู้มาโกง ทำให้มั่งคั่งเป็นแสนๆ ล้านบาท ส่วนหนึ่งมีเครือข่ายออกทุนก่อการร้ายเพื่อรักษาอำนาจไว้ นึกว่าแผ่นดินไทยเป็นสมบัติของตระกูล มีตัวแทนกุมอำนาจรัฐ
การเผชิญหน้า วัดดวงตัดสินชะตากรรมในเดือนมีนาคมสำคัญยิ่ง เมื่อมีปัจจัยและตัวแปรสำหรับการแปรผัน ฐานอำนาจของนางบาปเรื่องเสื่อมสลาย ตำรวจตัวเป้งดิ้นรนเอาตัวรอด ไม่อยากลี้ภัยไปต่างประเทศเหมือนบักเหลี่ยม
ความเสี่ยงจากการก่อการร้ายป่วนเมืองยังมีอยู่ แม้ กปปส.ได้ยุบเวทีเปิดกลางถนนเข้าไปชุมนุมในสวนลุมพินีก็ตาม บักเหลี่ยมนางบาปเหมือนไก่ชนเลือดเข้าตา นางบาปปล่อยวาทกรรมโออ่าว่าขอตายคาเวทีประชาธิปไตย
นางบาปเหมือนตายทั้งเป็น อยู่ไปแต่ละวันอย่างไร้ราคา สิ้นสภาพผู้นำรัฐ ถ้าหนีทันก็ไม่ต้องตายคาเวทีหรือติดคุก จะหวังฟลุกรอดคดีนั้น ยากยิ่งนัก!
ความคิดเช่นนี้เกิดขึ้นทั้งๆ ที่บักเหลี่ยมและรัฐบาลนางบาปยังกุมอำนาจรัฐ ก้นทากาวติดหนึบรักษาการ ไม่แยแสว่าชาวบ้านกว่าครึ่งค่อนแผ่นดินร้องระงมจากความทุกข์สารพัด มหกรรมโกงบ้านกินเมืองสร้างหนี้แทบล่มจม
ไม่มียุคไหนที่ชาวนาตรอมใจหนักต้องฆ่าตัวตายเพราะโดนรัฐบาลโกงเงินในโครงการรับจำนำข้าว ค้างจ่ายเกินกว่า 1 แสนล้านบาท ขณะที่นางบาปและพวกขี้ฉ้อ เสนาบดีถ่อยร้อยลิ้นกะลาวน แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปแต่ละวัน
ดิ้นรนหาเงินจนสิ้นหนทาง กู้จากธนาคารไหนก็ไม่ได้ ออกตราสารการเงินก็ไม่มีใครซื้อ ตกอยู่ในสภาวะล้มละลายด้านความน่าเชื่อถือส่วนตัวและสิ้นสภาพของขีดความสามารถในการกู้ยืม เหลือแต่คราบทุรชนคนบาป
แนวคิดแยกประเทศไม่ใช่เกิดจากความคิดหลังจากกินข้าวอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ แกนนำเสื้อแดงประกาศแยกแผ่นดินโดยไม่กลัวกฎหมายเอาผิด จากนั้นก็มีเสียงรับลูกเป็นทอดๆ กระจายในภาคอีสาน เหนือและเสนาบดีถ่อย
นึกว่ากุมอำนาจรัฐคงไม่มีใครกล้าหือ! คงไม่รู้ว่ามีคน “กะบด” พวกกบฏ
เมื่อต้องการแยกแผ่นดิน แสดงว่าไม่มีที่ยืนในเมืองหลวง หลังจากนางบาปไม่สามารถเข้าไปเหยียบในทำเนียบไทยคู่ฟ้านานกว่า 2 เดือน อยู่ในสภาวะเร่ร่อนเป็นเหมือนสัมภเวสีผีไม่มีศาล ตะลอนๆ ไปใช้สำนักงานคนอื่น
ยิ่งโดนบีบคั้น อยู่ไปแต่ละวันมองไม่เห็นหนทางที่จะยื้อเพื่อรักษาอำนาจไว้ได้ และไม่ยอมรับอำนาจขององค์กรอิสระ พวกขี้ข้าบักเหลี่ยมไม่อยากลี้ภัย จึงต้องหาทางออกด้วยการแยกดินแดน เอาอีสานและภาคเหนือไว้เป็นถิ่นที่อยู่
“โกตี๋” แกนนำแดงระดับถ่อยโอหังหนักข้อ ประกาศให้เสื้อแดงแห่ไปปิดล้อมจับ ผบ.กองพล 1 และผู้การกรม 11 รอ. ด้านแกนนำภาคเหนือขึ้นป้ายแยกดินแดน จัดขบวนแห่อวดศักดาด้วยความห่ามห้าว ท้าทายกฎหมาย
แล้วก็มีปฏิกิริยาสนองตอบ แม่ทัพบก และแม่ทัพภาค 3 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความตำรวจให้เอาผิดพวกกร่างแบ่งแยกประเทศ ซึ่งมีโทษหนักขั้นประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวัน
โดนการใช้อำนาจกฎหมายของ กอ.รมน.แกนนำเสื้อแดงก็ร้องเอ๋งๆ ชิ่งหลบคดี อ้างแบบหน้าด้านๆ ว่าเป็นเพียงวาทกรรมการเมือง ไม่มีความหมายชัดเจน ทั้งๆ ที่พฤติกรรมเห็นชัดว่าเป็นความผิดสำเร็จมีหลักฐานหนักแน่น
ใครก็กลัวคุก กลัวโทษประหารชีวิต! นางบาปก็ไม่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ ช่วงแรกนางบาปทำเป็นวางเฉย ไม่ใส่ใจ การอยู่นิ่งเหมือนเป็นการให้ท้าย เพราะตัวเองจะได้ประโยชน์เต็มๆ จากการปลุกระดมมวลชนค้ำอำนาจ
ไอ้ริดยุคใหม่ไม่กินเหล้าแบล็ก กินแต่อามิสสินจ้างตอบแทนความเป็นขี้ข้า จึงวางเฉย ทำหน้าด้านเหมือนกับว่าการประกาศแบ่งแยกดินแดน เป็นเพียงข่าวฝนตกแดดออก ถ้าไม่จริงก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นจริงตัวเองก็ได้ประโยชน์เช่นกัน
หัวโจก ขี้ข้าบักเหลี่ยมในสภาความมั่นคงเห็นพวกเดียวกันพลาด เสี่ยงคดีอาญาร้ายแรง ก็อ้างหน้าตาเฉยว่าเป็นเพียงการแสดงออกทางอารมณ์ ถ้าจะฟ้องร้องทำคดี ศาลต้องใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์เพื่อความเที่ยงธรรม
พฤติกรรมแดงผยองมีทั้งการจัดตั้งกองกำลังตำรวจบ้าน 8,300 คนในจังหวัดพะเยา การระดมคนในโคราชและจังหวัดในอีสานโดยเจ้าของฉายา “แรมบ้า” หวังจัดตั้งกองกำลังถ้ามีเงื่อนไขขัดแย้งจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง
แกนนำเสื้อแดงแข่งกันชักนำชาวบ้านเข้าร่วมขบวนการอย่างจริงจัง มีทั้งสายใหญ่ สายย่อย แต่ละคนต่างต่อท่อน้ำเลี้ยงตรงจากบักเหลี่ยม ซึ่งยังโดนต้ม แลกกับความฝันลมๆ แล้งๆ ว่าจะยังมีโอกาสได้กลับมาเหยียบแผ่นดินเกิด
ดูสภาพแล้วคำว่า “ระบอบทักษิณ” น่าจะเป็นการยกย่องกันเกินไป อันที่จริงเป็นเพียงกลุ่มทุรชน โจรในระดับต่างๆ มารวมตัวกันเป็นแก๊งชุมโจรปล้นทรัพย์สินแผ่นดิน ตัวการใหญ่งาบคำโต ตัวจ้อยได้กินเพียงเศษเนื้อข้างเขียง
เมื่อผูกขาดโกงกินต่อเนื่องจากโครงการต่างๆ รวมทั้งกู้มาโกง ทำให้มั่งคั่งเป็นแสนๆ ล้านบาท ส่วนหนึ่งมีเครือข่ายออกทุนก่อการร้ายเพื่อรักษาอำนาจไว้ นึกว่าแผ่นดินไทยเป็นสมบัติของตระกูล มีตัวแทนกุมอำนาจรัฐ
การเผชิญหน้า วัดดวงตัดสินชะตากรรมในเดือนมีนาคมสำคัญยิ่ง เมื่อมีปัจจัยและตัวแปรสำหรับการแปรผัน ฐานอำนาจของนางบาปเรื่องเสื่อมสลาย ตำรวจตัวเป้งดิ้นรนเอาตัวรอด ไม่อยากลี้ภัยไปต่างประเทศเหมือนบักเหลี่ยม
ความเสี่ยงจากการก่อการร้ายป่วนเมืองยังมีอยู่ แม้ กปปส.ได้ยุบเวทีเปิดกลางถนนเข้าไปชุมนุมในสวนลุมพินีก็ตาม บักเหลี่ยมนางบาปเหมือนไก่ชนเลือดเข้าตา นางบาปปล่อยวาทกรรมโออ่าว่าขอตายคาเวทีประชาธิปไตย
นางบาปเหมือนตายทั้งเป็น อยู่ไปแต่ละวันอย่างไร้ราคา สิ้นสภาพผู้นำรัฐ ถ้าหนีทันก็ไม่ต้องตายคาเวทีหรือติดคุก จะหวังฟลุกรอดคดีนั้น ยากยิ่งนัก!
