นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ที่ประชุมได้มีการคำร้องของ นายกิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะ โดยที่ประชุมยังเห็นว่า มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม จึงมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานฯไปหาข้อมูล ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เนื่องจากคำร้องมีความแตกต่างจากคำร้องของ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผู้ตรวจมีคำวินิจฉัยไม่รับไปก่อนหน้านี้
ดังนั้นผู้ตรวจฯจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และคาดว่าในการประชุมวันอังคาร 4 มี.ค. ทางฝ่ายกฎหมายก็จะเสนอให้ผู้ตรวจพิจารณาอีกครั้ง
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติรับคำร้องที่พระพุทธะอิสระ แกนนำ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ร้องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ พ.ต.อ. พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พ.ต.ท.อุดม รุจิระชาคร พนักงานสอบสวน กรณีขออนุมัติหมายจับพระพุทธะอิสระโดยมิชอบ เนื่องจากที่ประชุมผู้ตรวจฯเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการร้องเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งอยู่ในอำนาจที่ผู้ตรวจสามารถพิจารณาได้ โดยจะได้มีหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกร้องทั้ง 3 ให้ชี้แจง
ส่วนกรณีนายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย ยื่นขอให้ผู้ตรวจสอบผู้ที่กระทำทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและเยียวยาให้ชาวนาได้รับเงินจากการจำนำข้าวนั้น ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นว่า ก่อนหน้านี้ในเรื่องการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะได้ยุติเรื่อง แต่ก็ได้ส่งข้อมูลการทุจริตไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช.ดำเนินการต่อซึ่งก็ได้มีการดำเนินการสอบสวนจนกระทั่งมีมติเรียก
บุคคลมาชี้แจง
ดังนั้นเมื่อทางเครือข่ายชาวนาไทย ได้ยื่นคำร้องมาก็จะส่งประเด็นเรื่องการทุจริตไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ ขณะที่ในเรื่องการเยียวยาชาวนาให้ได้รับเงินจำนำข้าวนั้น ทางผู้ตรวจไม่ได้มีอำนาจโดยตรงที่จะสั่งให้มีเยียวยา และเห็นว่าก่อนหน้านี้ ผู้ตรวจฯ เคยมีหนังสือเป็นข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาโครงการรับจำนำข้าวไปยังนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้เมื่อชาวนามีความเดือดร้อน และรัฐบาลเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาเยียวยา รวมทั้งผู้ตรวจฯ เข้าใจดีว่า ทางรัฐบาลกำลังพยายามในการที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่ ทางที่ประชุมผู้ตรวจฯ จึงมีมติให้มีหนังสือแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรี ทราบถึงความเดือดร้อนของชาวนา โดยขณะนี้ทั้ง 2 เรื่องอยู่ในระหว่างการยกร่างหนังสือเพื่อส่งไปยังหน่วยงานตามที่ที่ประชุมผู้ตรวจมีมติ
ดังนั้นผู้ตรวจฯจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และคาดว่าในการประชุมวันอังคาร 4 มี.ค. ทางฝ่ายกฎหมายก็จะเสนอให้ผู้ตรวจพิจารณาอีกครั้ง
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติรับคำร้องที่พระพุทธะอิสระ แกนนำ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ร้องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ พ.ต.อ. พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พ.ต.ท.อุดม รุจิระชาคร พนักงานสอบสวน กรณีขออนุมัติหมายจับพระพุทธะอิสระโดยมิชอบ เนื่องจากที่ประชุมผู้ตรวจฯเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการร้องเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งอยู่ในอำนาจที่ผู้ตรวจสามารถพิจารณาได้ โดยจะได้มีหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกร้องทั้ง 3 ให้ชี้แจง
ส่วนกรณีนายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย ยื่นขอให้ผู้ตรวจสอบผู้ที่กระทำทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและเยียวยาให้ชาวนาได้รับเงินจากการจำนำข้าวนั้น ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นว่า ก่อนหน้านี้ในเรื่องการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะได้ยุติเรื่อง แต่ก็ได้ส่งข้อมูลการทุจริตไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช.ดำเนินการต่อซึ่งก็ได้มีการดำเนินการสอบสวนจนกระทั่งมีมติเรียก
บุคคลมาชี้แจง
ดังนั้นเมื่อทางเครือข่ายชาวนาไทย ได้ยื่นคำร้องมาก็จะส่งประเด็นเรื่องการทุจริตไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ ขณะที่ในเรื่องการเยียวยาชาวนาให้ได้รับเงินจำนำข้าวนั้น ทางผู้ตรวจไม่ได้มีอำนาจโดยตรงที่จะสั่งให้มีเยียวยา และเห็นว่าก่อนหน้านี้ ผู้ตรวจฯ เคยมีหนังสือเป็นข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาโครงการรับจำนำข้าวไปยังนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้เมื่อชาวนามีความเดือดร้อน และรัฐบาลเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาเยียวยา รวมทั้งผู้ตรวจฯ เข้าใจดีว่า ทางรัฐบาลกำลังพยายามในการที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่ ทางที่ประชุมผู้ตรวจฯ จึงมีมติให้มีหนังสือแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรี ทราบถึงความเดือดร้อนของชาวนา โดยขณะนี้ทั้ง 2 เรื่องอยู่ในระหว่างการยกร่างหนังสือเพื่อส่งไปยังหน่วยงานตามที่ที่ประชุมผู้ตรวจมีมติ
