ASTVผู้จัดการรายวัน-ผังเมืองปลดล็อก รถไฟฟ้าสายสีเหลืองตัดผ่าน “ซีคอน” สบโอกาสทอง ทุ่ม 15,000 ล้านบาท ปัดฝุ่นโปรเจกต์ “ซีคอน ซิตี้” เตรียมผงาดใน 5ปี พร้อมเพิ่มพื้นที่ซีคอนสแควร์อีก 30,000 ตารางเมตร ภายใต้เงินลงทุนรวมกว่า 1,800 ล้านบาทของปี57 สู้ศึกรีเทลย่านศรีนครินทร์ มั่นใจช่วยเร่งการเติบโตใน3ธุรกิจ ได้อีก 5.5-8.9% ในสิ้นปี จากปีก่อนมีรายได้จาก3ธุรกิจรวมกันกว่ามีมูลค่า 2,278 ล้านบาท
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีคอน บางแค จำกัด เปิดเผยว่า จากการปรับผังเมืองใหม่ครั้งที่ 3 ได้ประกาศใช้เมื่อ พ.ค. 2556 ที่ผ่านมา ที่ระบุให้ย่านศรีนครินทร์เป็นโซนสีส้ม ย.6 ที่สามารถสร้างอาคารได้เกิน 10,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดใหญ่พิเศษ บวกกับข้อมูลจากทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ที่จะเริ่มโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองภายในปีนี้ และจะแล้วเสร็จในปี 2561 ถือเป็นโอกาสที่ดีในการนำโครงการ “ซีคอน ซิตี้” บนพื้นที่กว่า 120 ไร่ที่เคยระงับไว้ กลับมาพิจารณาการลงทุนใหม่อีกครั้ง
สำหรับโครงการซีคอน ซิตี้ ครั้งนี้ ได้วางงบลงทุนไว้ที่ 15,000 ล้านบาท แหล่งทุนมาจากกระแสเงินสด 50% และเป็นการยื่นขอกู้อีก 50% ล่าสุดยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นเท่านั้น โดยจะต้องมีการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ เพราะโครงการนี้เดิมวางไว้ตั้ง 10 ปีก่อน รวมถึงต้องปรับโมเดลใหม่และคอนเซปต์ใหม่ ต้องมีจุดเด่นและจุดขายที่แตกต่าง เบื้องต้นจะเป็นโครงการคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่และมีความเป็นพรีเมี่ยมกว่าซีคอนสแควร์
เบื้องต้นภายในโครงการจะประกอบด้วย คอนโดมิเนียม, เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์, ศูนย์การศึกษา,อาคารสำนักงาน, สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เป็นต้น จับกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง และกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อให้สอดรับการแข่งขันของธุรกิจศูนย์การค้าที่รุนแรงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆเกิดขึ้นอีกมาก จากการเกิดของแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ หลังจากรถไฟฟ้าตัดผ่าน เชื่อว่าหลังจากศึกษาความเป็นไปได้ในปีนี้แล้ว จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปีหน้าและคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการในระยะเวลา 5 ปี
นายตะติยะ กล่าวต่อว่า ส่วนภาพรวมการลงทุนปกติของปีนี้ คาดว่าจะใช้งบไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท สำหรับ 3 ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ คือ 1.ศูนย์การค้า ซีคอน สแควร์ ปีนี้จะมีการขยายพื้นที่รีเทลและที่จอดรถเพิ่มเติม รวมพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท จากเดิมที่มีพื้นที่กว่า 470,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังจะมีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่อีก 2-3 โซน ด้วยงบอีกกว่า 200 ล้านบาท เช่น แบงกิ้งโซน, ฟู้ดคอร์ทใหม่ เป็นต้น และงบการตลาดอีก 70 ล้านบาท
2.ศูนย์การค้า ซีคอน บางแค ปีนี้จะเพิ่มโซนเอ็ดดูเคชั่น และไอซ์สเก็ต ด้วยงบ 100 ล้านบาท พร้อมงบการตลาดอีก 120 ล้านบาท สร้างกิจกรรมตลอดปีอีก 10 กว่างาน เพื่อเพิ่มทราฟฟิก และ3.โรงแรม เรเนซองส์ ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา กับงบปรับปรุงเพิ่มเติมอีก15 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา มีรายได้รวมจาก 3 ธุรกิจกว่า 2,278 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ซีคอนสแควร์มีรายได้ 1,386 ล้านบาท โต 5% ในสิ้นปีนี้คาดโตขึ้นอีก 5.5%
ส่วนซีคอน บางแค ปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่เปิดให้บริการและมีรายได้ถึง 530 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้มองว่าจะเติบโตได้กว่า 8.9% และในส่วนของโรงแรมนั้นจากปีก่อนมีรายได้ 362 ล้านบาทโต 11% ปีนี้น่าจะโตอีกอย่างน้อย 8.5% โดยคาดหวังว่าปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นจะจบลงได้เร็ววัน และเชื่อว่าปัญหาการเมืองในระยะสั้น อาจจะกระทบกับธุรกิจรายเล็กบ้างและจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดรเร็ว ซึ่งซีคอนยังโชคดี เพราะทั้ง2ศูนย์อยู่นอกพื้นที่การชุมนุม
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีคอน บางแค จำกัด เปิดเผยว่า จากการปรับผังเมืองใหม่ครั้งที่ 3 ได้ประกาศใช้เมื่อ พ.ค. 2556 ที่ผ่านมา ที่ระบุให้ย่านศรีนครินทร์เป็นโซนสีส้ม ย.6 ที่สามารถสร้างอาคารได้เกิน 10,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดใหญ่พิเศษ บวกกับข้อมูลจากทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ที่จะเริ่มโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองภายในปีนี้ และจะแล้วเสร็จในปี 2561 ถือเป็นโอกาสที่ดีในการนำโครงการ “ซีคอน ซิตี้” บนพื้นที่กว่า 120 ไร่ที่เคยระงับไว้ กลับมาพิจารณาการลงทุนใหม่อีกครั้ง
สำหรับโครงการซีคอน ซิตี้ ครั้งนี้ ได้วางงบลงทุนไว้ที่ 15,000 ล้านบาท แหล่งทุนมาจากกระแสเงินสด 50% และเป็นการยื่นขอกู้อีก 50% ล่าสุดยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นเท่านั้น โดยจะต้องมีการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ เพราะโครงการนี้เดิมวางไว้ตั้ง 10 ปีก่อน รวมถึงต้องปรับโมเดลใหม่และคอนเซปต์ใหม่ ต้องมีจุดเด่นและจุดขายที่แตกต่าง เบื้องต้นจะเป็นโครงการคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่และมีความเป็นพรีเมี่ยมกว่าซีคอนสแควร์
เบื้องต้นภายในโครงการจะประกอบด้วย คอนโดมิเนียม, เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์, ศูนย์การศึกษา,อาคารสำนักงาน, สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เป็นต้น จับกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง และกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อให้สอดรับการแข่งขันของธุรกิจศูนย์การค้าที่รุนแรงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆเกิดขึ้นอีกมาก จากการเกิดของแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ หลังจากรถไฟฟ้าตัดผ่าน เชื่อว่าหลังจากศึกษาความเป็นไปได้ในปีนี้แล้ว จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปีหน้าและคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการในระยะเวลา 5 ปี
นายตะติยะ กล่าวต่อว่า ส่วนภาพรวมการลงทุนปกติของปีนี้ คาดว่าจะใช้งบไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท สำหรับ 3 ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ คือ 1.ศูนย์การค้า ซีคอน สแควร์ ปีนี้จะมีการขยายพื้นที่รีเทลและที่จอดรถเพิ่มเติม รวมพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท จากเดิมที่มีพื้นที่กว่า 470,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังจะมีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่อีก 2-3 โซน ด้วยงบอีกกว่า 200 ล้านบาท เช่น แบงกิ้งโซน, ฟู้ดคอร์ทใหม่ เป็นต้น และงบการตลาดอีก 70 ล้านบาท
2.ศูนย์การค้า ซีคอน บางแค ปีนี้จะเพิ่มโซนเอ็ดดูเคชั่น และไอซ์สเก็ต ด้วยงบ 100 ล้านบาท พร้อมงบการตลาดอีก 120 ล้านบาท สร้างกิจกรรมตลอดปีอีก 10 กว่างาน เพื่อเพิ่มทราฟฟิก และ3.โรงแรม เรเนซองส์ ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา กับงบปรับปรุงเพิ่มเติมอีก15 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา มีรายได้รวมจาก 3 ธุรกิจกว่า 2,278 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ซีคอนสแควร์มีรายได้ 1,386 ล้านบาท โต 5% ในสิ้นปีนี้คาดโตขึ้นอีก 5.5%
ส่วนซีคอน บางแค ปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่เปิดให้บริการและมีรายได้ถึง 530 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้มองว่าจะเติบโตได้กว่า 8.9% และในส่วนของโรงแรมนั้นจากปีก่อนมีรายได้ 362 ล้านบาทโต 11% ปีนี้น่าจะโตอีกอย่างน้อย 8.5% โดยคาดหวังว่าปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นจะจบลงได้เร็ววัน และเชื่อว่าปัญหาการเมืองในระยะสั้น อาจจะกระทบกับธุรกิจรายเล็กบ้างและจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดรเร็ว ซึ่งซีคอนยังโชคดี เพราะทั้ง2ศูนย์อยู่นอกพื้นที่การชุมนุม